สหสัมพันธ์ของสกุลเงิน

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. สหสัมพันธ์ของสกุลเงิน ในไบนารี่ออปชั่น

สหสัมพันธ์ของสกุลเงิน (Currency Correlation) เป็นแนวคิดสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักเทรด ไบนารี่ออปชั่น และผู้ที่สนใจในตลาด อัตราแลกเปลี่ยน (Forex) การทำความเข้าใจว่าสกุลเงินต่างๆ มีความสัมพันธ์กันอย่างไร สามารถช่วยให้คุณตัดสินใจเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการทำกำไร บทความนี้จะอธิบายถึงสหสัมพันธ์ของสกุลเงินอย่างละเอียด เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น โดยจะครอบคลุมถึงความหมาย ประเภท ปัจจัยที่มีผลกระทบ วิธีการวิเคราะห์ และการนำไปประยุกต์ใช้ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

      1. ความหมายของสหสัมพันธ์ของสกุลเงิน

สหสัมพันธ์ (Correlation) หมายถึง ความสัมพันธ์ทางสถิติระหว่างการเคลื่อนไหวของราคาของสกุลเงินสองสกุล หรือมากกว่านั้น หากสกุลเงินสองสกุลเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน แสดงว่ามีความสัมพันธ์เชิงบวก (Positive Correlation) ในขณะที่หากเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้าม แสดงว่ามีความสัมพันธ์เชิงลบ (Negative Correlation) และหากไม่มีความสัมพันธ์กันเลย แสดงว่ามีความสัมพันธ์เป็นศูนย์ (Zero Correlation)

ในตลาดไบนารี่ออปชั่น การเข้าใจสหสัมพันธ์ของสกุลเงินช่วยให้คุณสามารถ:

  • **กระจายความเสี่ยง:** โดยการเทรดสกุลเงินที่มีความสัมพันธ์เชิงลบ เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาที่ไม่คาดคิด
  • **เพิ่มโอกาสในการทำกำไร:** โดยการเทรดสกุลเงินที่มีความสัมพันธ์เชิงบวก เมื่อคาดการณ์ว่าทั้งสองสกุลเงินจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน
  • **หลีกเลี่ยงการเทรดที่ขัดแย้งกัน:** โดยการหลีกเลี่ยงการเทรดสกุลเงินที่มีความสัมพันธ์เชิงลบในทิศทางเดียวกัน
      1. ประเภทของสหสัมพันธ์ของสกุลเงิน

สหสัมพันธ์ของสกุลเงินสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลักๆ คือ:

1. **สหสัมพันธ์เชิงบวก (Positive Correlation):** สกุลเงินทั้งสองเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อสกุลเงินหนึ่งแข็งค่าขึ้น อีกสกุลเงินหนึ่งก็จะแข็งค่าขึ้นตามไปด้วย ตัวอย่างเช่น สหสัมพันธ์ระหว่าง EUR/USD และ GBP/USD มักจะมีความสัมพันธ์เชิงบวก เนื่องจากทั้งสองสกุลเงินเป็นสกุลเงินหลัก และได้รับผลกระทบจากปัจจัยเศรษฐกิจโลกในทิศทางเดียวกัน 2. **สหสัมพันธ์เชิงลบ (Negative Correlation):** สกุลเงินทั้งสองเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้าม เมื่อสกุลเงินหนึ่งแข็งค่าขึ้น อีกสกุลเงินหนึ่งจะอ่อนค่าลง ตัวอย่างเช่น สหสัมพันธ์ระหว่าง USD/JPY และ USD/CHF มักจะมีความสัมพันธ์เชิงลบ เนื่องจากทั้งสองสกุลเงินเป็นสกุลเงินปลอดภัย (Safe-haven currencies) เมื่อนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงในตลาดโลก มักจะหันไปลงทุนในสกุลเงินเหล่านี้ ทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) แข็งค่าขึ้น และสกุลเงิน JPY และ CHF อ่อนค่าลง 3. **สหสัมพันธ์เป็นศูนย์ (Zero Correlation):** สกุลเงินทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์กันในการเคลื่อนไหวของราคา การเปลี่ยนแปลงของสกุลเงินหนึ่งไม่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของอีกสกุลเงินหนึ่ง

      1. ปัจจัยที่มีผลต่อสหสัมพันธ์ของสกุลเงิน

มีหลายปัจจัยที่สามารถส่งผลกระทบต่อสหสัมพันธ์ของสกุลเงิน ได้แก่:

  • **ปัจจัยเศรษฐกิจ:** ตัวชี้วัดเศรษฐกิจ เช่น อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP), อัตราเงินเฟ้อ, อัตราดอกเบี้ย, และ อัตราการว่างงาน สามารถส่งผลกระทบต่อมูลค่าของสกุลเงิน และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสหสัมพันธ์
  • **นโยบายการเงิน:** การตัดสินใจของธนาคารกลางเกี่ยวกับนโยบายการเงิน เช่น การปรับขึ้นหรือลดลงของอัตราดอกเบี้ย สามารถส่งผลกระทบต่อมูลค่าของสกุลเงิน และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสหสัมพันธ์
  • **เหตุการณ์ทางการเมือง:** เหตุการณ์ทางการเมือง เช่น การเลือกตั้ง การเปลี่ยนแปลงรัฐบาล หรือความขัดแย้งระหว่างประเทศ สามารถสร้างความไม่แน่นอนในตลาด และส่งผลกระทบต่อมูลค่าของสกุลเงิน และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสหสัมพันธ์
  • **ความเชื่อมั่นของนักลงทุน:** ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก และตลาดการเงิน สามารถส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของเงินทุน และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในมูลค่าของสกุลเงิน และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสหสัมพันธ์
  • **ราคาสินค้าโภคภัณฑ์:** ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ราคาน้ำมันดิบ และ ราคาทองคำ สามารถส่งผลกระทบต่อสกุลเงินของประเทศที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรเหล่านี้
      1. วิธีการวิเคราะห์สหสัมพันธ์ของสกุลเงิน

มีหลายวิธีในการวิเคราะห์สหสัมพันธ์ของสกุลเงิน:

1. **การวิเคราะห์ทางสถิติ (Statistical Analysis):** ใช้วิธีการทางสถิติ เช่น การคำนวณค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (Correlation Coefficient) เพื่อวัดความแข็งแกร่งและความทิศทางของความสัมพันธ์ระหว่างสกุลเงินสองสกุล ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์จะมีค่าระหว่าง -1 ถึง +1 โดย:

   *   +1 หมายถึง สหสัมพันธ์เชิงบวกที่สมบูรณ์
   *   -1 หมายถึง สหสัมพันธ์เชิงลบที่สมบูรณ์
   *   0 หมายถึง ไม่มีสหสัมพันธ์กัน

2. **การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis):** ใช้วิธีการทางเทคนิค เช่น การเปรียบเทียบกราฟราคาของสกุลเงินสองสกุล เพื่อดูว่ามีการเคลื่อนไหวที่สอดคล้องกันหรือไม่ คุณสามารถใช้เครื่องมือทางเทคนิค เช่น เส้นแนวโน้ม (Trend Lines), รูปแบบกราฟ (Chart Patterns), และ ตัวชี้วัดทางเทคนิค (Technical Indicators) เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ 3. **การวิเคราะห์พื้นฐาน (Fundamental Analysis):** วิเคราะห์ปัจจัยเศรษฐกิจ การเมือง และอื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าของสกุลเงิน และประเมินว่าปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อสหสัมพันธ์อย่างไร 4. **การใช้เครื่องมือออนไลน์:** มีเครื่องมือออนไลน์มากมายที่สามารถช่วยในการวิเคราะห์สหสัมพันธ์ของสกุลเงินได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย

      1. การประยุกต์ใช้สหสัมพันธ์ของสกุลเงินในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

การเข้าใจสหสัมพันธ์ของสกุลเงินสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการเทรดไบนารี่ออปชั่นได้หลายวิธี:

  • **Pair Trading:** เทรดสองสกุลเงินที่มีความสัมพันธ์เชิงบวกพร้อมกัน โดยคาดการณ์ว่าทั้งสองสกุลเงินจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน เช่น หากคุณคาดการณ์ว่าทั้ง EUR/USD และ GBP/USD จะแข็งค่าขึ้น คุณสามารถซื้อ (Call) ทั้งสองสกุลเงินพร้อมกัน
  • **Reverse Pair Trading:** เทรดสองสกุลเงินที่มีความสัมพันธ์เชิงลบพร้อมกัน โดยคาดการณ์ว่าทั้งสองสกุลเงินจะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้าม เช่น หากคุณคาดการณ์ว่า USD/JPY จะแข็งค่าขึ้น และ USD/CHF จะอ่อนค่าลง คุณสามารถซื้อ (Call) USD/JPY และขาย (Put) USD/CHF พร้อมกัน
  • **Hedging:** ใช้สกุลเงินที่มีความสัมพันธ์เชิงลบเพื่อลดความเสี่ยงในการเทรดสกุลเงินหลัก เช่น หากคุณกำลังเทรด AUD/USD และมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ คุณสามารถขาย (Put) USD/JPY เพื่อลดความเสี่ยง
  • **การเลือกสกุลเงินที่เหมาะสม:** เลือกเทรดสกุลเงินที่มีความสัมพันธ์กับสกุลเงินอื่นๆ ที่คุณกำลังติดตามอยู่ เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
      1. กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นโดยใช้สหสัมพันธ์ของสกุลเงิน
  • **Correlation Hedging Strategy:** กลยุทธ์นี้ใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์เชิงลบระหว่างสกุลเงินสองสกุลเพื่อลดความเสี่ยง
  • **Pair Trading Strategy:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อและขายสกุลเงินสองสกุลที่สัมพันธ์กัน โดยคาดหวังว่าความสัมพันธ์นั้นจะยังคงอยู่
  • **Mean Reversion Strategy:** กลยุทธ์นี้ใช้ประโยชน์จากแนวโน้มที่ราคาของสกุลเงินที่สัมพันธ์กันจะกลับสู่ค่าเฉลี่ยในระยะยาว
  • **Breakout Strategy:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการระบุช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่างสกุลเงินสองสกุลเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ
      1. เครื่องมือและแหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
  • **Forex Correlation Matrix:** เครื่องมือที่แสดงค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างสกุลเงินต่างๆ
  • **Economic Calendar:** ปฏิทินเศรษฐกิจที่แสดงกำหนดการเผยแพร่ตัวชี้วัดเศรษฐกิจที่สำคัญ
  • **Trading Platforms:** แพลตฟอร์มเทรดที่ให้บริการเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและข้อมูลตลาด
  • **Financial News Websites:** เว็บไซต์ข่าวการเงินที่ให้ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก
ตัวอย่างสหสัมพันธ์ของสกุลเงิน
สกุลเงินคู่ที่ 1 สกุลเงินคู่ที่ 2 ประเภทสหสัมพันธ์ คำอธิบาย
EUR/USD GBP/USD เชิงบวก สกุลเงินหลักทั้งคู่ มักได้รับผลกระทบจากปัจจัยเศรษฐกิจโลกในทิศทางเดียวกัน
USD/JPY USD/CHF เชิงลบ สกุลเงินปลอดภัยทั้งคู่ เมื่อ USD แข็งค่าขึ้น JPY และ CHF มักอ่อนค่าลง
AUD/USD NZD/USD เชิงบวก สกุลเงินสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Currencies) ทั้งคู่ มักได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์
USD/CAD ราคาน้ำมันดิบ เชิงลบ แคนาดาเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ ราคาน้ำมันดิบมีผลต่อเศรษฐกิจแคนาดาและมูลค่าของ CAD
EUR/USD JPY/USD เชิงลบ (โดยทั่วไป) การเปลี่ยนแปลงใน EUR/USD มักจะส่งผลกระทบต่อ JPY/USD ในทิศทางตรงกันข้าม
      1. สรุป

สหสัมพันธ์ของสกุลเงินเป็นแนวคิดสำคัญที่นักเทรดไบนารี่ออปชั่นควรทำความเข้าใจ การวิเคราะห์สหสัมพันธ์ของสกุลเงินสามารถช่วยให้คุณตัดสินใจเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการทำกำไร อย่างไรก็ตาม ไม่มีการวิเคราะห์ใดที่สามารถรับประกันผลกำไรได้เสมอไป ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องใช้ความระมัดระวังและบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสมเสมอ รวมถึงศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การบริหารความเสี่ยง (Risk Management), จิตวิทยาการเทรด (Trading Psychology), และ การวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quantitative Analysis) เพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะในการเทรดของคุณ

การวิเคราะห์ทางเทคนิคขั้นสูง การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานขั้นสูง กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่น การจัดการเงินทุน การอ่านกราฟราคา การใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิค การวิเคราะห์ข่าวสาร การวิเคราะห์รูปแบบกราฟ การเทรดตามแนวโน้ม การเทรดสวนแนวโน้ม Scalping Strategy Straddle Strategy Strangle Strategy Butterfly Spread Pairs Trading Strategy Trend Following Strategy Moving Average Crossover Fibonacci Retracement Bollinger Bands MACD Indicator RSI Indicator

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер