Long Put Strategy

1. Long Put Strategy

กลยุทธ์ Long Put เป็นหนึ่งในกลยุทธ์พื้นฐานและได้รับความนิยมในการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น (Binary Options) เหมาะสำหรับผู้ที่คาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะลดลง บทความนี้จะอธิบายกลยุทธ์ Long Put อย่างละเอียด ตั้งแต่แนวคิดพื้นฐาน การวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้อง การจัดการความเสี่ยง และตัวอย่างการใช้งานจริง เพื่อให้ผู้เริ่มต้นสามารถเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้ในการซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แนวคิดพื้นฐานของ Long Put

กลยุทธ์ Long Put เกี่ยวข้องกับการซื้อ Put Option ซึ่งหมายความว่าคุณมีสิทธิ (แต่ไม่มีภาระผูกพัน) ที่จะขายสินทรัพย์อ้างอิงในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (Strike Price) ภายในวันที่หมดอายุของออปชั่น (Expiration Date)

• กำไรสูงสุด (Maximum Profit): จำกัดอยู่ที่ส่วนต่างระหว่าง Strike Price และราคาซื้อ Put Option หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงลดลงต่ำกว่า Strike Price อย่างมาก
• ขาดทุนสูงสุด (Maximum Loss): จำกัดอยู่ที่ราคาพรีเมียมที่คุณจ่ายสำหรับการซื้อ Put Option
• จุดคุ้มทุน (Break-even Point): คือ Strike Price ลบด้วยราคาพรีเมียมที่จ่าย

ดังนั้น หากคุณเชื่อว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะลดลง คุณจะซื้อ Put Option เพื่อทำกำไรจากราคาที่ลดลงนั้น ยิ่งราคาลดลงต่ำกว่า Strike Price มากเท่าไหร่ กำไรของคุณก็จะยิ่งมากขึ้น แต่หากราคาไม่ลดลง หรือเพิ่มขึ้น คุณก็จะสูญเสียเพียงราคาพรีเมียมที่คุณจ่ายไปเท่านั้น

การวิเคราะห์ก่อนการใช้กลยุทธ์ Long Put

ก่อนที่จะตัดสินใจใช้กลยุทธ์ Long Put มีการวิเคราะห์หลายด้านที่ควรพิจารณา:

1. การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis): การใช้เครื่องมือและรูปแบบต่างๆ เพื่อคาดการณ์ทิศทางราคาของสินทรัพย์อ้างอิง

   *   แนวโน้ม (Trend): พิจารณาว่าสินทรัพย์อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend), แนวโน้มขาลง (Downtrend), หรือเคลื่อนที่ในกรอบ (Sideways) กลยุทธ์ Long Put เหมาะกับแนวโน้มขาลงหรือสถานการณ์ที่คาดว่าจะเกิดการกลับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลง
   *   รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns): รูปแบบแท่งเทียน เช่น Evening Star, Bearish Engulfing, หรือ Dark Cloud Cover สามารถบ่งบอกถึงสัญญาณของการกลับตัวเป็นขาลงได้
   *   ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค (Technical Indicators): ใช้อินดิเคเตอร์ต่างๆ เช่น Moving Average, Relative Strength Index (RSI), Moving Average Convergence Divergence (MACD), และ Bollinger Bands เพื่อยืนยันสัญญาณขาลง
   *   แนวรับและแนวต้าน (Support and Resistance): ระบุแนวรับที่สำคัญ หากราคาหลุดแนวรับลงมา อาจเป็นสัญญาณให้ใช้กลยุทธ์ Long Put
   *   Fibonacci Retracement ใช้เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้

2. การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis): การพิจารณาปัจจัยทางเศรษฐกิจ ข่าวสาร และข้อมูลบริษัทที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง

   *   ข่าวเศรษฐกิจ (Economic News): ข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น อัตราดอกเบี้ย, อัตราการว่างงาน, หรือ GDP สามารถส่งผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงได้
   *   รายงานผลประกอบการ (Earnings Reports): สำหรับหุ้น รายงานผลประกอบการสามารถบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งหรือความอ่อนแอของบริษัท
   *   เหตุการณ์ทางการเมือง (Political Events): เหตุการณ์ทางการเมืองที่ไม่แน่นอนอาจทำให้ตลาดผันผวนและส่งผลต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง

3. การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis): การพิจารณาปริมาณการซื้อขายเพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้ม

   *   ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น (Increasing Volume): ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นเมื่อราคาลดลงยืนยันแนวโน้มขาลง
   *   On Balance Volume (OBV): ใช้วัดความสัมพันธ์ระหว่างราคาและปริมาณการซื้อขาย

การเลือก Strike Price และ Expiration Date

การเลือก Strike Price และ Expiration Date ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการใช้กลยุทธ์ Long Put

• Strike Price:

   *   In-the-Money (ITM): Strike Price ต่ำกว่าราคาตลาดปัจจุบัน (ราคาสูงกว่าจะทำกำไรได้มากกว่า แต่ราคาแพงกว่า)
   *   At-the-Money (ATM): Strike Price ใกล้เคียงกับราคาตลาดปัจจุบัน (มีความสมดุลระหว่างราคาและความเสี่ยง)
   *   Out-of-the-Money (OTM): Strike Price สูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน (ราคาถูกกว่า แต่โอกาสทำกำไรน้อยกว่า)
   การเลือก Strike Price ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และความคาดหวังในการเคลื่อนไหวของราคา

• Expiration Date:

   *   ระยะสั้น (Short-Term): เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่คาดว่าจะเกิดการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็ว
   *   ระยะยาว (Long-Term): เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่คาดว่าจะเกิดแนวโน้มขาลงที่ยั่งยืน

การจัดการความเสี่ยง (Risk Management)

การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

• ขนาดตำแหน่ง (Position Sizing): กำหนดขนาดของตำแหน่งการซื้อขายให้เหมาะสมกับเงินทุนและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ โดยทั่วไปไม่ควรเสี่ยงเกิน 5-10% ของเงินทุนทั้งหมดต่อการซื้อขายหนึ่งครั้ง
• Stop-Loss: แม้ว่าไบนารี่ออปชั่นจะไม่มี Stop-Loss โดยตรง แต่คุณสามารถจำกัดความเสี่ยงได้โดยการเลือก Expiration Date ที่สั้นลง
• Diversification: กระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์อ้างอิงหลายประเภทเพื่อลดความเสี่ยง
• ติดตามข่าวสาร (Stay Informed): ติดตามข่าวสารและเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง

ตัวอย่างการใช้งานกลยุทธ์ Long Put

สมมติว่าคุณเชื่อว่าราคาหุ้น ABC ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 50 บาท จะลดลงในอีก 7 วันข้างหน้า คุณตัดสินใจซื้อ Put Option ที่มี Strike Price 48 บาท โดยจ่ายพรีเมียม 2 บาทต่อหุ้น

• สถานการณ์ที่ 1: ราคาหุ้น ABC ลดลงเหลือ 45 บาท ณ วันหมดอายุ

   *   กำไรต่อหุ้น = (Strike Price - ราคาหุ้น) - ราคาพรีเมียม = (48 - 45) - 2 = 1 บาท

• สถานการณ์ที่ 2: ราคาหุ้น ABC อยู่ที่ 49 บาท ณ วันหมดอายุ

   *   ขาดทุนต่อหุ้น = ราคาพรีเมียม = 2 บาท

• สถานการณ์ที่ 3: ราคาหุ้น ABC เพิ่มขึ้นเป็น 52 บาท ณ วันหมดอายุ

   *   ขาดทุนต่อหุ้น = ราคาพรีเมียม = 2 บาท

กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง

• Short Call Strategy: ตรงข้ามกับ Long Put คือการขาย Call Option เมื่อคาดว่าราคาจะขึ้น
• Protective Put: ใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลดลงของราคาหุ้นที่ถืออยู่
• Covered Put: ขาย Put Option พร้อมกับถือหุ้นอ้างอิง
• Straddle: ซื้อทั้ง Call และ Put Option ที่มี Strike Price และ Expiration Date เดียวกัน
• Strangle: ซื้อ Call และ Put Option ที่มี Strike Price ต่างกัน แต่มี Expiration Date เดียวกัน
• Butterfly Spread: กลยุทธ์ที่ซับซ้อนขึ้นที่เกี่ยวข้องกับการซื้อและขาย Call และ Put Option หลายรายการ
• Calendar Spread: ซื้อและขายออปชั่นที่มี Expiration Date ต่างกัน
• Iron Condor: กลยุทธ์ที่ผสมผสาน Short Put และ Short Call
• Ratio Spread: ซื้อและขายออปชั่นในอัตราส่วนที่ไม่เท่ากัน
• Diagonal Spread: ซื้อและขายออปชั่นที่มี Strike Price และ Expiration Date ต่างกัน
• Volatility Trading: การซื้อขายออปชั่นโดยเน้นที่การเปลี่ยนแปลงของ Volatility
• Delta Hedging: ปรับพอร์ตการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษา Delta เป็นกลาง
• Gamma Scalping: การซื้อขายออปชั่นเพื่อทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของ Gamma
• Theta Decay: การทำความเข้าใจผลกระทบของการลดลงของ Theta ต่อราคาออปชั่น
• Vega: การวัดความไวของราคาออปชั่นต่อการเปลี่ยนแปลงของ Volatility

การใช้เครื่องมือวิเคราะห์เพิ่มเติม

• Elliot Wave Theory ใช้เพื่อระบุรูปแบบคลื่นที่เกิดขึ้นในตลาด
• Ichimoku Cloud ใช้เพื่อระบุแนวรับ แนวต้าน และทิศทางของแนวโน้ม
• Parabolic SAR ใช้เพื่อระบุจุดกลับตัวของแนวโน้ม

สรุป

กลยุทธ์ Long Put เป็นกลยุทธ์ที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพในการทำกำไรจากราคาที่ลดลงของสินทรัพย์อ้างอิง การวิเคราะห์อย่างรอบคอบ การเลือก Strike Price และ Expiration Date ที่เหมาะสม รวมถึงการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

ตัวอย่างสรุปผลตอบแทนของกลยุทธ์ Long Put

ราคาหุ้น ณ วันหมดอายุ	กำไร/ขาดทุนต่อหุ้น
40 บาท	6 บาท
45 บาท	1 บาท
48 บาท	-2 บาท
50 บาท	-2 บาท
55 บาท	-2 บาท

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น