Pivot Point

1. Pivot Point

Pivot Point เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้ในการคาดการณ์แนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ในตลาดการเงิน รวมถึงตลาด ไบนารี่ออปชั่น ด้วย โดยมันถูกพัฒนาขึ้นโดยนักเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ในช่วงทศวรรษ 1930 และต่อมาได้รับความนิยมในตลาดหุ้นและ Forex และปัจจุบันก็ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในตลาดไบนารี่ออปชั่นเช่นกัน บทความนี้จะอธิบายถึงแนวคิดพื้นฐาน การคำนวณ การใช้งาน และกลยุทธ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Pivot Point สำหรับนักเทรดไบนารี่ออปชั่นระดับเริ่มต้น

1. 1. แนวคิดพื้นฐานของ Pivot Point

Pivot Point เป็นระดับราคาที่สำคัญที่เกิดจากราคาในอดีต โดยเชื่อกันว่าระดับเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต หลักการพื้นฐานคือ นักเทรดจะมองหาจุดที่ราคาอาจกลับตัวหรือหยุดพัก ณ ระดับเหล่านี้ เนื่องจากระดับ Pivot Point สะท้อนถึงความสนใจของนักเทรดจำนวนมาก

แนวคิดหลักที่ต้องเข้าใจคือ:

**Pivot Point (PP):** จุดศูนย์กลางที่ใช้ในการคำนวณระดับอื่นๆ
**Support Levels (S):** ระดับราคาที่คาดว่าจะมีการซื้อเข้ามา ทำให้ราคามีแนวโน้มที่จะไม่ลดลงต่ำกว่าระดับนี้
**Resistance Levels (R):** ระดับราคาที่คาดว่าจะมีการขายออกมา ทำให้ราคามีแนวโน้มที่จะไม่สูงขึ้นเหนือระดับนี้

การเข้าใจแนวรับและแนวต้านเป็นสิ่งสำคัญในการเทรด การวิเคราะห์ทางเทคนิค เพราะมันช่วยให้นักเทรดสามารถระบุจุดเข้าและออกที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

1. 1. การคำนวณ Pivot Point

การคำนวณ Pivot Point เป็นเรื่องง่ายและสามารถทำได้ด้วยสูตรพื้นฐาน ดังนี้:

**Pivot Point (PP) = (High + Low + Close) / 3**

   *   High คือ ราคาสูงสุดของช่วงเวลาที่กำหนด (เช่น วัน, สัปดาห์, เดือน)
   *   Low คือ ราคาต่ำสุดของช่วงเวลาที่กำหนด
   *   Close คือ ราคาปิดของช่วงเวลาที่กำหนด

เมื่อได้ค่า Pivot Point แล้ว เราสามารถคำนวณระดับ Support และ Resistance ได้ดังนี้:

**R1 (Resistance 1) = (2 x PP) - Low**
**S1 (Support 1) = (2 x PP) - High**
**R2 (Resistance 2) = PP + (High - Low)**
**S2 (Support 2) = PP - (High - Low)**
**R3 (Resistance 3) = High + 2*(PP - Low)**
**S3 (Support 3) = Low - 2*(High - PP)**

ตารางสรุปสูตรการคำนวณ:

สูตรการคำนวณ Pivot Point
ระดับ	สูตร
Pivot Point (PP)	(High + Low + Close) / 3
Resistance 1 (R1)	(2 x PP) - Low
Support 1 (S1)	(2 x PP) - High
Resistance 2 (R2)	PP + (High - Low)
Support 2 (S2)	PP - (High - Low)
Resistance 3 (R3)	High + 2*(PP - Low)
Support 3 (S3)	Low - 2*(High - PP)

ตัวอย่าง: สมมติว่าราคา High = 1.2500, Low = 1.2300, Close = 1.2400

PP = (1.2500 + 1.2300 + 1.2400) / 3 = 1.2400
R1 = (2 x 1.2400) - 1.2300 = 1.2500
S1 = (2 x 1.2400) - 1.2500 = 1.2300
R2 = 1.2400 + (1.2500 - 1.2300) = 1.2600
S2 = 1.2400 - (1.2500 - 1.2300) = 1.2200
R3 = 1.2500 + 2*(1.2400 - 1.2300) = 1.2700
S3 = 1.2300 - 2*(1.2500 - 1.2400) = 1.2100

1. 1. การใช้งาน Pivot Point ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

เมื่อคำนวณระดับ Pivot Point ได้แล้ว นักเทรดสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจเทรดได้หลายวิธี:

**การซื้อเมื่อราคาแตะระดับ Support:** หากราคาลดลงมาที่ระดับ Support (S1, S2, S3) นักเทรดอาจพิจารณาเปิดออปชั่น Call (ซื้อ) โดยคาดหวังว่าราคาจะกลับตัวขึ้น
**การขายเมื่อราคาแตะระดับ Resistance:** หากราคาสูงขึ้นไปที่ระดับ Resistance (R1, R2, R3) นักเทรดอาจพิจารณาเปิดออปชั่น Put (ขาย) โดยคาดหวังว่าราคาจะกลับตัวลง
**การ Breakout:** หากราคาทะลุผ่านระดับ Resistance ขึ้นไปอย่างแข็งแกร่ง อาจเป็นสัญญาณว่าราคาจะยังคงปรับตัวขึ้นต่อไป นักเทรดอาจเปิดออปชั่น Call
**การ Breakdown:** หากราคาหลุดผ่านระดับ Support ลงมาอย่างแข็งแกร่ง อาจเป็นสัญญาณว่าราคาจะยังคงปรับตัวลงต่อไป นักเทรดอาจเปิดออปชั่น Put
**การยืนยันด้วย Indicators อื่นๆ:** การใช้ Pivot Point ร่วมกับ Indicators อื่นๆ เช่น Moving Average หรือ RSI จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจเทรด

1. 1. กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นด้วย Pivot Point

มีกลยุทธ์มากมายที่สามารถใช้ร่วมกับ Pivot Point ได้ นี่คือตัวอย่างบางส่วน:

1. **Pivot Point Bounce:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อเมื่อราคาแตะระดับ Support และขายเมื่อราคาแตะระดับ Resistance โดยคาดหวังว่าราคาจะเด้งกลับจากระดับเหล่านี้ กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับตลาดที่มีความผันผวนต่ำ 2. **Pivot Point Breakout:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการเปิดออปชั่นตามทิศทางการทะลุผ่านของราคา หากราคาทะลุผ่านระดับ Resistance นักเทรดจะเปิดออปชั่น Call และหากราคาทะลุผ่านระดับ Support นักเทรดจะเปิดออปชั่น Put กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับตลาดที่มีความผันผวนสูง 3. **Pivot Point and Moving Average:** ใช้ Pivot Point ร่วมกับ Moving Average เพื่อยืนยันสัญญาณ ตัวอย่างเช่น หากราคาแตะระดับ Support และ Moving Average ก็อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน อาจเป็นสัญญาณซื้อที่แข็งแกร่ง 4. **Pivot Point and RSI:** ใช้ Pivot Point ร่วมกับ RSI (Relative Strength Index) เพื่อประเมินสภาวะ Overbought หรือ Oversold หากราคาแตะระดับ Resistance และ RSI แสดงค่า Overbought อาจเป็นสัญญาณขายที่น่าเชื่อถือ 5. **Multiple Pivot Point Confirmation:** ใช้ Pivot Point หลายช่วงเวลา (เช่น รายวัน, รายสัปดาห์, รายเดือน) เพื่อยืนยันสัญญาณ หากระดับ Pivot Point จากหลายช่วงเวลาตรงกัน อาจเป็นสัญญาณที่แข็งแกร่ง

ลิงก์ไปยังกลยุทธ์เพิ่มเติม:

1. 1. ข้อจำกัดของ Pivot Point

แม้ว่า Pivot Point จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการที่นักเทรดควรทราบ:

**ไม่ใช่เครื่องมือที่สมบูรณ์แบบ:** Pivot Point ไม่ได้แม่นยำ 100% และอาจเกิดสัญญาณหลอกได้
**ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่เลือก:** การเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการคำนวณ Pivot Point เป็นสิ่งสำคัญ ช่วงเวลาที่แตกต่างกันอาจให้ระดับที่แตกต่างกัน
**ต้องใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ:** การใช้ Pivot Point เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ควรใช้ร่วมกับ Indicators และวิธีการวิเคราะห์อื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณ
**ความผันผวนของตลาด:** ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง ระดับ Pivot Point อาจถูกทะลุผ่านได้ง่าย

1. 1. การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis) ร่วมกับ Pivot Point

การวิเคราะห์ ปริมาณการซื้อขาย สามารถช่วยยืนยันสัญญาณที่ได้จาก Pivot Point ได้ ตัวอย่างเช่น:

**Breakout ที่มี Volume สูง:** หากราคาทะลุผ่านระดับ Resistance พร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่สูง แสดงว่ามีแรงซื้อที่แข็งแกร่ง และมีแนวโน้มที่ราคาจะยังคงปรับตัวขึ้นต่อไป
**Breakdown ที่มี Volume สูง:** หากราคาหลุดผ่านระดับ Support พร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่สูง แสดงว่ามีแรงขายที่แข็งแกร่ง และมีแนวโน้มที่ราคาจะยังคงปรับตัวลงต่อไป
**การ Divergence ระหว่างราคาและ Volume:** หากราคาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ปริมาณการซื้อขายลดลง อาจเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มขาขึ้นกำลังอ่อนแรง

ลิงก์ไปยังการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเพิ่มเติม:

1. 1. บทสรุป

Pivot Point เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีประโยชน์สำหรับนักเทรดไบนารี่ออปชั่น ช่วยในการระบุแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ การเข้าใจวิธีการคำนวณและการใช้งาน Pivot Point ร่วมกับ Indicators และการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในตลาดไบนารี่ออปชั่น อย่างไรก็ตาม นักเทรดควรตระหนักถึงข้อจำกัดของ Pivot Point และใช้มันอย่างระมัดระวัง

การจัดการความเสี่ยง เป็นสิ่งสำคัญในการเทรดไบนารี่ออปชั่นเสมอ ไม่ควรลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้ และควรมีแผนการเทรดที่ชัดเจนก่อนที่จะเริ่มเทรดจริง

การฝึกฝน และการเรียนรู้ อย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาทักษะการเทรดของคุณ ทดลองใช้ Pivot Point ในบัญชี Demo ก่อนที่จะเทรดด้วยเงินจริง

การวิเคราะห์ตลาด และการทำความเข้าใจแนวโน้ม เป็นพื้นฐานสำคัญในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

การเลือกโบรกเกอร์ ที่มีความน่าเชื่อถือและมีแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน

การศึกษาเพิ่มเติม เกี่ยวกับเครื่องมือและกลยุทธ์การเทรดต่างๆ จะช่วยให้คุณเป็นนักเทรดที่ประสบความสำเร็จมากขึ้น

การติดตามข่าวสาร และเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจ ที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดก็เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอ

การควบคุมอารมณ์ และการมีวินัย เป็นคุณสมบัติที่สำคัญสำหรับนักเทรดทุกคน

การบันทึกผลการเทรด และการวิเคราะห์จุดผิดพลาด จะช่วยให้คุณเรียนรู้จากประสบการณ์และปรับปรุงกลยุทธ์ของคุณ

การใช้เครื่องมือช่วยวิเคราะห์ เช่น โปรแกรม charting และระบบแจ้งเตือน จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรด

การวางแผนการเงิน และการตั้งเป้าหมาย ที่ชัดเจน จะช่วยให้คุณมีแรงจูงใจและรักษาความสม่ำเสมอในการเทรด

การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และการเข้าร่วมกลุ่มเทรด จะช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำและแบ่งปันประสบการณ์กับนักเทรดคนอื่นๆ

การปรับตัว และการเรียนรู้จากความผิดพลาด เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาทักษะการเทรดของคุณในระยะยาว

การรักษาความรู้ และการติดตามเทคโนโลยีใหม่ๆ จะช่วยให้คุณก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของตลาด

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Pivot Point

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

เข้าร่วมชุมชนของเรา

Navigation menu