Butterfly spread
- Butterfly Spread
Butterfly Spread เป็นกลยุทธ์การซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น ที่มีความซับซ้อนเล็กน้อย แต่มีศักยภาพในการทำกำไรที่จำกัดความเสี่ยงได้ดี กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่คาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบๆ หรือจะมีการกลับตัวของราคาหลังจากที่ราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งแล้ว บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดของ Butterfly Spread ตั้งแต่แนวคิดพื้นฐาน การสร้างกลยุทธ์ การบริหารความเสี่ยง ไปจนถึงข้อดีข้อเสีย และสถานการณ์ที่เหมาะสมในการใช้งาน
แนวคิดพื้นฐานของ Butterfly Spread
Butterfly Spread เป็นกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อและขาย ออปชั่น หลายตัวที่มีราคาใช้สิทธิ (Strike Price) ที่แตกต่างกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างรูปแบบกำไรที่คล้ายกับปีกผีเสื้อ (Butterfly) ซึ่งมีจุดสูงสุดของกำไรอยู่ที่ราคาใช้สิทธิกลาง และกำไรจะลดลงเมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเคลื่อนไหวออกไปจากราคาใช้สิทธิกลาง
โดยทั่วไปแล้ว Butterfly Spread จะประกอบด้วย:
- การซื้อออปชั่นที่มีราคาใช้สิทธิต่ำ (Lower Strike Price)
- การขายออปชั่นสองตัวที่มีราคาใช้สิทธิกลาง (Middle Strike Price)
- การซื้อออปชั่นที่มีราคาใช้สิทธิสูง (Higher Strike Price)
ราคาใช้สิทธิทั้งสามจะต้องมีระยะห่างเท่ากัน ตัวอย่างเช่น หากราคาใช้สิทธิกลางคือ 100 บาท ราคาใช้สิทธิต่ำอาจเป็น 95 บาท และราคาใช้สิทธิสูงอาจเป็น 105 บาท กลยุทธ์นี้สามารถสร้างได้ทั้งแบบ Call Butterfly Spread และ Put Butterfly Spread ขึ้นอยู่กับทิศทางที่เทรดเดอร์คาดการณ์
ประเภทของ Butterfly Spread
- Call Butterfly Spread: ใช้เมื่อคาดการณ์ว่าราคาจะเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบๆ และไม่น่าจะทะลุขึ้นไปสูงกว่าราคาใช้สิทธิสูงมากนัก กลยุทธ์นี้จะทำกำไรสูงสุดเมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงอยู่ที่ราคาใช้สิทธิกลาง
- Put Butterfly Spread: ใช้เมื่อคาดการณ์ว่าราคาจะเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบๆ และไม่น่าจะลดลงต่ำกว่าราคาใช้สิทธิต่ำมากนัก กลยุทธ์นี้จะทำกำไรสูงสุดเมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงอยู่ที่ราคาใช้สิทธิกลาง
การสร้าง Butterfly Spread ในไบนารี่ออปชั่น
การสร้าง Butterfly Spread ในไบนารี่ออปชั่นอาจแตกต่างจากการสร้างในตลาดออปชั่นแบบดั้งเดิมเล็กน้อย เนื่องจากไบนารี่ออปชั่นไม่ได้มีการซื้อขายออปชั่นโดยตรง แต่เป็นการคาดการณ์ทิศทางราคา ณ วันหมดอายุ (Expiry Date)
ขั้นตอนในการสร้าง Butterfly Spread ในไบนารี่ออปชั่น:
1. **เลือกสินทรัพย์อ้างอิง:** เลือกสินทรัพย์ที่คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบราคาที่จำกัด 2. **เลือกระยะเวลาหมดอายุ:** เลือกระยะเวลาหมดอายุที่เหมาะสมกับกรอบเวลาที่คาดการณ์ 3. **เลือกราราใช้สิทธิ:** เลือกราคาใช้สิทธิสามราคาที่มีระยะห่างเท่ากัน โดยราคาใช้สิทธิกลางคือราคาที่คาดว่าสินทรัพย์จะเคลื่อนไหวไปถึง 4. **ซื้อและขายออปชั่น:**
* ซื้อไบนารี่ออปชั่น Call/Put ที่ราคาใช้สิทธิต่ำ * ขายไบนารี่ออปชั่น Call/Put สองตัวที่ราคาใช้สิทธิกลาง * ซื้อไบนารี่ออปชั่น Call/Put ที่ราคาใช้สิทธิสูง
5. **คำนวณต้นทุนและผลตอบแทน:** คำนวณต้นทุนรวมของกลยุทธ์และผลตอบแทนสูงสุดที่เป็นไปได้
ตัวอย่างการสร้าง Call Butterfly Spread
สมมติว่าคุณคาดการณ์ว่าราคาของหุ้น XYZ จะเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 95-105 บาท ในอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้า คุณสามารถสร้าง Call Butterfly Spread ได้ดังนี้:
- ซื้อ Call Option ที่ราคาใช้สิทธิ 95 บาท ด้วยต้นทุน 20 บาท
- ขาย Call Option สองตัวที่ราคาใช้สิทธิ 100 บาท ด้วยราคา 10 บาทต่อตัว (รวม 20 บาท)
- ซื้อ Call Option ที่ราคาใช้สิทธิ 105 บาท ด้วยต้นทุน 20 บาท
ต้นทุนรวมของกลยุทธ์นี้คือ 20 + 20 - 20 = 20 บาท
ผลตอบแทนสูงสุดที่เป็นไปได้จะเกิดขึ้นเมื่อราคาของหุ้น XYZ อยู่ที่ 100 บาท ณ วันหมดอายุ ในกรณีนี้ คุณจะได้รับผลตอบแทนจากการซื้อ Call Option ที่ราคาใช้สิทธิ 95 บาท และการขาย Call Option ที่ราคาใช้สิทธิ 100 บาท
การบริหารความเสี่ยงใน Butterfly Spread
แม้ว่า Butterfly Spread จะเป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงจำกัด แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่ต้องบริหารจัดการ:
- ความเสี่ยงจากราคาที่เคลื่อนไหวผิดทาง: หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเคลื่อนไหวออกไปจากช่วงที่คาดการณ์ กลยุทธ์นี้อาจขาดทุนได้
- ความเสี่ยงจากค่าคอมมิชชั่น: ค่าคอมมิชชั่นในการซื้อขายออปชั่นหลายตัวอาจส่งผลกระทบต่อผลกำไร
- ความเสี่ยงจากสภาพคล่อง: หากสภาพคล่องของออปชั่นต่ำ อาจทำให้ไม่สามารถซื้อขายได้ในราคาที่ต้องการ
เทคนิคการบริหารความเสี่ยง:
- กำหนดจุดตัดขาดทุน (Stop-Loss): กำหนดจุดตัดขาดทุนเพื่อจำกัดความเสียหายหากราคาเคลื่อนไหวผิดทาง
- ปรับขนาด Position: ปรับขนาด Position ให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
- ติดตามข่าวสารและข้อมูล: ติดตามข่าวสารและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์อ้างอิงเพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์
ข้อดีและข้อเสียของ Butterfly Spread
| ข้อดี | ข้อเสีย |
|---|---|
| ความเสี่ยงจำกัด | กำไรสูงสุดจำกัด |
| เหมาะสำหรับตลาดที่ Sideways | ต้องคาดการณ์ราคาได้อย่างแม่นยำ |
| สามารถสร้างผลกำไรได้แม้ราคาไม่เคลื่อนไหวมาก | ต้นทุนอาจสูงกว่ากลยุทธ์อื่น |
| มีความยืดหยุ่นในการปรับกลยุทธ์ | ต้องบริหารจัดการหลายออปชั่น |
สถานการณ์ที่เหมาะสมในการใช้งาน Butterfly Spread
- ตลาดที่ Sideways: เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบๆ
- การคาดการณ์การกลับตัวของราคา: เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่คาดว่าราคาจะกลับตัวหลังจากที่เคลื่อนไหวไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งแล้ว
- การลดความเสี่ยงในช่วงตลาดผันผวน: สามารถใช้เพื่อลดความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง
กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง
- Straddle: กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อ Call Option และ Put Option ที่มีราคาใช้สิทธิและวันหมดอายุเดียวกัน
- Strangle: คล้ายกับ Straddle แต่ใช้ราคาใช้สิทธิที่แตกต่างกัน
- Iron Condor: กลยุทธ์ที่ผสมผสาน Call Spread และ Put Spread
- Covered Call: กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการขาย Call Option ในขณะที่มีหุ้นอยู่ในมือ
- Protective Put: กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อ Put Option เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลดลงของราคาหุ้น
การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย
การใช้ การวิเคราะห์ทางเทคนิค และ การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย สามารถช่วยในการระบุสถานการณ์ที่เหมาะสมในการใช้งาน Butterfly Spread ได้ ตัวอย่างเช่น:
- การวิเคราะห์แนวโน้ม (Trend Analysis): หากแนวโน้มของราคามีความชัดเจนน้อย หรือมีการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม อาจเป็นสัญญาณที่ดีในการใช้ Butterfly Spread
- การวิเคราะห์รูปแบบราคา (Chart Patterns): การระบุรูปแบบราคาที่บ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวในกรอบราคาที่จำกัด เช่น Double Top หรือ Double Bottom
- การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis): การสังเกตปริมาณการซื้อขายที่ลดลง อาจบ่งบอกถึงการสิ้นสุดของแนวโน้มและเป็นสัญญาณที่ดีในการใช้ Butterfly Spread
- การใช้ Moving Average และ Bollinger Bands: เพื่อระบุช่วงราคาที่คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหว
ตัวชี้วัดทางเทคนิคที่เกี่ยวข้อง
- RSI (Relative Strength Index): ใช้เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม
- MACD (Moving Average Convergence Divergence): ใช้เพื่อระบุสัญญาณการซื้อขาย
- Stochastic Oscillator: ใช้เพื่อวัดโมเมนตัมของราคา
- Fibonacci Retracement: ใช้เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้าน
สรุป
Butterfly Spread เป็นกลยุทธ์ที่มีประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการสร้างผลกำไรในตลาดที่ Sideways หรือคาดการณ์การกลับตัวของราคา อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้ต้องการความเข้าใจในรายละเอียดและการบริหารความเสี่ยงที่ดี เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การศึกษาและฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณสามารถนำกลยุทธ์นี้ไปปรับใช้ในการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น ได้อย่างประสบความสำเร็จ
การจัดการเงินทุน | การวิเคราะห์ความเสี่ยง | การซื้อขายแบบมีวินัย | จิตวิทยาการเทรด | การเลือกโบรกเกอร์
Call Options | Put Options | Option Pricing | Volatility | Time Decay
Hedging | Arbitrage | Swing Trading | Day Trading | Scalping
การทำนายแนวโน้ม | การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน | การวิเคราะห์เชิงปริมาณ | การบริหารพอร์ต | การวางแผนการซื้อขาย
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
