การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Assignment Risk
- การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Assignment Risk
บทความนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ความรู้แก่ผู้เริ่มต้นในการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น เกี่ยวกับความเสี่ยงที่สำคัญอย่างหนึ่งที่เรียกว่า “Assignment Risk” หรือความเสี่ยงในการถูกมอบหมายให้ดำเนินการตามสัญญาออปชั่น ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่ผู้ขายออปชั่น (Option Seller) ต้องเผชิญเมื่อออปชั่นที่ตนขายนั้นถูกใช้สิทธิ (Exercised) โดยผู้ซื้อออปชั่น (Option Buyer)
- บทนำเกี่ยวกับออปชั่นและ Assignment Risk
ก่อนที่จะลงลึกในรายละเอียดของ Assignment Risk เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับ ออปชั่น เสียก่อน ออปชั่นเป็นสัญญาที่ให้สิทธิ (แต่ไม่ใช่ข้อบังคับ) แก่ผู้ซื้อในการซื้อ (Call Option) หรือขาย (Put Option) สินทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset) ในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (Strike Price) ภายในระยะเวลาที่กำหนด (Expiration Date)
ผู้ขายออปชั่นได้รับค่าพรีเมียม (Premium) จากผู้ซื้อออปชั่นเป็นการแลกเปลี่ยนกับภาระผูกพันที่จะต้องดำเนินการตามสัญญาหากผู้ซื้อออปชั่นตัดสินใจใช้สิทธิ
Assignment Risk คือความเสี่ยงที่ผู้ขายออปชั่นจะถูก “มอบหมาย” ให้ดำเนินการตามสัญญาออปชั่นที่ตนขาย ซึ่งหมายความว่าผู้ขายจะต้องซื้อ (ในกรณีของ Put Option) หรือขาย (ในกรณีของ Call Option) สินทรัพย์อ้างอิงในราคา Strike Price แม้ว่าสถานการณ์ตลาดจะไม่เป็นไปในทิศทางที่ตนคาดการณ์ไว้ก็ตาม
- ความแตกต่างระหว่างออปชั่นแบบ American และ European
ความเข้าใจในประเภทของออปชั่นเป็นสิ่งสำคัญในการประเมิน Assignment Risk ออปชั่นแบ่งออกเป็นสองประเภทหลักๆ คือ
- **ออปชั่นแบบ American:** สามารถใช้สิทธิได้ตลอดระยะเวลาของสัญญา จนถึงวันหมดอายุ (Expiration Date)
- **ออปชั่นแบบ European:** สามารถใช้สิทธิได้เฉพาะในวันหมดอายุเท่านั้น
ออปชั่นแบบ American มี Assignment Risk สูงกว่าออปชั่นแบบ European เนื่องจากสามารถถูกใช้สิทธิได้ตลอดเวลา ผู้ขายออปชั่นแบบ American จึงต้องติดตามสถานการณ์ตลาดอย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมที่จะดำเนินการตามสัญญาได้ตลอดเวลา
- Assignment Risk ใน Call Option
เมื่อคุณขาย Call Option คุณกำลังเดิมพันว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะไม่สูงกว่า Strike Price ภายในวันหมดอายุ หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงสูงกว่า Strike Price ผู้ซื้อ Call Option จะใช้สิทธิ และคุณ (ในฐานะผู้ขาย) จะต้องขายสินทรัพย์อ้างอิงในราคา Strike Price แม้ว่าราคาตลาดจะสูงกว่านั้นก็ตาม
Assignment Risk ใน Call Option จะเกิดขึ้นเมื่อ:
- ราคาของสินทรัพย์อ้างอิงสูงกว่า Strike Price อย่างมาก
- เหลือระยะเวลาจนถึงวันหมดอายุไม่มาก
ในสถานการณ์เหล่านี้ ผู้ซื้อ Call Option จะมีแรงจูงใจสูงที่จะใช้สิทธิเพื่อทำกำไรจากส่วนต่างของราคา
- Assignment Risk ใน Put Option
เมื่อคุณขาย Put Option คุณกำลังเดิมพันว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะไม่ต่ำกว่า Strike Price ภายในวันหมดอายุ หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงต่ำกว่า Strike Price ผู้ซื้อ Put Option จะใช้สิทธิ และคุณ (ในฐานะผู้ขาย) จะต้องซื้อสินทรัพย์อ้างอิงในราคา Strike Price แม้ว่าราคาตลาดจะต่ำกว่านั้นก็ตาม
Assignment Risk ใน Put Option จะเกิดขึ้นเมื่อ:
- ราคาของสินทรัพย์อ้างอิงต่ำกว่า Strike Price อย่างมาก
- เหลือระยะเวลาจนถึงวันหมดอายุไม่มาก
ในสถานการณ์เหล่านี้ ผู้ซื้อ Put Option จะมีแรงจูงใจสูงที่จะใช้สิทธิเพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุนจากการที่ราคาของสินทรัพย์อ้างอิงลดลงต่อไป
- ปัจจัยที่มีผลต่อ Assignment Risk
มีหลายปัจจัยที่สามารถส่งผลต่อ Assignment Risk ได้แก่:
- **Volatility:** ความผันผวนของราคาของสินทรัพย์อ้างอิงที่สูงขึ้นจะเพิ่ม Assignment Risk
- **Time to Expiration:** ระยะเวลาที่เหลือจนถึงวันหมดอายุที่สั้นลงจะเพิ่ม Assignment Risk
- **In-the-Money Status:** ออปชั่นที่อยู่ในสถานะ “In-the-Money” (ราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเอื้ออำนวยต่อการใช้สิทธิ) มี Assignment Risk สูงกว่าออปชั่นที่อยู่ในสถานะ “Out-of-the-Money”
- **Interest Rates:** อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นสามารถเพิ่ม Assignment Risk ได้ในบางสถานการณ์
- **Dividends:** การจ่ายเงินปันผลของสินทรัพย์อ้างอิงสามารถส่งผลต่อ Assignment Risk ได้
- การบริหารจัดการ Assignment Risk
มีหลายวิธีในการบริหารจัดการ Assignment Risk ได้แก่:
- **Buy to Close:** การซื้อออปชั่นเดิมที่คุณขายออกไปเพื่อปิดสถานะ (Closing the Position) เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการหลีกเลี่ยง Assignment Risk แต่คุณจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรม
- **Roll the Option:** การขยายระยะเวลาของสัญญาออปชั่นออกไป (Rolling the Option) เป็นอีกวิธีหนึ่งในการหลีกเลี่ยง Assignment Risk โดยคุณจะต้องขายออปชั่นเดิมและซื้อออปชั่นใหม่ที่มีวันหมดอายุที่ไกลออกไป
- **Offsetting Positions:** การสร้างสถานะที่ตรงข้ามกัน (Offsetting Position) สามารถช่วยลด Assignment Risk ได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณขาย Call Option คุณสามารถซื้อ Call Option ที่มี Strike Price และวันหมดอายุเดียวกันเพื่อลดความเสี่ยงของคุณ
- **เลือกออปชั่นแบบ European:** หากคุณต้องการลด Assignment Risk ให้เลือกซื้อขายออปชั่นแบบ European แทนออปชั่นแบบ American
- **การใช้กลยุทธ์ Hedging:** การใช้กลยุทธ์ Hedging เช่น Covered Call หรือ Protective Put สามารถช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตการลงทุนของคุณได้
- ตัวอย่างสถานการณ์และการคำนวณ
สมมติว่าคุณขาย Call Option บนหุ้น XYZ ด้วย Strike Price ที่ 50 ดอลลาร์ และได้รับพรีเมียม 2 ดอลลาร์ต่อหุ้น หากราคาหุ้น XYZ เพิ่มขึ้นเป็น 55 ดอลลาร์ในวันหมดอายุ ผู้ซื้อ Call Option จะใช้สิทธิ และคุณจะต้องขายหุ้น XYZ ในราคา 50 ดอลลาร์ แม้ว่าราคาตลาดจะสูงกว่านั้นก็ตาม
ในสถานการณ์นี้ คุณจะขาดทุน 5 ดอลลาร์ต่อหุ้น (55 ดอลลาร์ - 50 ดอลลาร์) แต่คุณจะได้รับพรีเมียม 2 ดอลลาร์ต่อหุ้น ดังนั้นกำไรสุทธิของคุณจะอยู่ที่ -3 ดอลลาร์ต่อหุ้น
การคำนวณนี้แสดงให้เห็นว่า Assignment Risk สามารถนำไปสู่การขาดทุนได้หากคุณขายออปชั่นและราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเคลื่อนที่ในทิศทางที่ไม่เป็นไปตามที่คุณคาดการณ์ไว้
- กลยุทธ์การซื้อขายที่เกี่ยวข้อง
- **Straddle:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อทั้ง Call Option และ Put Option ด้วย Strike Price และวันหมดอายุเดียวกัน เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่คาดว่าราคาจะมีความผันผวนสูง
- **Strangle:** คล้ายกับ Straddle แต่ใช้ Strike Price ที่แตกต่างกัน ทำให้กลยุทธ์นี้มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า แต่ก็ต้องการการเคลื่อนไหวของราคาที่มากกว่าเพื่อให้ได้กำไร
- **Butterfly Spread:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์จากความคาดหวังว่าราคาจะอยู่ในช่วงแคบๆ
- **Iron Condor:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการทำกำไรจากการที่ราคาอยู่ในช่วงที่จำกัด
- **Credit Spread:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการขายออปชั่นหนึ่งและซื้ออีกออปชั่นหนึ่งเพื่อจำกัดความเสี่ยง
- **Debit Spread:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อออปชั่นหนึ่งและขายอีกออปชั่นหนึ่งเพื่อลดต้นทุน
- **Calendar Spread:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อและขายออปชั่นที่มีวันหมดอายุที่แตกต่างกัน
- **Diagonal Spread:** กลยุทธ์ที่ผสมผสานการซื้อขายออปชั่นที่มีทั้ง Strike Price และวันหมดอายุที่แตกต่างกัน
- **Ratio Spread:** กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อและขายออปชั่นในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน
- การวิเคราะห์ทางเทคนิคและปริมาณการซื้อขาย
การใช้เครื่องมือ การวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น Moving Averages, Relative Strength Index (RSI), และ Bollinger Bands สามารถช่วยในการประเมินแนวโน้มของราคาและระดับความผันผวนของสินทรัพย์อ้างอิงได้ นอกจากนี้ การวิเคราะห์ ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis) สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของแนวโน้มและระดับความสนใจของนักลงทุน
- การจัดการความเสี่ยงและขนาด Position
การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น กำหนดขนาด Position (Position Sizing) ที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ อย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถเสียได้
- สรุป
Assignment Risk เป็นความเสี่ยงที่สำคัญที่ผู้ขายออปชั่นต้องเผชิญ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Assignment Risk และวิธีการบริหารจัดการความเสี่ยงนี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จในการซื้อขาย ออปชั่น และ ไบนารี่ออปชั่น การใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสม การวิเคราะห์ตลาดอย่างรอบคอบ และการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพสามารถช่วยลดผลกระทบของ Assignment Risk และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรของคุณ
| สถานการณ์ | ความเสี่ยง | การจัดการความเสี่ยง |
| ขาย Call Option, ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก | ถูกมอบหมายให้ขายหุ้นในราคา Strike Price แม้ราคาตลาดจะสูงกว่า | Buy to Close, Roll the Option, Offseting Positions |
| ขาย Put Option, ราคาหุ้นลดลงอย่างมาก | ถูกมอบหมายให้ซื้อหุ้นในราคา Strike Price แม้ราคาตลาดจะต่ำกว่า | Buy to Close, Roll the Option, Offseting Positions |
| ออปชั่นแบบ American ใกล้หมดอายุ, In-the-Money | โอกาสถูกมอบหมายสูง | Buy to Close, Roll the Option |
| ความผันผวนของราคาหุ้นสูง | โอกาสถูกมอบหมายเพิ่มขึ้น | ใช้กลยุทธ์ Hedging เช่น Covered Call หรือ Protective Put |
การซื้อขายออปชั่น กลยุทธ์การซื้อขายออปชั่น การบริหารความเสี่ยง การวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย Moving Averages Relative Strength Index (RSI) Bollinger Bands Covered Call Protective Put Hedging Volatility Expiration Date Strike Price Premium In-the-Money Out-of-the-Money American Option European Option Option Seller Option Buyer Binary Options Position Sizing (Category:Options Trading)
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
