ออปชั่นแบบอเมริกัน (American Options)

1. 1. ออปชั่นแบบอเมริกัน (American Options)

• • ออปชั่นแบบอเมริกัน** (American Options) เป็นหนึ่งในประเภทของสัญญาออปชั่นที่สำคัญและได้รับความนิยมในตลาดการเงิน บทความนี้จะอธิบายถึงลักษณะเฉพาะของออปชั่นแบบอเมริกัน ความแตกต่างจากออปชั่นประเภทอื่น ๆ กลไกการทำงาน การประเมินมูลค่า และกลยุทธ์การเทรดที่เกี่ยวข้อง โดยมุ่งเน้นสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการทำความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องมือทางการเงินนี้อย่างละเอียด

1. 1. 1. ความหมายและลักษณะของออปชั่นแบบอเมริกัน

ออปชั่นแบบอเมริกันคือสัญญาที่ให้สิทธิแก่ผู้ถือ (holder) ในการซื้อ (call option) หรือขาย (put option) สินทรัพย์อ้างอิง (underlying asset) ใน**วันใดก็ได้ก่อนหรือในวันหมดอายุ**ของสัญญา (expiration date) นี่คือความแตกต่างที่สำคัญที่สุดจากออปชั่นแบบยุโรป (European Options) ซึ่งสามารถใช้สิทธิได้เฉพาะในวันหมดอายุเท่านั้น

ลักษณะสำคัญของออปชั่นแบบอเมริกัน:

• **การใช้สิทธิก่อนกำหนด:** ผู้ถือสามารถใช้สิทธิในการซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิงได้ตลอดอายุสัญญา ไม่จำเป็นต้องรอถึงวันหมดอายุ
• **ความยืดหยุ่น:** ความสามารถในการใช้สิทธิก่อนกำหนดทำให้ออปชั่นแบบอเมริกันมีความยืดหยุ่นมากกว่าออปชั่นแบบยุโรป
• **ราคา:** โดยทั่วไปแล้ว ออปชั่นแบบอเมริกันจะมีราคาสูงกว่าออปชั่นแบบยุโรป เนื่องจากมีความยืดหยุ่นที่เพิ่มขึ้น
• **สินทรัพย์อ้างอิง:** ออปชั่นแบบอเมริกันสามารถใช้กับสินทรัพย์อ้างอิงได้หลากหลาย เช่น หุ้น (stock options), ดัชนีหุ้น (index options), สินค้าโภคภัณฑ์ (commodity options) และสกุลเงิน (currency options)

1. 1. 1. ความแตกต่างระหว่างออปชั่นแบบอเมริกันและออปชั่นแบบยุโรป

ตารางต่อไปนี้สรุปความแตกต่างที่สำคัญระหว่างออปชั่นแบบอเมริกันและออปชั่นแบบยุโรป:

ความแตกต่างระหว่างออปชั่นแบบอเมริกันและออปชั่นแบบยุโรป

คุณสมบัติ	ออปชั่นแบบอเมริกัน	ออปชั่นแบบยุโรป
การใช้สิทธิ	ใช้สิทธิได้ตลอดอายุสัญญา	ใช้สิทธิได้เฉพาะวันหมดอายุ
ความยืดหยุ่น	สูงกว่า	ต่ำกว่า
ราคาทั่วไป	สูงกว่า	ต่ำกว่า
ความซับซ้อนในการประเมินมูลค่า	ซับซ้อนกว่า	น้อยกว่า
ตัวอย่างสินทรัพย์อ้างอิง	หุ้น, ดัชนีหุ้น	ดัชนีหุ้น, สกุลเงิน

1. 1. 1. กลไกการทำงานของออปชั่นแบบอเมริกัน

เมื่อคุณซื้อออปชั่นแบบอเมริกัน คุณกำลังซื้อสิทธิ ไม่ใช่ภาระหน้าที่ในการซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิง หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่เป็นประโยชน์ต่อคุณ คุณสามารถใช้สิทธิในการซื้อหรือขายได้ หากไม่เป็นเช่นนั้น คุณสามารถปล่อยให้สัญญาหมดอายุโดยไม่ต้องใช้สิทธิ

• **Call Option:** ให้สิทธิในการซื้อสินทรัพย์อ้างอิงในราคาที่กำหนดไว้ในสัญญา (strike price) ผู้ถือ call option จะทำกำไรเมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงสูงกว่า strike price บวกด้วยค่าพรีเมี่ยมที่จ่ายไป
• **Put Option:** ให้สิทธิในการขายสินทรัพย์อ้างอิงในราคาที่กำหนดไว้ในสัญญา (strike price) ผู้ถือ put option จะทำกำไรเมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงต่ำกว่า strike price ลบด้วยค่าพรีเมี่ยมที่จ่ายไป

1. 1. 1. การประเมินมูลค่าออปชั่นแบบอเมริกัน

การประเมินมูลค่าออปชั่นแบบอเมริกันมีความซับซ้อนกว่าออปชั่นแบบยุโรป เนื่องจากต้องคำนึงถึงความยืดหยุ่นในการใช้สิทธิก่อนกำหนด วิธีการที่นิยมใช้ในการประเมินมูลค่าออปชั่นแบบอเมริกัน ได้แก่:

• **แบบจำลองทวินาม (Binomial Model):** เป็นวิธีการเชิงตัวเลขที่สร้างแผนผังต้นไม้ของราคาของสินทรัพย์อ้างอิง และคำนวณมูลค่าของออปชั่นโดยการทำงานย้อนกลับจากวันหมดอายุ
• **แบบจำลองมอนติคาร์โล (Monte Carlo Simulation):** เป็นวิธีการเชิงตัวเลขที่จำลองราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจำนวนมาก และคำนวณมูลค่าของออปชั่นโดยการหาค่าเฉลี่ยของผลลัพธ์
• **Black-Scholes Model (ปรับปรุง):** แม้ว่า Black-Scholes Model จะถูกพัฒนาขึ้นสำหรับออปชั่นแบบยุโรป แต่ก็สามารถปรับปรุงเพื่อใช้ประเมินมูลค่าออปชั่นแบบอเมริกันได้

1. 1. 1. กลยุทธ์การเทรดออปชั่นแบบอเมริกัน

มีกลยุทธ์การเทรดออปชั่นแบบอเมริกันมากมายที่สามารถใช้ได้ ขึ้นอยู่กับมุมมองของคุณต่อตลาด:

• **Covered Call:** ขาย call option บนหุ้นที่คุณถืออยู่ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีมุมมองเป็นกลางต่อเป็นบวกต่อหุ้นนั้นๆ Covered Call Strategy
• **Protective Put:** ซื้อ put option บนหุ้นที่คุณถืออยู่ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากราคาหุ้นที่ลดลง กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการป้องกันการขาดทุน Protective Put Strategy
• **Straddle:** ซื้อทั้ง call option และ put option ที่มี strike price และวันหมดอายุเดียวกัน กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่คาดว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะมีความผันผวนสูง Straddle Strategy
• **Strangle:** ซื้อ call option และ put option ที่มี strike price ที่แตกต่างกัน แต่มีวันหมดอายุเดียวกัน กลยุทธ์นี้คล้ายกับ straddle แต่ต้องการการเคลื่อนไหวของราคาที่มากกว่าเพื่อทำกำไร Strangle Strategy
• **Iron Condor:** กลยุทธ์ที่ประกอบด้วยการขาย call option และ put option ที่มี strike price ที่แตกต่างกันสองชุด กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่คาดว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบๆ Iron Condor Strategy
• **การใช้ประโยชน์จากเงินปันผล:** หากหุ้นมีการจ่ายเงินปันผล ผู้ถือออปชั่นสามารถใช้สิทธิก่อนกำหนดเพื่อรับเงินปันผลและยังคงถือครองหุ้นต่อไปได้

1. 1. 1. การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์พื้นฐานในการเทรดออปชั่นแบบอเมริกัน

การตัดสินใจเทรดออปชั่นแบบอเมริกันควรมาจากการวิเคราะห์ทั้งทางเทคนิคและพื้นฐาน:

• **การวิเคราะห์ทางเทคนิค:** การศึกษารูปแบบราคา (chart patterns), ตัวชี้วัดทางเทคนิค (technical indicators) เช่น Moving Average, MACD, RSI เพื่อระบุแนวโน้มของราคาและจุดเข้า-ออกที่เหมาะสม
• **การวิเคราะห์พื้นฐาน:** การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของสินทรัพย์อ้างอิง เช่น งบการเงิน, ข่าวเศรษฐกิจ, รายงานอุตสาหกรรม เพื่อประเมินมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์อ้างอิง

1. 1. 1. การจัดการความเสี่ยงในการเทรดออปชั่นแบบอเมริกัน

การเทรดออปชั่นมีความเสี่ยงสูง ดังนั้นการจัดการความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญ:

• **กำหนดขนาดตำแหน่ง (position sizing):** อย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้
• **ใช้ Stop-Loss Order:** กำหนดระดับราคาที่คุณจะยอมรับการขาดทุน เพื่อจำกัดความเสี่ยง
• **กระจายความเสี่ยง (diversification):** ลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาของสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง
• **ทำความเข้าใจกับ Gamma และ Theta:** Gamma คืออัตราการเปลี่ยนแปลงของ Delta ของออปชั่น และ Theta คืออัตราการลดลงของมูลค่าของออปชั่นเมื่อเวลาผ่านไป การเข้าใจค่าเหล่านี้จะช่วยให้คุณจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. 1. 1. แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

• CBOE (Chicago Board Options Exchange): แหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับออปชั่น
• Investopedia: เว็บไซต์ให้ความรู้ด้านการลงทุน
• บทความเกี่ยวกับการเทรดไบนารี่ออปชั่น : เพิ่มพูนความรู้และทักษะในการเทรด

1. 1. 1. สรุป

ออปชั่นแบบอเมริกันเป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีประโยชน์สำหรับนักลงทุนและเทรดเดอร์ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นในการใช้สิทธิก่อนกำหนด การทำความเข้าใจลักษณะเฉพาะ กลไกการทำงาน การประเมินมูลค่า และกลยุทธ์การเทรดที่เกี่ยวข้อง จะช่วยให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากออปชั่นแบบอเมริกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในการลงทุน

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis) ก็เป็นสิ่งสำคัญในการทำความเข้าใจความสนใจของตลาดในออปชั่นแต่ละตัว การเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายมักจะบ่งบอกถึงความสนใจที่มากขึ้นและความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น

การบริหารจัดการเงินทุน (Money Management) และจิตวิทยาการเทรด (Trading Psychology) ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการเทรดออปชั่น

การใช้ Leverage ในออปชั่น สามารถเพิ่มผลตอบแทนได้ แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญ

การเลือกโบรกเกอร์ออปชั่น (Choosing an Options Broker) เป็นขั้นตอนสำคัญในการเริ่มต้นเทรดออปชั่น ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ ค่าธรรมเนียมต่ำ และมีแพลตฟอร์มการเทรดที่ใช้งานง่าย

การคาดการณ์แนวโน้มตลาด (Market Trend Prediction) เป็นทักษะที่สำคัญในการเทรดออปชั่น การใช้เครื่องมือและเทคนิคต่างๆ เช่น Elliot Wave Theory และFibonacci Retracements สามารถช่วยในการระบุแนวโน้มของตลาดได้

การวิเคราะห์ความผันผวน (Volatility Analysis) เป็นสิ่งสำคัญในการประเมินมูลค่าของออปชั่น การใช้Implied Volatility เป็นตัวบ่งชี้สามารถช่วยในการตัดสินใจเทรดได้

การทำ Backtesting กลยุทธ์ออปชั่น ช่วยให้คุณประเมินประสิทธิภาพของกลยุทธ์ก่อนที่จะนำไปใช้จริง

การใช้เครื่องมือคำนวณออปชั่น (Options Calculators) ช่วยให้คุณคำนวณราคาและกรีก (Greeks) ของออปชั่นได้อย่างรวดเร็ว

การติดตามข่าวสารเศรษฐกิจ (Economic News Tracking) สามารถช่วยให้คุณคาดการณ์การเคลื่อนไหวของตลาดได้

การเรียนรู้จากข้อผิดพลาดในการเทรด (Learning from Trading Mistakes) เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาทักษะการเทรดของคุณ

การใช้ระบบเทรดอัตโนมัติ (Automated Trading Systems) สามารถช่วยให้คุณเทรดออปชั่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาษีออปชั่น (Options Tax Implications) เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนทุกคน

การวิเคราะห์ Correlation ของสินทรัพย์ (Asset Correlation Analysis) สามารถช่วยในการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนของคุณ

การใช้ Hedging Strategy เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging Strategies) เป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องพอร์ตการลงทุนของคุณจากความผันผวนของตลาด

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น