Scalping Strategy
- Scalping Strategy
- Scalping** คือกลยุทธ์การซื้อขายที่เน้นการทำกำไรจากความผันผวนของราคาในระยะเวลาสั้นๆ โดยปกติแล้วจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที หรือไม่กี่นาทีในการเปิดและปิดสถานะการซื้อขาย (Trade) กลยุทธ์นี้ได้รับความนิยมในตลาด ไบนารี่ออปชั่น เนื่องจากลักษณะของตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และโอกาสในการทำกำไรที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง บทความนี้จะอธิบายกลยุทธ์ Scalping อย่างละเอียดสำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงข้อดี ข้อเสีย เครื่องมือที่จำเป็น และตัวอย่างกลยุทธ์ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้
- ทำความเข้าใจกับ Scalping
Scalping แตกต่างจากกลยุทธ์การซื้อขายอื่นๆ ที่เน้นการถือสถานะการซื้อขายในระยะยาว (Long-term Trading) หรือระยะกลาง (Swing Trading) ผู้ที่ใช้กลยุทธ์ Scalping หรือที่เรียกว่า "Scalpers" จะพยายามทำกำไรจากส่วนต่างของราคาที่เล็กน้อย แต่ทำซ้ำๆ หลายครั้งตลอดทั้งวัน โดยมีเป้าหมายที่จะสะสมกำไรเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้จนกลายเป็นผลกำไรที่น่าพอใจในที่สุด
- ข้อดีของ Scalping:**
- **โอกาสในการทำกำไรสูง:** ตลาดไบนารี่ออปชั่นมีความผันผวนสูง ทำให้มีโอกาสในการทำกำไรจากส่วนต่างของราคาที่เล็กน้อยอยู่เสมอ
- **ความเสี่ยงต่ำต่อสถานะการซื้อขายแต่ละครั้ง:** เนื่องจาก Scalpers จะพยายามทำกำไรจากส่วนต่างของราคาที่เล็กน้อย ความเสี่ยงต่อสถานะการซื้อขายแต่ละครั้งจึงค่อนข้างต่ำ
- **ใช้เวลาน้อย:** Scalping สามารถทำได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลามากนักในการติดตามตลาดตลอดทั้งวัน
- **ลดความเสี่ยงจากข่าวสาร:** เนื่องจาก Scalping เน้นการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาในระยะสั้นๆ จึงมีความเสี่ยงน้อยกว่าที่จะได้รับผลกระทบจากข่าวสารสำคัญที่อาจทำให้ราคาเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง
- ข้อเสียของ Scalping:**
- **ต้องใช้สมาธิสูง:** Scalping ต้องการสมาธิและความรวดเร็วในการตัดสินใจสูง เนื่องจากต้องติดตามราคาและเปิด-ปิดสถานะการซื้อขายอย่างต่อเนื่อง
- **ค่าธรรมเนียมอาจสูง:** การทำธุรกรรมบ่อยครั้งอาจทำให้เสียค่าธรรมเนียมในการซื้อขายมากขึ้น
- **ความเครียด:** การซื้อขายอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องอาจทำให้เกิดความเครียดได้
- **ต้องใช้ความรู้และประสบการณ์:** Scalping ไม่ใช่กลยุทธ์ที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นโดยสมบูรณ์ จำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับตลาด และมีประสบการณ์ในการซื้อขายพอสมควร
- เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับ Scalping
เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการใช้กลยุทธ์ Scalping จำเป็นต้องมีเครื่องมือที่เหมาะสม ซึ่งประกอบด้วย:
- **โบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้:** เลือกโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีสภาพคล่องสูง และมีค่าธรรมเนียมที่เหมาะสม โบรกเกอร์ไบนารี่ออปชั่น
- **แพลตฟอร์มการซื้อขายที่มีประสิทธิภาพ:** แพลตฟอร์มการซื้อขายควรมีความเสถียร รวดเร็ว และมีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่จำเป็น
- **กราฟราคา:** กราฟราคาเป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์แนวโน้มของราคา และระบุจุดเข้า-ออกที่เหมาะสม การอ่านกราฟราคา
- **ตัวชี้วัดทางเทคนิค (Technical Indicators):** ตัวชี้วัดทางเทคนิคช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มของราคา และระบุสัญญาณซื้อ-ขาย ตัวชี้วัดทางเทคนิค เช่น Moving Average, RSI, MACD, Bollinger Bands
- **แหล่งข้อมูลข่าวสาร:** ข่าวสารเศรษฐกิจและการเงินสามารถส่งผลกระทบต่อราคาได้ การติดตามข่าวสารจึงเป็นสิ่งสำคัญ ข่าวสารทางการเงิน
- **การจัดการเงินทุน (Money Management):** การจัดการเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันความเสี่ยง และรักษาเงินทุนของคุณ การจัดการเงินทุน
- กลยุทธ์ Scalping ที่นิยม
มีกลยุทธ์ Scalping หลายรูปแบบที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ขึ้นอยู่กับสไตล์การซื้อขายและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างกลยุทธ์ Scalping ที่นิยม:
1. **Moving Average Crossover:** กลยุทธ์นี้ใช้การตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) สองเส้น เพื่อระบุสัญญาณซื้อ-ขาย เมื่อเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นตัดเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาวขึ้นด้านบน ถือเป็นสัญญาณซื้อ และเมื่อตัดลงด้านล่าง ถือเป็นสัญญาณขาย Moving Average 2. **RSI (Relative Strength Index) Scalping:** กลยุทธ์นี้ใช้ตัวชี้วัด RSI เพื่อระบุสภาวะการซื้อมากเกินไป (Overbought) และการขายมากเกินไป (Oversold) เมื่อ RSI สูงกว่า 70 ถือว่าเป็นสภาวะการซื้อมากเกินไป และเป็นสัญญาณขาย และเมื่อ RSI ต่ำกว่า 30 ถือว่าเป็นสภาวะการขายมากเกินไป และเป็นสัญญาณซื้อ RSI 3. **Bollinger Bands Scalping:** กลยุทธ์นี้ใช้ Bollinger Bands เพื่อระบุช่วงราคาที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เมื่อราคาแตะขอบบนของ Bollinger Bands ถือว่าเป็นสัญญาณขาย และเมื่อราคาแตะขอบล่าง ถือว่าเป็นสัญญาณซื้อ Bollinger Bands 4. **MACD (Moving Average Convergence Divergence) Scalping:** กลยุทธ์นี้ใช้ตัวชี้วัด MACD เพื่อระบุแนวโน้มของราคา และระบุสัญญาณซื้อ-ขาย เมื่อเส้น MACD ตัดเส้น Signal Line ขึ้นด้านบน ถือเป็นสัญญาณซื้อ และเมื่อตัดลงด้านล่าง ถือเป็นสัญญาณขาย MACD 5. **Pin Bar Scalping:** กลยุทธ์นี้ใช้รูปแบบแท่งเทียน Pin Bar เพื่อระบุจุดกลับตัวของราคา Pin Bar คือแท่งเทียนที่มีลำตัวเล็กๆ และมีหางยาวๆ ซึ่งบ่งบอกถึงการปฏิเสธราคาในทิศทางเดิม หาก Pin Bar เกิดขึ้นในแนวโน้มขาขึ้น ถือเป็นสัญญาณขาย และหากเกิดขึ้นในแนวโน้มขาลง ถือเป็นสัญญาณซื้อ รูปแบบแท่งเทียน 6. **Breakout Scalping:** กลยุทธ์นี้จะเข้าซื้อเมื่อราคาทะลุแนวต้าน (Resistance) หรือเข้าขายเมื่อราคาทะลุแนวรับ (Support) โดยคาดหวังว่าราคาจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางของการทะลุแนวรับ/ต้าน แนวรับแนวต้าน 7. **News Scalping:** กลยุทธ์นี้จะใช้ประโยชน์จากข่าวสารเศรษฐกิจและการเงินที่สำคัญ โดยจะเข้าซื้อหรือขายก่อนหรือหลังการประกาศข่าวสาร โดยคาดหวังว่าราคาจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่สอดคล้องกับข่าวสาร การซื้อขายตามข่าว 8. **Volume Spread Analysis (VSA) Scalping:** กลยุทธ์นี้วิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume) และช่วงราคา (Spread) เพื่อระบุความแข็งแกร่งหรืออ่อนแอของแนวโน้ม การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย 9. **Ichimoku Cloud Scalping:** กลยุทธ์นี้ใช้ Ichimoku Cloud เพื่อระบุแนวโน้มและระดับแนวรับ/ต้าน Ichimoku Cloud 10. **Fibonacci Retracement Scalping:** กลยุทธ์นี้ใช้ Fibonacci Retracement เพื่อระบุระดับแนวรับ/ต้านที่อาจเกิดขึ้น Fibonacci Retracement 11. **Elliott Wave Scalping:** กลยุทธ์นี้ใช้ Elliott Wave Theory เพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา Elliott Wave Theory 12. **Harmonic Pattern Scalping:** กลยุทธ์นี้ใช้ Harmonic Patterns เพื่อระบุรูปแบบราคาที่สามารถทำนายการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต Harmonic Patterns 13. **Three Inside Bar Scalping:** กลยุทธ์นี้ใช้รูปแบบ Three Inside Bar ซึ่งเป็นรูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการพักตัวของแนวโน้มก่อนที่จะกลับมาเคลื่อนที่ต่อ รูปแบบแท่งเทียน 14. **Donchian Channel Scalping:** กลยุทธ์นี้ใช้ Donchian Channel เพื่อระบุช่วงราคาที่สูงที่สุดและต่ำที่สุดในช่วงเวลาที่กำหนด Donchian Channel 15. **Keltner Channel Scalping:** กลยุทธ์นี้ใช้ Keltner Channel เพื่อระบุความผันผวนของราคา และระบุจุดเข้า-ออกที่เหมาะสม Keltner Channel
- เคล็ดลับในการ Scalping ที่ประสบความสำเร็จ
- **ตั้งเป้าหมายกำไรที่สมเหตุสมผล:** อย่าตั้งเป้าหมายกำไรที่สูงเกินไป การตั้งเป้าหมายที่สมเหตุสมผลจะช่วยลดความเครียด และเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ
- **ใช้ Stop Loss เสมอ:** Stop Loss เป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันความเสี่ยง หากราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ Stop Loss จะช่วยจำกัดความเสียหาย
- **ควบคุมอารมณ์:** การซื้อขายด้วยอารมณ์อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด พยายามควบคุมอารมณ์ และยึดมั่นในแผนการซื้อขายของคุณ
- **ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ:** Scalping ต้องการทักษะและความชำนาญ การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอจะช่วยพัฒนาทักษะของคุณ และเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ
- **บันทึกผลการซื้อขาย:** การบันทึกผลการซื้อขายจะช่วยให้คุณวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเอง และปรับปรุงกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ
- **เริ่มต้นด้วยบัญชีทดลอง (Demo Account):** ก่อนที่จะเริ่มซื้อขายด้วยเงินจริง ควรเริ่มต้นด้วยบัญชีทดลองเพื่อทำความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มการซื้อขาย และทดสอบกลยุทธ์ของคุณ
- ข้อควรระวัง
- Scalping ไม่เหมาะสำหรับทุกคน ผู้ที่ไม่มีสมาธิสูง หรือไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ ควรหลีกเลี่ยงกลยุทธ์นี้
- Scalping อาจมีความเสี่ยงสูง หากไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับตลาด และไม่มีประสบการณ์ในการซื้อขายเพียงพอ
- อย่าลงทุนเงินที่คุณไม่สามารถเสียได้ การซื้อขายมีความเสี่ยงเสมอ และคุณอาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมดได้
- สรุป
Scalping เป็นกลยุทธ์การซื้อขายที่สามารถทำกำไรได้ในตลาดไบนารี่ออปชั่น แต่ต้องใช้ความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และวินัยในการซื้อขายอย่างเคร่งครัด หากคุณสามารถปฏิบัติตามเคล็ดลับที่กล่าวมาข้างต้น และฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ คุณก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการใช้กลยุทธ์ Scalping ได้
การวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การบริหารความเสี่ยง จิตวิทยาการซื้อขาย กลยุทธ์ Martingale กลยุทธ์ Anti-Martingale กลยุทธ์ Fibonacci กลยุทธ์ Trend Following กลยุทธ์ Range Trading กลยุทธ์ Breakout กลยุทธ์ Reversal การซื้อขายตามแนวโน้ม การซื้อขายแบบสวิง การซื้อขายระยะยาว การซื้อขายแบบ Day Trading
| ตัวชี้วัด | ค่า |
|---|---|
| RSI Period !! 14 | |
| Overbought Level !! 70 | |
| Oversold Level !! 30 |
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
