Iron Condor Strategy
- Iron Condor Strategy
Iron Condor เป็นกลยุทธ์การเทรดออปชั่นแบบเป็นกลาง (Neutral Strategy) ที่ใช้เมื่อคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะไม่เคลื่อนไหวอย่างมีนัยสำคัญในช่วงเวลาที่กำหนด กลยุทธ์นี้มีลักษณะเป็นการจำกัดความเสี่ยงและจำกัดผลกำไรสูงสุด โดยอาศัยการลดค่าของออปชั่น (Time Decay) และความผันผวนที่ซบเซา (Low Volatility) เพื่อสร้างผลกำไร กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่คาดการณ์ว่าตลาดจะอยู่ในช่วง Sideways หรือ Consolidation
- หลักการทำงานของ Iron Condor
Iron Condor ประกอบด้วยการรวมกันของสองกลยุทธ์ คือ Short Straddle และ Short Strangle โดยมีรายละเอียดดังนี้
- **Short Call Spread**: ขาย Call Option ที่ Strike Price ต่ำ (K1) และซื้อ Call Option ที่ Strike Price สูงกว่า (K2) โดย K2 > K1 การทำเช่นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อจำกัดความเสี่ยงหากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงสูงขึ้นอย่างมาก
- **Short Put Spread**: ขาย Put Option ที่ Strike Price สูง (K3) และซื้อ Put Option ที่ Strike Price ต่ำกว่า (K4) โดย K3 > K4 การทำเช่นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อจำกัดความเสี่ยงหากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงลดลงอย่างมาก
โดยปกติแล้ว K1 < K3 และ K2 > K4 เพื่อให้ครอบคลุมช่วงราคาที่คาดการณ์ไว้
- องค์ประกอบของ Iron Condor
- **Strike Price (ราคาใช้สิทธิ)**: ราคาที่ผู้ถือออปชั่นสามารถซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิงได้
- **Premium (ค่าพรีเมี่ยม)**: จำนวนเงินที่ผู้ซื้อออปชั่นจ่ายให้ผู้ขายออปชั่น
- **Expiration Date (วันหมดอายุ)**: วันที่ออปชั่นหมดอายุ
- **Maximum Profit (ผลกำไรสูงสุด)**: ผลกำไรสูงสุดที่สามารถทำได้จากกลยุทธ์นี้ ซึ่งเท่ากับพรีเมี่ยมสุทธิที่ได้รับ (Premium Received - Premium Paid)
- **Maximum Loss (ความเสี่ยงสูงสุด)**: ความเสี่ยงสูงสุดที่อาจเกิดขึ้นจากกลยุทธ์นี้ ซึ่งถูกจำกัดโดยระยะห่างระหว่าง Strike Price ของ Call และ Put Option
- **Break-Even Points (จุดคุ้มทุน)**: จุดที่ผลกำไรหรือขาดทุนเท่ากับศูนย์
- การสร้าง Iron Condor ในทางปฏิบัติ
สมมติว่าหุ้น XYZ ปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ 50 บาท และคาดการณ์ว่าราคาจะไม่เคลื่อนไหวมากนักในช่วงเดือนหน้า เราสามารถสร้าง Iron Condor ได้ดังนี้:
1. ขาย Call Option ที่ Strike Price 55 บาท ได้พรีเมี่ยม 1 บาท 2. ซื้อ Call Option ที่ Strike Price 60 บาท ได้พรีเมี่ยม 0.50 บาท 3. ขาย Put Option ที่ Strike Price 45 บาท ได้พรีเมี่ยม 1 บาท 4. ซื้อ Put Option ที่ Strike Price 40 บาท ได้พรีเมี่ยม 0.50 บาท
พรีเมี่ยมสุทธิที่ได้รับคือ (1 + 1) - (0.50 + 0.50) = 1 บาท
- **ผลกำไรสูงสุด**: 1 บาทต่อหุ้น
- **ความเสี่ยงสูงสุด**: (55-40) - 1 = 14 บาทต่อหุ้น (หากราคาเคลื่อนไหวเกินช่วง Strike Price)
- **จุดคุ้มทุน**: สามารถคำนวณได้จาก Strike Price ของ Call และ Put Option โดยพิจารณาพรีเมี่ยมที่ได้รับ
- ข้อดีและข้อเสียของ Iron Condor
| ข้อดี | ข้อเสีย |
|---|---|
| จำกัดความเสี่ยงทั้งขาขึ้นและขาลง | ต้องมีการบริหารจัดการอย่างใกล้ชิด |
| สร้างผลกำไรจาก Time Decay และ Low Volatility | ผลกำไรถูกจำกัด |
| เหมาะสำหรับตลาด Sideways หรือ Consolidation | ต้องเสียค่าคอมมิชชั่นในการซื้อขายออปชั่นหลายสัญญา |
| สามารถปรับปรุงกลยุทธ์ได้ตามสภาวะตลาด | อาจเกิดความซับซ้อนสำหรับผู้เริ่มต้น |
- การบริหารจัดการความเสี่ยง
การบริหารจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเทรด Iron Condor:
- **กำหนด Maximum Loss**: รู้ว่าความเสี่ยงสูงสุดที่คุณยอมรับได้คือเท่าไหร่
- **Monitor Positions**: ตรวจสอบสถานะของออปชั่นอย่างสม่ำเสมอ
- **Adjust Positions**: ปรับปรุงกลยุทธ์หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเคลื่อนไหวเกินคาดการณ์ อาจรวมถึงการ Roll Options (เลื่อนวันหมดอายุ) หรือ Closing Positions (ปิดสถานะ)
- **Diversification**: กระจายความเสี่ยงโดยการเทรด Iron Condor ในสินทรัพย์อ้างอิงที่หลากหลาย
- **Stop-Loss Orders**: ตั้ง Stop-Loss Orders เพื่อจำกัดความเสียหายหากราคาเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง
- การเลือกสินทรัพย์อ้างอิง
การเลือกสินทรัพย์อ้างอิงที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญต่อความสำเร็จของ Iron Condor:
- **Low Volatility**: เลือกสินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำ
- **Sideways Market**: เลือกสินทรัพย์ที่อยู่ในช่วง Sideways หรือ Consolidation
- **Liquidity**: เลือกสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง เพื่อให้สามารถซื้อขายออปชั่นได้อย่างง่ายดาย
- การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์พื้นฐาน
การใช้ การวิเคราะห์ทางเทคนิค และ การวิเคราะห์พื้นฐาน สามารถช่วยในการตัดสินใจเลือกสินทรัพย์อ้างอิงและกำหนด Strike Price ที่เหมาะสม:
- **Support and Resistance Levels**: ระดับแนวรับและแนวต้านสามารถช่วยระบุช่วงราคาที่คาดว่าจะมีการ Consolidation
- **Moving Averages**: เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สามารถช่วยระบุแนวโน้มของราคา
- **Volatility Indicators**: เครื่องมือวัดความผันผวน เช่น Bollinger Bands และ Average True Range (ATR) สามารถช่วยประเมินความเสี่ยง
- **Economic Calendar**: ปฏิทินเศรษฐกิจสามารถช่วยคาดการณ์เหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง
- กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง
- Short Straddle: กลยุทธ์การขายทั้ง Call และ Put Option ที่ Strike Price เดียวกัน
- Short Strangle: กลยุทธ์การขาย Call และ Put Option ที่ Strike Price ที่แตกต่างกัน
- Butterfly Spread: กลยุทธ์ที่ใช้ประโยชน์จากความคาดหวังว่าราคาจะไม่เคลื่อนไหวมากนัก
- Condor Spread: กลยุทธ์ที่คล้ายกับ Iron Condor แต่ใช้ Call Option หรือ Put Option เพียงอย่างเดียว
- Covered Call: กลยุทธ์การขาย Call Option บนหุ้นที่ถืออยู่
- Protective Put: กลยุทธ์การซื้อ Put Option เพื่อป้องกันความเสี่ยงขาลง
- Collar: กลยุทธ์การรวม Covered Call และ Protective Put
- Ratio Spread: กลยุทธ์ที่ใช้การซื้อขายออปชั่นในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน
- Calendar Spread: กลยุทธ์ที่ใช้การซื้อขายออปชั่นที่มีวันหมดอายุที่แตกต่างกัน
- Diagonal Spread: กลยุทธ์ที่ผสมผสานทั้ง Strike Price และวันหมดอายุที่แตกต่างกัน
- Long Straddle: กลยุทธ์การซื้อทั้ง Call และ Put Option ที่ Strike Price เดียวกัน
- Long Strangle: กลยุทธ์การซื้อ Call และ Put Option ที่ Strike Price ที่แตกต่างกัน
- Risk Reversal: กลยุทธ์การซื้อ Call และขาย Put Option
- Straddle Ratio: กลยุทธ์ที่ใช้การซื้อขาย Call และ Put Option ในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน
- Iron Butterfly: กลยุทธ์ที่คล้ายกับ Iron Condor แต่ Strike Prices ใกล้เคียงกันมากขึ้น
- การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis)
การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย สามารถช่วยยืนยันแนวโน้มและสัญญาณที่ได้จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค:
- **Volume Confirmation**: ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นในทิศทางของแนวโน้มสามารถยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มนั้น
- **Volume Divergence**: ปริมาณการซื้อขายที่ลดลงเมื่อราคาเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับแนวโน้มอาจบ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม
- **On Balance Volume (OBV)**: เครื่องมือที่ใช้ในการวัดแรงกดดันในการซื้อขาย
- การใช้ Indicators
การใช้ Indicators ต่างๆ สามารถช่วยในการตัดสินใจเทรด:
- **Relative Strength Index (RSI)**: ใช้ในการวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม
- **Moving Average Convergence Divergence (MACD)**: ใช้ในการระบุการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม
- **Stochastic Oscillator**: ใช้ในการระบุสภาวะ Overbought และ Oversold
- แนวโน้ม (Trends)
การระบุ แนวโน้ม ของตลาดเป็นสิ่งสำคัญ:
- **Uptrend**: แนวโน้มขาขึ้น
- **Downtrend**: แนวโน้มขาลง
- **Sideways Trend**: แนวโน้ม Sideways หรือ Consolidation
- การเทรดไบนารี่ออปชั่น (Binary Options) และ Iron Condor
แม้ว่า Iron Condor จะเป็นกลยุทธ์ที่ใช้กับออปชั่นแบบดั้งเดิม แต่แนวคิดเรื่องการจำกัดความเสี่ยงและผลกำไรสูงสุด สามารถนำมาปรับใช้กับการเทรด ไบนารี่ออปชั่น ได้ โดยการเลือกสัญญาที่มีระยะเวลาสั้นและคาดการณ์ทิศทางราคาอย่างแม่นยำ
- สรุป
Iron Condor เป็นกลยุทธ์ที่ซับซ้อนแต่มีประสิทธิภาพสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ กลยุทธ์นี้ต้องการความเข้าใจในออปชั่น การบริหารจัดการความเสี่ยง และการวิเคราะห์ตลาดอย่างละเอียด การฝึกฝนและการทดลองใช้กลยุทธ์นี้ในบัญชี Demo ก่อนที่จะลงทุนด้วยเงินจริงเป็นสิ่งสำคัญ
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
