การทำความเข้าใจกราฟราคา

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. การทำความเข้าใจกราฟราคา

บทนำ

การเทรด ไบนารี่ออปชั่น ให้ประสบความสำเร็จนั้น ไม่ได้อาศัยเพียงแค่โชค แต่จำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับ ตลาดการเงิน และเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ หนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดคือ กราฟราคา กราฟราคาเป็นตัวแทนภาพของความเคลื่อนไหวของราคาในช่วงเวลาที่กำหนด ช่วยให้นักเทรดสามารถระบุ แนวโน้ม รูปแบบ และสัญญาณต่างๆ ที่อาจบ่งบอกถึงโอกาสในการทำกำไร บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับกราฟราคาอย่างละเอียด ตั้งแต่ประเภทของกราฟ การอ่านกราฟ ไปจนถึงการนำกราฟไปประยุกต์ใช้ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

ประเภทของกราฟราคา

มีกราฟราคาหลายประเภทที่นิยมใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค แต่ที่พบเห็นบ่อยที่สุดมี 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่

  • กราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart): เป็นกราฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากให้ข้อมูลที่ครบถ้วนและเข้าใจง่าย แต่ละแท่งเทียนแสดงถึงราคาในช่วงเวลาหนึ่ง โดยประกอบด้วยส่วนสำคัญ 4 ส่วน ได้แก่ ราคาเปิด (Open), ราคาสูงสุด (High), ราคาต่ำสุด (Low) และราคาปิด (Close) หากราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด แท่งเทียนจะเป็นสีเขียวหรือสีขาว (Bullish) แสดงถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่ง หากราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด แท่งเทียนจะเป็นสีแดงหรือสีดำ (Bearish) แสดงถึงแรงขายที่แข็งแกร่ง การอ่าน กราฟแท่งเทียน สามารถช่วยให้นักเทรดระบุ รูปแบบแท่งเทียน ต่างๆ เช่น Doji, Hammer, Engulfing Pattern ซึ่งเป็นสัญญาณสำคัญในการตัดสินใจเทรด
  • กราฟเส้น (Line Chart): เป็นกราฟที่ง่ายที่สุด โดยแสดงราคาปิดของสินทรัพย์ในช่วงเวลาที่กำหนด เชื่อมต่อกันด้วยเส้นตรง กราฟเส้นเหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการมองภาพรวมของแนวโน้มราคาในระยะยาว แต่ให้ข้อมูลน้อยกว่ากราฟแท่งเทียน
  • กราฟแท่ง (Bar Chart): แสดงราคาเปิด, ราคาสูงสุด, ราคาต่ำสุด และราคาปิดของสินทรัพย์ในช่วงเวลาที่กำหนด แต่ละแท่งแสดงถึงช่วงราคาในแต่ละช่วงเวลา กราฟแท่งให้ข้อมูลมากกว่ากราฟเส้น แต่ยังไม่ละเอียดเท่ากราฟแท่งเทียน

การอ่านกราฟราคา

การอ่านกราฟราคาอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเทรดไบนารี่ออปชั่น ต่อไปนี้เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ควรทำความเข้าใจ:

  • แกนราคา (Price Axis): แสดงราคาของสินทรัพย์ แกนราคาปกติจะอยู่ด้านซ้ายของกราฟ
  • แกนเวลา (Time Axis): แสดงช่วงเวลาที่กราฟครอบคลุม แกนเวลาปกติจะอยู่ด้านล่างของกราฟ
  • แนวโน้ม (Trend): ทิศทางโดยรวมของราคา แนวโน้มสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่
   *   แนวโน้มขึ้น (Uptrend): ราคาเคลื่อนที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
   *   แนวโน้มลง (Downtrend): ราคาเคลื่อนที่ต่ำลงอย่างต่อเนื่อง
   *   แนวโน้มข้างเคียง (Sideways Trend): ราคาเคลื่อนที่ในกรอบแคบๆ ไม่ขึ้นไม่ลง
  • แนวรับ (Support): ระดับราคาที่ราคาเคยลงมาแล้วแต่ไม่สามารถทะลุลงไปได้ มักจะเป็นจุดที่แรงซื้อเข้ามาช่วยดันราคาขึ้น
  • แนวต้าน (Resistance): ระดับราคาที่ราคาเคยขึ้นไปแล้วแต่ไม่สามารถทะลุขึ้นไปได้ มักจะเป็นจุดที่แรงขายเข้ามาช่วยกดราคาลง
  • เส้นแนวโน้ม (Trend Line): เส้นที่ลากเชื่อมจุดต่ำสุดในแนวโน้มขึ้น หรือเชื่อมจุดสูงสุดในแนวโน้มลง เพื่อแสดงทิศทางของแนวโน้ม
  • รูปแบบกราฟ (Chart Pattern): รูปแบบที่เกิดจากความเคลื่อนไหวของราคา ซึ่งสามารถบ่งบอกถึงโอกาสในการเทรด เช่น Head and Shoulders, Double Top, Double Bottom, Triangles

การประยุกต์ใช้กราฟราคาในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

เมื่อเข้าใจประเภทและวิธีการอ่านกราฟราคาแล้ว เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการเทรดไบนารี่ออปชั่นได้ดังนี้:

  • การระบุแนวโน้ม (Trend Identification): การระบุแนวโน้มเป็นขั้นตอนแรกในการวิเคราะห์กราฟราคา หากแนวโน้มเป็นขาขึ้น นักเทรดอาจพิจารณาเปิดออปชั่น Call (ซื้อ) หากแนวโน้มเป็นขาลง นักเทรดอาจพิจารณาเปิดออปชั่น Put (ขาย)
  • การหาจุดเข้าเทรด (Entry Point): การใช้แนวรับและแนวต้านเพื่อหาจุดเข้าเทรดที่ดี นักเทรดอาจพิจารณาเปิดออปชั่น Call เมื่อราคาเด้งกลับขึ้นจากแนวรับ หรือเปิดออปชั่น Put เมื่อราคาปรับตัวลงมาที่แนวต้าน
  • การใช้รูปแบบกราฟ (Chart Pattern Trading): การใช้รูปแบบกราฟเพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต ตัวอย่างเช่น หากเกิดรูปแบบ Head and Shoulders นักเทรดอาจคาดการณ์ว่าราคาจะปรับตัวลง และเปิดออปชั่น Put
  • การใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิค (Technical Indicators): การใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิค เช่น Moving Average, MACD, RSI, Bollinger Bands ร่วมกับกราฟราคา เพื่อยืนยันสัญญาณและเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจเทรด

กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นที่ใช้กราฟราคา

มีกลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นมากมายที่ใช้กราฟราคาเป็นพื้นฐาน ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างบางส่วน:

  • Trend Following Strategy: กลยุทธ์นี้เน้นการเทรดตามแนวโน้ม หากแนวโน้มเป็นขาขึ้น นักเทรดจะเปิดออปชั่น Call อย่างต่อเนื่อง และหากแนวโน้มเป็นขาลง นักเทรดจะเปิดออปชั่น Put อย่างต่อเนื่อง
  • Breakout Strategy: กลยุทธ์นี้เน้นการเทรดเมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้าน นักเทรดจะเปิดออปชั่นตามทิศทางที่ราคาทะลุ
  • Reversal Strategy: กลยุทธ์นี้เน้นการเทรดเมื่อแนวโน้มเปลี่ยนทิศทาง นักเทรดจะมองหาสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม เช่น รูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการกลับตัว หรือการเกิด Divergence ในตัวชี้วัดทางเทคนิค
  • Pin Bar Strategy: กลยุทธ์นี้ใช้ Pin Bar (แท่งเทียนที่มีหางยาว) เป็นสัญญาณในการเทรด นักเทรดจะเปิดออปชั่นในทิศทางตรงกันข้ามกับหางของ Pin Bar
  • Engulfing Pattern Strategy: กลยุทธ์นี้ใช้ Engulfing Pattern (รูปแบบแท่งเทียนที่แท่งที่สองกลืนแท่งแรก) เป็นสัญญาณในการเทรด นักเทรดจะเปิดออปชั่นตามทิศทางของ Engulfing Pattern

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis)

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายร่วมกับกราฟราคา สามารถช่วยยืนยันสัญญาณและเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจเทรดได้ ปริมาณการซื้อขายที่สูงในขณะที่ราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้าน บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของสัญญาณนั้น หากปริมาณการซื้อขายต่ำ อาจเป็นสัญญาณหลอก

ตัวอย่างการวิเคราะห์กราฟราคา

สมมติว่าคุณกำลังดู กราฟแท่งเทียน ของคู่เงิน EUR/USD ในช่วงเวลา 15 นาที คุณสังเกตเห็นว่าราคาได้ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายวันก่อนหน้านี้ (แนวโน้มขึ้น) และปัจจุบันราคากำลังเคลื่อนที่เข้าใกล้แนวต้านที่ 1.1000 นอกจากนี้ คุณยังสังเกตเห็นว่าเกิดรูปแบบ Hammer ที่แนวรับก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม

จากข้อมูลเหล่านี้ คุณอาจพิจารณาเปิดออปชั่น Call โดยมีเป้าหมายที่ราคา 1.1050 และตั้ง Stop Loss ไว้ที่ราคา 1.0950

ข้อควรระวัง

  • ไม่มีกลยุทธ์ใดที่รับประกันผลกำไร 100% การเทรดไบนารี่ออปชั่นมีความเสี่ยงเสมอ
  • อย่าเทรดด้วยเงินที่คุณไม่สามารถเสียได้
  • ฝึกฝนการวิเคราะห์กราฟราคาอย่างสม่ำเสมอ
  • ใช้บัญชีทดลอง (Demo Account) เพื่อฝึกฝนก่อนเทรดด้วยเงินจริง
  • เรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับ การบริหารความเสี่ยง

สรุป

การทำความเข้าใจกราฟราคาเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับนักเทรดไบนารี่ออปชั่นทุกคน การเรียนรู้ประเภทของกราฟ การอ่านกราฟ การประยุกต์ใช้กราฟในการเทรด และการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจเทรดได้อย่างมีเหตุผลและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าการเทรดมีความเสี่ยงเสมอ และการบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

ตัวอย่างรูปแบบกราฟและสัญญาณ
รูปแบบกราฟ สัญญาณ การเทรด
Head and Shoulders ราคาจะปรับตัวลง เปิดออปชั่น Put
Double Top ราคาจะปรับตัวลง เปิดออปชั่น Put
Double Bottom ราคาจะปรับตัวขึ้น เปิดออปชั่น Call
Hammer สัญญาณการกลับตัวเป็นขาขึ้น เปิดออปชั่น Call
Engulfing Pattern (Bullish) สัญญาณการกลับตัวเป็นขาขึ้น เปิดออปชั่น Call
Engulfing Pattern (Bearish) สัญญาณการกลับตัวเป็นขาลง เปิดออปชั่น Put

[[Category

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер