Options Trading Basics

1. Options Trading Basics

1. 1. บทนำสู่ Options Trading

Options Trading หรือการซื้อขายออปชั่น เป็นเครื่องมือทางการเงินที่อนุญาตให้นักลงทุนสามารถซื้อสิทธิ์ (แต่ไม่ใช่ข้อผูกพัน) ในการซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset) เช่น หุ้น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์ หรือสกุลเงิน ต่างๆ ในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (Strike Price) ภายในระยะเวลาที่กำหนด (Expiration Date) การทำความเข้าใจพื้นฐานของ Options Trading เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเพิ่มโอกาสในการทำกำไร และบริหารความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนของตนเอง

บทความนี้จะครอบคลุมพื้นฐานของ Options Trading สำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงประเภทของออปชั่น, คำศัพท์สำคัญ, ปัจจัยที่มีผลต่อราคาออปชั่น, กลยุทธ์การเทรดเบื้องต้น, การบริหารความเสี่ยง และแหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

1. 1. ประเภทของ Options

ออปชั่นมี 2 ประเภทหลัก:

• **Call Option:** สิทธิ์ในการ *ซื้อ* สินทรัพย์อ้างอิงในราคา Strike Price ภายในวันหมดอายุ ผู้ซื้อ Call Option คาดหวังว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะ *เพิ่มขึ้น*
• **Put Option:** สิทธิ์ในการ *ขาย* สินทรัพย์อ้างอิงในราคา Strike Price ภายในวันหมดอายุ ผู้ซื้อ Put Option คาดหวังว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะ *ลดลง*

นอกจากนี้ ยังสามารถแบ่งออปชั่นตามระยะเวลาการหมดอายุได้ดังนี้:

• **European Option:** สามารถใช้สิทธิ์ได้เฉพาะในวันหมดอายุเท่านั้น
• **American Option:** สามารถใช้สิทธิ์ได้ตลอดระยะเวลาจนถึงวันหมดอายุ

1. 1. คำศัพท์สำคัญใน Options Trading

การทำความเข้าใจคำศัพท์เฉพาะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการซื้อขายออปชั่น:

• **Underlying Asset (สินทรัพย์อ้างอิง):** สินทรัพย์ที่ออปชั่นอ้างอิงถึง เช่น หุ้น Apple, ดัชนี S&P 500, ทองคำ
• **Strike Price (ราคาใช้สิทธิ์):** ราคาที่ผู้ถือออปชั่นสามารถซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิงได้
• **Expiration Date (วันหมดอายุ):** วันที่ออปชั่นหมดอายุ และไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้อีกต่อไป
• **Premium (ค่าพรีเมียม):** ราคาที่ผู้ซื้อออปชั่นจ่ายให้กับผู้ขายออปชั่นเพื่อแลกกับสิทธิ์
• **In the Money (ITM):** ออปชั่นที่มีมูลค่าเชิงบวก หากใช้สิทธิ์ในขณะนั้น

   *   Call Option: ราคาตลาดของสินทรัพย์อ้างอิง > Strike Price
   *   Put Option: ราคาตลาดของสินทรัพย์อ้างอิง < Strike Price

• **At the Money (ATM):** ออปชั่นที่มี Strike Price ใกล้เคียงกับราคาตลาดของสินทรัพย์อ้างอิง
• **Out of the Money (OTM):** ออปชั่นที่มีมูลค่าเชิงลบ หากใช้สิทธิ์ในขณะนั้น

   *   Call Option: ราคาตลาดของสินทรัพย์อ้างอิง < Strike Price
   *   Put Option: ราคาตลาดของสินทรัพย์อ้างอิง > Strike Price

• **Intrinsic Value (มูลค่าโดยธรรมชาติ):** มูลค่าของออปชั่นหากใช้สิทธิ์ในทันที
• **Time Value (มูลค่าตามเวลา):** ส่วนต่างระหว่าง Premium และ Intrinsic Value

1. 1. ปัจจัยที่มีผลต่อราคา Options

ราคาของออปชั่นได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลายประการ:

• **ราคาของสินทรัพย์อ้างอิง:** เป็นปัจจัยหลักที่มีผลต่อราคาออปชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Call Option และ Put Option จะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับสินทรัพย์อ้างอิง
• **เวลาจนถึงวันหมดอายุ:** ยิ่งมีเวลาเหลือน้อย ราคาออปชั่นก็จะยิ่งลดลง เนื่องจากโอกาสในการทำกำไรลดลง
• **ความผันผวนของสินทรัพย์อ้างอิง (Volatility):** ยิ่งสินทรัพย์อ้างอิงมีความผันผวนสูง ราคาออปชั่นก็จะยิ่งสูงขึ้น เนื่องจากมีความเสี่ยงที่ราคาจะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
• **อัตราดอกเบี้ย:** อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นมักจะส่งผลให้ราคา Call Option สูงขึ้น และราคา Put Option ลดลง
• **เงินปันผล (Dividends):** การจ่ายเงินปันผลอาจส่งผลต่อราคาออปชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Call Option

1. 1. กลยุทธ์ Options Trading เบื้องต้น

มีกลยุทธ์การเทรดออปชั่นมากมายที่นักลงทุนสามารถใช้ได้ ขึ้นอยู่กับมุมมองและความเสี่ยงที่ยอมรับได้:

• **Buying Calls:** ซื้อ Call Option เมื่อคาดหวังว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะเพิ่มขึ้น Bullish Strategy
• **Buying Puts:** ซื้อ Put Option เมื่อคาดหวังว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะลดลง Bearish Strategy
• **Covered Call:** ขาย Call Option บนหุ้นที่ถืออยู่ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม Income Generation Strategy
• **Protective Put:** ซื้อ Put Option บนหุ้นที่ถืออยู่ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลดลงของราคาหุ้น Risk Management Strategy
• **Straddle:** ซื้อทั้ง Call Option และ Put Option ที่มี Strike Price และวันหมดอายุเดียวกัน เมื่อคาดหวังว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะมีการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง แต่ไม่แน่ใจว่าจะขึ้นหรือลง Volatility Trading Strategy
• **Strangle:** คล้ายกับ Straddle แต่ใช้ Strike Price ที่แตกต่างกัน (Call Option มี Strike Price สูงกว่า และ Put Option มี Strike Price ต่ำกว่า) เพื่อลดค่า Premium แต่เพิ่มความเสี่ยง Volatility Trading Strategy
• **Butterfly Spread:** กลยุทธ์ที่จำกัดทั้งกำไรและขาดทุน โดยใช้ Call Option หรือ Put Option หลายชุดที่มี Strike Price ต่างกัน Neutral Strategy
• **Calendar Spread:** กลยุทธ์ที่ใช้ประโยชน์จากความแตกต่างของ Time Value ระหว่างออปชั่นที่มีวันหมดอายุต่างกัน Time Decay Strategy
• **Iron Condor:** กลยุทธ์ที่จำกัดทั้งกำไรและขาดทุน โดยใช้ Call Option และ Put Option หลายชุดที่มี Strike Price ต่างกัน Neutral Strategy

1. 1. การบริหารความเสี่ยงใน Options Trading

Options Trading มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น การบริหารความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญ:

• **กำหนดขนาด Position:** อย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้
• **ใช้ Stop-Loss Orders:** กำหนดระดับราคาที่คุณจะขายออปชั่นเพื่อจำกัดการขาดทุน
• **กระจายความเสี่ยง:** ลงทุนในออปชั่นหลายชุดที่มีสินทรัพย์อ้างอิงและวันหมดอายุที่แตกต่างกัน
• **เข้าใจความเสี่ยงของแต่ละกลยุทธ์:** เลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้
• **ติดตามข่าวสารและปัจจัยที่มีผลต่อตลาด:** เพื่อปรับกลยุทธ์การเทรดให้ทันต่อสถานการณ์

1. 1. การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์พื้นฐาน

การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) และการวิเคราะห์พื้นฐาน (Fundamental Analysis) สามารถนำมาใช้เพื่อช่วยในการตัดสินใจซื้อขายออปชั่นได้:

• **การวิเคราะห์ทางเทคนิค:** ศึกษาจากกราฟราคา, รูปแบบ (Patterns), และ Indicators ต่างๆ เช่น Moving Averages, RSI, MACD เพื่อคาดการณ์แนวโน้มราคา Moving Averages RSI MACD
• **การวิเคราะห์พื้นฐาน:** ศึกษาจากปัจจัยพื้นฐานของสินทรัพย์อ้างอิง เช่น งบการเงิน, ข่าวสาร, และสภาวะเศรษฐกิจ เพื่อประเมินมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์อ้างอิง Financial Statement Analysis

1. 1. การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis)

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis) สามารถช่วยยืนยันแนวโน้มราคา และบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้มนั้นๆ

• **Volume Confirmation:** เมื่อราคาและปริมาณการซื้อขายเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน แสดงว่าแนวโน้มนั้นมีความแข็งแกร่ง
• **Volume Divergence:** เมื่อราคาและปริมาณการซื้อขายเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงกันข้าม อาจบ่งบอกถึงการสิ้นสุดของแนวโน้ม

1. 1. แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

• **CBOE (Chicago Board Options Exchange):** [[1](https://www.cboe.com/)]
• **Investopedia:** [[2](https://www.investopedia.com/)]
• **OptionsPlay:** [[3](https://optionsplay.com/)]
• **หนังสือและคอร์สเรียนเกี่ยวกับการเทรดออปชั่น:** มีมากมายให้เลือกศึกษาตามความสนใจ

1. 1. สรุป

Options Trading เป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่สูง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน การทำความเข้าใจพื้นฐานของ Options Trading, การบริหารความเสี่ยง, และการใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนที่ต้องการประสบความสำเร็จในการเทรดออปชั่น

ตัวอย่างเปรียบเทียบ Options กับ หุ้น

Feature	หุ้น	Options
Ownership	เป็นเจ้าของสินทรัพย์โดยตรง	มีสิทธิ์ แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์
Risk	ความเสี่ยงจำกัดที่เงินลงทุน	ความเสี่ยงจำกัดที่ค่าพรีเมียม (สำหรับผู้ซื้อ) ไม่จำกัด (สำหรับผู้ขาย)
Potential Return	จำกัดตามการขึ้นลงของราคาหุ้น	ไม่จำกัด (สำหรับผู้ซื้อ Call Option) จำกัด (สำหรับผู้ขาย Call Option)
Cost	ราคาหุ้นเต็มจำนวน	ค่าพรีเมียม (โดยทั่วไปน้อยกว่าราคาหุ้น)

Binary Options ก็เป็นรูปแบบหนึ่งของการเทรดออปชั่นที่มีความเสี่ยงสูงและผลตอบแทนสูง ซึ่งได้รับความนิยมในตลาดการเงิน

Volatility Skew เป็นปรากฏการณ์ที่ราคาออปชั่นที่มี Strike Price ต่างกัน มีความผันผวนที่แตกต่างกัน

Delta Hedging เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เพื่อลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาออปชั่น

Gamma เป็นค่าที่วัดการเปลี่ยนแปลงของ Delta เมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเปลี่ยนแปลง

Theta เป็นค่าที่วัดการลดลงของมูลค่าออปชั่นตามกาลเวลา

Vega เป็นค่าที่วัดความไวของราคาออปชั่นต่อการเปลี่ยนแปลงของความผันผวน

Implied Volatility เป็นการประมาณการความผันผวนของสินทรัพย์อ้างอิงในอนาคต

Options Greeks เป็นชุดของตัวแปรที่ใช้ในการวัดความเสี่ยงของออปชั่น

American vs European Options ความแตกต่างระหว่างออปชั่นแบบอเมริกันและยุโรป

Exotic Options ออปชั่นที่มีเงื่อนไขที่ซับซ้อนกว่าออปชั่นแบบมาตรฐาน

Option Chain รายการของออปชั่นทั้งหมดที่มีอยู่สำหรับสินทรัพย์อ้างอิงหนึ่งๆ

Margin Requirements ข้อกำหนดด้านเงินหลักประกันสำหรับการเทรดออปชั่น

Order Types ประเภทของคำสั่งซื้อขายออปชั่นต่างๆ เช่น Limit Order, Market Order

Tax Implications ผลกระทบทางภาษีของการเทรดออปชั่น

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น