Forex Trading Glossary

Forex หรือ Foreign Exchange คือตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดและมีการซื้อขายมากที่สุดในโลก โดยมีการซื้อขายสกุลเงินต่างๆ เพื่อทำกำไรจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน สำหรับผู้เริ่มต้น การทำความเข้าใจคำศัพท์เฉพาะทางเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง บทความนี้จะรวบรวมคำศัพท์ที่ใช้บ่อยในตลาด Forex เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถเริ่มต้นได้อย่างมั่นใจ

คำศัพท์พื้นฐาน

อัตราแลกเปลี่ยน (Exchange Rate): ราคาของสกุลเงินหนึ่งเทียบกับอีกสกุลเงินหนึ่ง เช่น EUR/USD หมายถึงราคาของเงินยูโรเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนคือโอกาสในการทำกำไรในตลาด Forex
สกุลเงินหลัก (Major Currency Pairs): สกุลเงินที่ถูกซื้อขายมากที่สุดในตลาด Forex ได้แก่ USD (ดอลลาร์สหรัฐฯ), EUR (ยูโร), JPY (เยนญี่ปุ่น), GBP (ปอนด์สเตอร์ลิง), AUD (ดอลลาร์ออสเตรเลีย), CAD (ดอลลาร์แคนาดา), CHF (ฟรังก์สวิส), และ NZD (ดอลลาร์นิวซีแลนด์)
สกุลเงินรอง (Minor Currency Pairs): สกุลเงินที่ไม่เป็นที่นิยมเท่าสกุลเงินหลัก เช่น EUR/GBP, AUD/JPY
สกุลเงินแปลก (Exotic Currency Pairs): สกุลเงินที่มาจากประเทศกำลังพัฒนา เช่น USD/TRY (ดอลลาร์สหรัฐฯ/ลีราตุรกี)
Bid Price: ราคาที่โบรกเกอร์ยินดีซื้อสกุลเงินจากเทรดเดอร์
Ask Price: ราคาที่โบรกเกอร์ยินดีขายสกุลเงินให้เทรดเดอร์
Spread: ความแตกต่างระหว่าง Bid Price และ Ask Price เป็นค่าธรรมเนียมที่โบรกเกอร์เรียกเก็บ
Pip (Percentage in Point): หน่วยย่อยที่สุดของการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยน โดยทั่วไปคือ 0.0001 สำหรับคู่สกุลเงินส่วนใหญ่ ยกเว้น JPY ซึ่งเป็น 0.01
Lot: ขนาดของสัญญาซื้อขายมาตรฐาน โดยปกติคือ 100,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก มี Lot ขนาดเล็ก (Micro Lot: 1,000 หน่วย, Mini Lot: 10,000 หน่วย) ให้เลือกด้วย
Leverage (อัตราทด): การใช้เงินกู้จากโบรกเกอร์เพื่อเพิ่มขนาดการซื้อขายของคุณ Leverage สามารถเพิ่มทั้งกำไรและขาดทุนได้
Margin (เงินมาร์จิน): จำนวนเงินที่ต้องมีในบัญชีเพื่อเปิดและรักษาตำแหน่งการซื้อขาย

คำศัพท์เฉพาะทาง

Backtesting: การทดสอบกลยุทธ์การซื้อขายย้อนหลังโดยใช้ข้อมูลในอดีต เพื่อประเมินประสิทธิภาพของกลยุทธ์นั้นๆ Backtesting เป็นส่วนสำคัญของการพัฒนา กลยุทธ์การเทรด ที่มีประสิทธิภาพ
Base Currency: สกุลเงินแรกในคู่สกุลเงิน (ตัวอย่าง: EUR/USD, EUR คือ Base Currency)
Counter Currency: สกุลเงินที่สองในคู่สกุลเงิน (ตัวอย่าง: EUR/USD, USD คือ Counter Currency)
Correlation (สหสัมพันธ์): ความสัมพันธ์ระหว่างการเคลื่อนไหวของคู่สกุลเงินสองคู่ การเข้าใจ สหสัมพันธ์ของสกุลเงิน สามารถช่วยในการกระจายความเสี่ยง
Day Trading: การซื้อขายที่เปิดและปิดตำแหน่งภายในวันเดียวกัน
Fibonacci Retracement: เครื่องมือในการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้ระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น Fibonacci Retracement เป็นเครื่องมือยอดนิยมใน การวิเคราะห์ทางเทคนิค
Fundamental Analysis (การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน): การประเมินมูลค่าของสกุลเงินโดยพิจารณาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจเช่น อัตราดอกเบี้ย, การเติบโตของ GDP, และอัตราเงินเฟ้อ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ช่วยให้เข้าใจภาพรวมเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อมูลค่าสกุลเงิน
Gap (ช่องว่าง): ความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างราคาปิดของวันก่อนหน้าและราคาเปิดของวันปัจจุบัน
Hedging (การป้องกันความเสี่ยง): การใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน
Inflation (อัตราเงินเฟ้อ): อัตราการเพิ่มขึ้นของระดับราคาของสินค้าและบริการในระยะยาว
Interest Rate (อัตราดอกเบี้ย): ต้นทุนของการกู้ยืมเงิน หรือผลตอบแทนจากการลงทุน
Liquidity (สภาพคล่อง): ความง่ายในการซื้อขายสกุลเงินโดยไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อราคา สกุลเงินที่มี สภาพคล่องสูง จะช่วยให้การซื้อขายเป็นไปอย่างราบรื่น
Long Position (สถานะซื้อ): การซื้อสกุลเงินโดยคาดหวังว่าราคาจะสูงขึ้น
Margin Call (การเรียกหลักประกันเพิ่มเติม): การแจ้งเตือนจากโบรกเกอร์เมื่อเงินในบัญชีของคุณต่ำกว่าระดับที่กำหนด
Moving Average (ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่): ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่ใช้ในการระบุแนวโน้มของราคา Moving Average เป็นเครื่องมือพื้นฐานในการ การวิเคราะห์ทางเทคนิค
Order Block: รูปแบบแท่งเทียนที่แสดงถึงการสะสมหรือการกระจายตัวของคำสั่งซื้อขายขนาดใหญ่
Overbought (ซื้อมากเกินไป): สภาวะที่ราคาของสินทรัพย์สูงเกินไป และอาจมีการปรับตัวลดลง
Oversold (ขายมากเกินไป): สภาวะที่ราคาของสินทรัพย์ต่ำเกินไป และอาจมีการปรับตัวสูงขึ้น
Pivot Point (จุดหมุน): ระดับแนวรับและแนวต้านที่คำนวณจากราคาในอดีต Pivot Point เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการระบุจุดเข้าและออกจากการซื้อขาย
Range (ช่วงราคา): ช่วงระหว่างระดับสูงสุดและต่ำสุดของราคาในช่วงเวลาหนึ่ง
Resistance (แนวต้าน): ระดับราคาที่คาดว่าจะหยุดการขึ้นของราคา
Risk/Reward Ratio (อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน): ความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนเงินที่เสี่ยงกับจำนวนเงินที่คาดว่าจะได้รับ
Short Position (สถานะขาย): การขายสกุลเงินโดยคาดหวังว่าราคาจะลดลง
Stop Loss: คำสั่งให้ปิดตำแหน่งการซื้อขายโดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนด เพื่อจำกัดการขาดทุน
Support (แนวรับ): ระดับราคาที่คาดว่าจะหยุดการลงของราคา
Technical Analysis (การวิเคราะห์ทางเทคนิค): การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาและปริมาณการซื้อขายเพื่อคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต การวิเคราะห์ทางเทคนิค เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับเทรดเดอร์
Trend (แนวโน้ม): ทิศทางทั่วไปของการเคลื่อนไหวของราคา การระบุแนวโน้ม เป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจซื้อขาย
Volatility (ความผันผวน): ระดับของการเปลี่ยนแปลงของราคาในช่วงเวลาหนึ่ง สกุลเงินที่มี ความผันผวนสูง อาจมีโอกาสทำกำไรสูง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน

กลยุทธ์การเทรดที่เกี่ยวข้อง

Scalping: กลยุทธ์การเทรดระยะสั้นที่มุ่งเน้นการทำกำไรจากความผันผวนเล็กน้อยของราคา
Day Trading: กลยุทธ์การเทรดที่เปิดและปิดตำแหน่งภายในวันเดียวกัน
Swing Trading: กลยุทธ์การเทรดที่ถือตำแหน่งเป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ เพื่อทำกำไรจากแนวโน้ม
Position Trading: กลยุทธ์การเทรดระยะยาวที่ถือตำแหน่งเป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี
Breakout Trading: กลยุทธ์การเทรดที่มุ่งเน้นการซื้อขายเมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้าน
Trend Following: กลยุทธ์การเทรดที่มุ่งเน้นการซื้อขายตามแนวโน้ม
Mean Reversion: กลยุทธ์การเทรดที่มุ่งเน้นการซื้อขายเมื่อราคาเบี่ยงเบนออกจากค่าเฉลี่ย
Carry Trade: กลยุทธ์การเทรดที่มุ่งเน้นการทำกำไรจากความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสกุลเงิน
News Trading: กลยุทธ์การเทรดที่มุ่งเน้นการซื้อขายตามข่าวสารทางเศรษฐกิจ
Price Action Trading: กลยุทธ์การเทรดที่มุ่งเน้นการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาโดยไม่ใช้ตัวบ่งชี้
Elliott Wave Theory: ทฤษฎีที่ใช้ในการวิเคราะห์รูปแบบราคาเพื่อคาดการณ์แนวโน้ม
Ichimoku Cloud: ระบบการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้ในการระบุแนวโน้มและระดับแนวรับ/แนวต้าน
Bollinger Bands: ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่ใช้ในการวัดความผันผวนและระบุสภาวะ Overbought/Oversold
MACD (Moving Average Convergence Divergence): ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่ใช้ในการระบุแนวโน้มและโมเมนตัม
RSI (Relative Strength Index): ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่ใช้ในการวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มและระบุสภาวะ Overbought/Oversold

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย

Volume (ปริมาณการซื้อขาย): จำนวนหน่วยของสกุลเงินที่ซื้อขายในช่วงเวลาหนึ่ง การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย สามารถช่วยยืนยันแนวโน้มและระบุจุดกลับตัวของราคา
On Balance Volume (OBV): ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่ใช้ในการวัดความสัมพันธ์ระหว่างราคาและปริมาณการซื้อขาย
Accumulation/Distribution Line (A/D Line): ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่ใช้ในการวัดแรงซื้อขาย

ข้อควรจำ

การซื้อขาย Forex มีความเสี่ยงสูง ผู้เริ่มต้นควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดและทำความเข้าใจความเสี่ยงก่อนทำการซื้อขาย การใช้เครื่องมือบริหารความเสี่ยง เช่น Stop Loss และ Leverage อย่างระมัดระวังเป็นสิ่งสำคัญ

ตัวอย่างคำศัพท์และการใช้งาน
! คำศัพท์	! คำอธิบาย	! ตัวอย่าง
อัตราแลกเปลี่ยน	ราคาของสกุลเงินหนึ่งเทียบกับอีกสกุลเงินหนึ่ง	EUR/USD = 1.1000
Pip	หน่วยย่อยที่สุดของการเปลี่ยนแปลงราคา	EUR/USD เคลื่อนที่จาก 1.1000 เป็น 1.1005 (5 pips)
Leverage	การใช้เงินกู้เพื่อเพิ่มขนาดการซื้อขาย	Leverage 1:100 หมายถึงเงินทุน 1 ดอลลาร์ สามารถควบคุมการซื้อขายได้ 100 ดอลลาร์
Stop Loss	คำสั่งปิดตำแหน่งเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนด	ตั้ง Stop Loss ที่ 1.0950 เพื่อจำกัดการขาดทุน
Trend	ทิศทางทั่วไปของการเคลื่อนไหวของราคา	ตลาดอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend)

Forex Forex terminology

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น