การวิเคราะห์ Barrier Options Trading

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. การวิเคราะห์ Barrier Options Trading สำหรับผู้เริ่มต้น

Barrier Options เป็นออปชั่นประเภทหนึ่งที่มีความซับซ้อนกว่า ออปชั่นแบบมาตรฐาน แต่ก็มีศักยภาพในการทำกำไรที่สูงกว่าเช่นกัน บทความนี้จะนำเสนอการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับ Barrier Options Trading สำหรับผู้เริ่มต้น โดยครอบคลุมตั้งแต่ความหมาย ประเภท กลไกการทำงาน กลยุทธ์การเทรด การวิเคราะห์ความเสี่ยง และการประยุกต์ใช้ในการเทรด ไบนารี่ออปชั่น

      1. Barrier Options คืออะไร?

Barrier Options คือออปชั่นที่มีเงื่อนไขพิเศษคือ ราคาของสินทรัพย์อ้างอิง (underlying asset) จะต้องไม่แตะระดับราคาที่กำหนดไว้ (barrier level) หากราคาแตะระดับ barrier option จะถูกยกเลิก (knock-out) หรือเปิดใช้งาน (knock-in) ขึ้นอยู่กับประเภทของ Barrier Option

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง Barrier Options กับ ออปชั่นแบบยุโรป หรือ ออปชั่นแบบอเมริกัน คือการมี barrier level ซึ่งเพิ่มความซับซ้อนแต่ก็เปิดโอกาสให้ได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับค่าพรีเมี่ยมที่จ่ายไป

      1. ประเภทของ Barrier Options

Barrier Options แบ่งออกเป็นสองประเภทหลักตามลักษณะการทำงานของ barrier level:

  • **Knock-Out Barrier Option:** Option จะหมดอายุทันทีและไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงแตะระดับ barrier ก่อนวันหมดอายุ เนื่องจากความเสี่ยงที่สูงกว่า ค่าพรีเมี่ยมของ Knock-Out Barrier Option จะต่ำกว่าออปชั่นแบบมาตรฐาน
  • **Knock-In Barrier Option:** Option จะไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้จนกว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะแตะระดับ barrier ก่อนวันหมดอายุ เมื่อราคาแตะ barrier option จะเปิดใช้งานและสามารถใช้สิทธิ์ได้ตามเงื่อนไขปกติ ค่าพรีเมี่ยมของ Knock-In Barrier Option จะสูงกว่า Knock-Out Barrier Option แต่ต่ำกว่าออปชั่นแบบมาตรฐาน

นอกจากนี้ Barrier Options ยังสามารถแบ่งตามประเภทของ barrier ได้อีกดังนี้:

  • **Up-and-Out Barrier Option:** Barrier level อยู่เหนือราคาปัจจุบันของสินทรัพย์อ้างอิง
  • **Down-and-Out Barrier Option:** Barrier level อยู่ต่ำกว่าราคาปัจจุบันของสินทรัพย์อ้างอิง
  • **Up-and-In Barrier Option:** Barrier level อยู่เหนือราคาปัจจุบันของสินทรัพย์อ้างอิง
  • **Down-and-In Barrier Option:** Barrier level อยู่ต่ำกว่าราคาปัจจุบันของสินทรัพย์อ้างอิง
      1. กลไกการทำงานของ Barrier Options

การทำความเข้าใจกลไกการทำงานของ Barrier Options เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งก่อนที่จะเริ่มทำการเทรด พิจารณาตัวอย่างดังนี้:

สมมติว่าคุณซื้อ Down-and-Out Barrier Call Option สำหรับหุ้น XYZ ที่ราคาปัจจุบันคือ 50 บาท โดยมี strike price คือ 52 บาท และ barrier level คือ 48 บาท หากราคาหุ้น XYZ ลดลงต่ำกว่า 48 บาท ก่อนวันหมดอายุ option จะถูกยกเลิกและคุณจะเสียค่าพรีเมี่ยมที่จ่ายไป แต่หากราคาหุ้น XYZ สูงกว่า 48 บาท เมื่อถึงวันหมดอายุ และสูงกว่า strike price ที่ 52 บาท คุณจะได้รับผลตอบแทนตามเงื่อนไขของ call option

ในทางกลับกัน หากคุณซื้อ Up-and-In Barrier Put Option สำหรับหุ้น ABC ที่ราคาปัจจุบันคือ 100 บาท โดยมี strike price คือ 98 บาท และ barrier level คือ 102 บาท option จะไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้จนกว่าราคาหุ้น ABC จะสูงกว่า 102 บาท หากราคาหุ้น ABC ไม่เคยสูงกว่า 102 บาท ก่อนวันหมดอายุ option จะหมดอายุโดยไม่มีมูลค่า

      1. กลยุทธ์การเทรด Barrier Options

การเทรด Barrier Options จำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสภาวะตลาดและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ต่อไปนี้เป็นกลยุทธ์บางส่วนที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้:

  • **Range Trading:** ใช้ Barrier Options เพื่อเทรดในช่วงราคาที่คาดว่าจะมีการเคลื่อนไหวอยู่ภายใน โดยเลือกใช้ Down-and-Out Barrier Call Option หรือ Up-and-Out Barrier Put Option เพื่อจำกัดความเสี่ยงหากราคา breakout จากช่วงราคาที่คาดการณ์ไว้
  • **Trend Following:** ใช้ Barrier Options เพื่อเทรดตามแนวโน้มของราคา โดยเลือกใช้ Up-and-In Barrier Call Option หรือ Down-and-In Barrier Put Option เพื่อเข้าร่วมตลาดเมื่อราคา breakout จากระดับ barrier
  • **Hedging:** ใช้ Barrier Options เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา โดยเลือกใช้ Knock-In Barrier Option เพื่อจำกัดความเสี่ยงหากราคาเคลื่อนไหวในทิศทางที่ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้
  • **Straddle with Barriers:** ใช้ Barrier Call และ Barrier Put Options ร่วมกันเพื่อทำกำไรจากความผันผวนของราคา โดยไม่คำนึงถึงทิศทางของราคา
  • **Iron Condor with Barriers:** ใช้ Barrier Call และ Barrier Put Options ร่วมกันเพื่อทำกำไรจากความผันผวนของราคาที่อยู่ในช่วงที่จำกัด

การใช้ การวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น Moving Averages, RSI, และ MACD สามารถช่วยในการระบุแนวโน้มและระดับ support/resistance ที่สำคัญ ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการกำหนด barrier level และ strike price ที่เหมาะสมได้ นอกจากนี้ การใช้ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ก็สามารถช่วยในการประเมินมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์อ้างอิง และช่วยในการตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อหรือขาย Barrier Options

      1. การวิเคราะห์ความเสี่ยงของ Barrier Options

Barrier Options มีความเสี่ยงที่สูงกว่าออปชั่นแบบมาตรฐาน เนื่องจากมีเงื่อนไขพิเศษที่เกี่ยวข้องกับ barrier level การวิเคราะห์ความเสี่ยงอย่างรอบคอบเป็นสิ่งสำคัญก่อนที่จะทำการเทรด

  • **Barrier Risk:** ความเสี่ยงที่ราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะแตะระดับ barrier ก่อนวันหมดอายุ ซึ่งจะทำให้ option ถูกยกเลิกและสูญเสียค่าพรีเมี่ยมที่จ่ายไป
  • **Time Decay:** เช่นเดียวกับออปชั่นประเภทอื่นๆ Barrier Options ก็จะมีการลดลงของมูลค่าตามเวลาที่เหลือจนถึงวันหมดอายุ (time decay)
  • **Volatility Risk:** ความผันผวนของราคาของสินทรัพย์อ้างอิงมีผลต่อมูลค่าของ Barrier Options หากความผันผวนเพิ่มขึ้น มูลค่าของ Barrier Options ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่หากความผันผวนลดลง มูลค่าของ Barrier Options ก็จะลดลงตามไปด้วย
  • **Liquidity Risk:** Barrier Options อาจมีสภาพคล่องต่ำกว่าออปชั่นแบบมาตรฐาน ซึ่งอาจทำให้ยากต่อการซื้อหรือขายในราคาที่ต้องการ

เพื่อลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ Barrier Options ควรใช้ การบริหารความเสี่ยง ที่เหมาะสม เช่น การกำหนดขนาด position ที่เหมาะสม การใช้ stop-loss order และการกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ที่หลากหลาย

      1. การประยุกต์ใช้ Barrier Options ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

แม้ว่า Barrier Options จะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของไบนารี่ออปชั่นโดยตรง แต่แนวคิดของ barrier level สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์และพัฒนากลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นได้ ตัวอย่างเช่น การใช้ระดับ support/resistance เป็น barrier level ในการตัดสินใจว่าจะเข้าเทรดหรือไม่ หรือการใช้ Bollinger Bands เพื่อกำหนด upper และ lower barrier level

นอกจากนี้ การเข้าใจกลไกการทำงานของ Barrier Options สามารถช่วยให้เข้าใจความเสี่ยงและผลตอบแทนที่เกี่ยวข้องกับไบนารี่ออปชั่นได้ดีขึ้น และช่วยในการตัดสินใจว่าจะเลือกเทรดไบนารี่ออปชั่นประเภทใด

      1. ตัวอย่างการวิเคราะห์ Barrier Options

สมมติว่าคุณคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวสูงขึ้นในระยะยาว แต่มีความกังวลว่าอาจจะมีการปรับตัวลดลงในระยะสั้น คุณสามารถใช้ Up-and-In Barrier Call Option เพื่อเข้าร่วมตลาดเมื่อราคาน้ำมันดิบ breakout จากระดับ barrier

| ตัวแปร | ค่า | |---|---| | ราคาปัจจุบันของน้ำมันดิบ | 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล | | Strike price | 82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล | | Barrier level | 85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล | | ค่าพรีเมี่ยม | 2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล | | วันหมดอายุ | 30 วัน |

หากราคาน้ำมันดิบสูงกว่า 85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก่อนวันหมดอายุ option จะเปิดใช้งานและคุณสามารถใช้สิทธิ์ซื้อน้ำมันดิบที่ราคา 82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หากราคาน้ำมันดิบสูงกว่า 82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อถึงวันหมดอายุ คุณจะได้รับผลตอบแทน

ในทางกลับกัน หากราคาน้ำมันดิบไม่เคยสูงกว่า 85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก่อนวันหมดอายุ option จะหมดอายุโดยไม่มีมูลค่า และคุณจะเสียค่าพรีเมี่ยม 2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

      1. สรุป

Barrier Options เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ซับซ้อนแต่มีศักยภาพในการทำกำไรที่สูง การทำความเข้าใจประเภท กลไกการทำงาน กลยุทธ์การเทรด และการวิเคราะห์ความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญก่อนที่จะเริ่มทำการเทรด การประยุกต์ใช้แนวคิดของ barrier level ในการวิเคราะห์และพัฒนากลยุทธ์การเทรด Forex หรือไบนารี่ออปชั่น สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดได้

      1. แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер