Volatility Risk

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
  1. ความเสี่ยงจากความผันผวน (Volatility Risk) ในไบนารี่ออปชั่น

ความผันผวน (Volatility) เป็นหัวใจสำคัญของการซื้อขายในตลาดการเงินทั้งหมด รวมถึงตลาด ไบนารี่ออปชั่น ด้วย การเข้าใจถึงความเสี่ยงจากความผันผวน (Volatility Risk) เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือผู้มีประสบการณ์ก็ตาม บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับความเสี่ยงจากความผันผวนในบริบทของไบนารี่ออปชั่น รวมถึงวิธีการประเมิน จัดการ และลดความเสี่ยงดังกล่าว

ความผันผวนคืออะไร?

ความผันผวน คือ การวัดระดับการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์ในช่วงเวลาหนึ่ง โดยทั่วไปแล้ว จะวัดเป็นเปอร์เซ็นต์ต่อปี (Annualized Percentage) ความผันผวนสูงหมายถึงราคามีแนวโน้มที่จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง ในขณะที่ความผันผวนต่ำหมายถึงราคามีแนวโน้มที่จะมีความเสถียรมากกว่า

ในตลาดไบนารี่ออปชั่น ความผันผวนส่งผลโดยตรงต่อความน่าจะเป็นในการทำกำไรของออปชั่นของคุณ หากความผันผวนสูงขึ้น ความน่าจะเป็นที่ราคาจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่คุณคาดการณ์ก็จะสูงขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ความเสี่ยงที่จะเคลื่อนไหวผิดทางก็สูงขึ้นเช่นกัน

ความเสี่ยงจากความผันผวนในไบนารี่ออปชั่น

ความเสี่ยงจากความผันผวนในไบนารี่ออปชั่นสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท:

  • **ความเสี่ยงจากความผันผวนทางประวัติศาสตร์ (Historical Volatility Risk):** คือ ความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของความผันผวนในอดีต ซึ่งอาจไม่สามารถบ่งบอกถึงความผันผวนในอนาคตได้ การใช้ การวิเคราะห์ทางเทคนิค เพื่อดูความผันผวนในอดีตเป็นประโยชน์ แต่ต้องระมัดระวังในการนำมาใช้คาดการณ์อนาคต
  • **ความเสี่ยงจากความผันผวนโดยนัย (Implied Volatility Risk):** คือ ความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของความผันผวนที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งสะท้อนอยู่ในราคาของออปชั่น หากความผันผวนโดยนัยเปลี่ยนแปลงไป ราคาของออปชั่นก็จะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย
  • **ความเสี่ยงจาก Gap Risk:** คือ ความเสี่ยงที่เกิดจากการกระโดดของราคา (Price Gap) ซึ่งอาจเกิดขึ้นเนื่องจากข่าวสารสำคัญ หรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน การเกิด Gap อาจทำให้การคาดการณ์ทิศทางราคาผิดพลาดได้
  • **ความเสี่ยงจาก Black Swan Events:** คือ ความเสี่ยงที่เกิดจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันและมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อตลาด เช่น วิกฤตเศรษฐกิจ หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ เหตุการณ์เหล่านี้มักจะนำไปสู่ความผันผวนที่สูงขึ้นอย่างมาก

การวัดความผันผวน

มีหลายวิธีในการวัดความผันผวน ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป:

  • **Standard Deviation:** เป็นวิธีการวัดความผันผวนที่นิยมใช้กันมากที่สุด โดยคำนวณจากค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของผลตอบแทนในช่วงเวลาหนึ่ง
  • **Average True Range (ATR):** เป็นตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่ใช้วัดความผันผวนโดยพิจารณาจากช่วงราคาจริง (True Range)
  • **Bollinger Bands:** เป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้แสดงช่วงราคาที่คาดว่าจะเกิดขึ้น โดยอิงจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่และความผันผวน
  • **VIX (Volatility Index):** เป็นดัชนีที่ใช้วัดความผันผวนของตลาดหุ้น S&P 500 โดยทั่วไปแล้ว VIX จะถูกมองว่าเป็น "เครื่องวัดความกลัว" ของตลาด

การจัดการความเสี่ยงจากความผันผวน

การจัดการความเสี่ยงจากความผันผวนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น ต่อไปนี้เป็นกลยุทธ์บางส่วนที่สามารถนำไปใช้ได้:

  • **การกระจายความเสี่ยง (Diversification):** การลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายจะช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตการลงทุนของคุณ
  • **การใช้ Stop-Loss:** การตั้งค่า Stop-Loss จะช่วยจำกัดความสูญเสียของคุณในกรณีที่ราคาเคลื่อนไหวผิดทาง
  • **การปรับขนาด Position:** การปรับขนาด Position ให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่คุณรับได้ จะช่วยป้องกันไม่ให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด
  • **การใช้ Hedging:** การใช้ Hedging คือ การเปิด Position ที่ตรงข้ามกับ Position เดิมของคุณ เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวน
  • **การเลือก Expiry Time ที่เหมาะสม:** การเลือก Expiry Time ที่เหมาะสมกับระดับความผันผวนของสินทรัพย์ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรของคุณ

กลยุทธ์การซื้อขายที่เกี่ยวข้องกับความผันผวน

มีกลยุทธ์การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นมากมายที่เกี่ยวข้องกับความผันผวน:

  • **Straddle:** เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เมื่อคาดว่าความผันผวนจะเพิ่มขึ้น โดยการซื้อทั้ง Call Option และ Put Option ที่มีราคา Strike เดียวกัน และ Expiry Time เดียวกัน กลยุทธ์ Straddle
  • **Strangle:** เป็นกลยุทธ์ที่คล้ายกับ Straddle แต่ใช้ราคา Strike ที่แตกต่างกัน โดยซื้อ Call Option ที่มีราคา Strike สูงกว่าราคาปัจจุบัน และ Put Option ที่มีราคา Strike ต่ำกว่าราคาปัจจุบัน กลยุทธ์ Strangle
  • **Butterfly Spread:** เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เมื่อคาดว่าความผันผวนจะลดลง โดยการสร้าง Position ที่มีกำไรสูงสุดเมื่อราคาอยู่ในช่วงแคบๆ กลยุทธ์ Butterfly Spread
  • **Iron Condor:** เป็นกลยุทธ์ที่คล้ายกับ Butterfly Spread แต่มีความซับซ้อนกว่า และใช้เพื่อทำกำไรจากความผันผวนที่ต่ำ กลยุทธ์ Iron Condor
  • **Volatility Breakout:** เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เมื่อคาดว่าราคาจะทะลุช่วงความผันผวนที่กำหนดไว้ โดยการซื้อ Call Option หรือ Put Option ขึ้นอยู่กับทิศทางที่คาดว่าจะทะลุ กลยุทธ์ Volatility Breakout

การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์พื้นฐานเพื่อประเมินความผันผวน

การประเมินความผันผวนอย่างแม่นยำจำเป็นต้องใช้ทั้ง การวิเคราะห์ทางเทคนิค และ การวิเคราะห์พื้นฐาน:

  • **การวิเคราะห์ทางเทคนิค:** ใช้เพื่อระบุรูปแบบราคา แนวโน้ม และระดับความผันผวนในอดีต ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค เช่น ATR, Bollinger Bands, และ Moving Averages สามารถช่วยในการประเมินความผันผวนได้
  • **การวิเคราะห์พื้นฐาน:** ใช้เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานที่อาจส่งผลต่อความผันผวน เช่น ข่าวสารเศรษฐกิจ รายงานผลประกอบการของบริษัท และเหตุการณ์ทางการเมือง

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis) และความผันผวน

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความผันผวนได้ Volume ที่สูงมักจะบ่งบอกถึงความผันผวนที่สูงขึ้น และในทางกลับกัน Volume ที่ต่ำมักจะบ่งบอกถึงความผันผวนที่ต่ำลง การดูความสัมพันธ์ระหว่าง Volume และราคา สามารถช่วยในการระบุสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงของความผันผวนได้

เครื่องมือและทรัพยากรที่ช่วยในการจัดการความเสี่ยงจากความผันผวน

มีเครื่องมือและทรัพยากรมากมายที่สามารถช่วยในการจัดการความเสี่ยงจากความผันผวน:

  • **Volatility Calculator:** เครื่องมือออนไลน์ที่ช่วยในการคำนวณความผันผวน
  • **Option Chain:** ตารางที่แสดงราคาและข้อมูลอื่นๆ ของออปชั่นทั้งหมดที่มีอยู่สำหรับสินทรัพย์หนึ่งๆ
  • **Financial News Websites:** เว็บไซต์ข่าวสารทางการเงินที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่อาจส่งผลต่อความผันผวน
  • **Trading Platforms:** แพลตฟอร์มซื้อขายที่ให้บริการเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและข้อมูลเกี่ยวกับความผันผวน

ข้อควรระวังในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นด้วยความผันผวนสูง

  • **ความเสี่ยงสูง:** การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นด้วยความผันผวนสูงมีความเสี่ยงสูงมาก คุณอาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมดของคุณได้
  • **ความจำเป็นในการศึกษา:** คุณจำเป็นต้องมีความรู้และความเข้าใจอย่างละเอียดเกี่ยวกับความผันผวน และวิธีการจัดการความเสี่ยงก่อนที่จะเริ่มซื้อขาย
  • **การควบคุมอารมณ์:** การควบคุมอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการซื้อขายด้วยความผันผวนสูง อย่าปล่อยให้อารมณ์มีผลต่อการตัดสินใจของคุณ
  • **การใช้เงินทุนที่รับได้:** ใช้เฉพาะเงินทุนที่คุณสามารถรับได้หากสูญเสียทั้งหมด

สรุป

ความเสี่ยงจากความผันผวนเป็นส่วนสำคัญของการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น การเข้าใจถึงความเสี่ยงเหล่านี้ และวิธีการจัดการกับความเสี่ยงเหล่านี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรของคุณได้ การใช้กลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสม การวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐานอย่างละเอียด และการควบคุมอารมณ์ จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นได้

การจัดการเงินทุน | การวิเคราะห์ตลาด | การซื้อขายแบบมีวินัย | การทำความเข้าใจกราฟราคา | การอ่านข่าวสารทางการเงิน | การเลือกโบรกเกอร์ | การตั้งเป้าหมายการซื้อขาย | การบันทึกการซื้อขาย | จิตวิทยาการซื้อขาย | การใช้ประโยชน์จาก Leverage | การทำความเข้าใจค่า Commission | การวิเคราะห์ความเสี่ยงต่อผลตอบแทน | การใช้เครื่องมือทางเทคนิค | การวิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียน | การวิเคราะห์ Fibonacci | การวิเคราะห์ Elliott Wave | การใช้ MACD | การใช้ RSI | การใช้ Moving Averages (Financial risk)

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер