การซื้อขายแบบแกมมา
- การซื้อขายแบบแกมมา
การซื้อขายแบบแกมมา (Gamma Trading) เป็นกลยุทธ์การซื้อขายที่ซับซ้อนในโลกของ ไบนารี่ออปชั่น และตลาดอนุพันธ์ (Derivatives) โดยทั่วไปแล้ว นักลงทุนจะใช้กลยุทธ์นี้เพื่อหากำไรจากการเปลี่ยนแปลงของ Delta ของออปชั่น เมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงมีการเคลื่อนไหว บทความนี้จะอธิบายถึงแนวคิดพื้นฐานของแกมมา, ความสำคัญของแกมมา, วิธีการใช้งานกลยุทธ์แกมมาในไบนารี่ออปชั่น, ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง และเคล็ดลับในการจัดการความเสี่ยง
แกมมาคืออะไร?
แกมมาเป็นค่าที่วัดอัตราการเปลี่ยนแปลงของ Delta ของออปชั่น โดยที่ Delta คือความไวของราคาออปชั่นต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาของสินทรัพย์อ้างอิง แกมมาจึงเป็นอนุพันธ์อันดับสองของราคาออปชั่นเทียบกับราคาของสินทรัพย์อ้างอิง กล่าวอีกนัยหนึ่ง แกมมาบอกเราว่า Delta จะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเปลี่ยนแปลงไป
- แกมมาเป็นค่าบวกสำหรับออปชั่นประเภท Call และ Put ที่อยู่ในช่วงเงิน (In-the-money) และใกล้ช่วงเงิน (At-the-money)
- แกมมาเป็นค่าลบสำหรับออปชั่นประเภท Call และ Put ที่อยู่นอกช่วงเงิน (Out-of-the-money)
- แกมมาสูงสุดเมื่อออปชั่นอยู่ใกล้ช่วงเงินมากที่สุด
ความสำคัญของแกมมา
แกมมามีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักเทรดไบนารี่ออปชั่น เนื่องจาก:
- **วัดความเร็วในการเปลี่ยนแปลงของ Delta:** แกมมาช่วยให้นักเทรดเข้าใจว่า Delta จะเปลี่ยนแปลงไปเร็วแค่ไหน ทำให้สามารถปรับกลยุทธ์การซื้อขายได้อย่างทันท่วงที
- **วัดความเสี่ยง Gamma Risk:** แกมมาบ่งบอกถึงความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของ Delta อย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจนำไปสู่การขาดทุนที่ไม่คาดคิดได้
- **ใช้ในการสร้างกลยุทธ์ที่ซับซ้อน:** แกมมาเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างกลยุทธ์การซื้อขายที่ซับซ้อน เช่น Straddle, Strangle, และ Butterfly Spread
การซื้อขายแบบแกมมาในไบนารี่ออปชั่น
การซื้อขายแบบแกมมาในไบนารี่ออปชั่นนั้นแตกต่างจากการซื้อขายออปชั่นแบบดั้งเดิม เนื่องจากไบนารี่ออปชั่นมีรูปแบบการจ่ายเงินที่ตายตัว (Fixed Payout) อย่างไรก็ตาม นักเทรดสามารถใช้แนวคิดของแกมมาเพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การซื้อขายและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้
- **การระบุช่วงเงินที่เหมาะสม:** นักเทรดสามารถใช้แกมมาเพื่อระบุช่วงราคาที่ออปชั่นมีแกมมาสูงสุด ซึ่งหมายความว่า Delta จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การซื้อออปชั่นในช่วงราคาเหล่านี้อาจเป็นประโยชน์หากนักเทรดคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
- **การปรับขนาด Position:** นักเทรดสามารถใช้แกมมาเพื่อปรับขนาด Position ของตนเอง หากแกมมาสูง แสดงว่า Delta มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นนักเทรดอาจต้องการลดขนาด Position ของตนเองเพื่อลดความเสี่ยง
- **การใช้กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับแกมมา:** นักเทรดสามารถใช้กลยุทธ์ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของแกมมา เช่น Gamma Scalping ซึ่งเกี่ยวข้องกับการซื้อและขายออปชั่นอย่างต่อเนื่องเพื่อหากำไรจากการเปลี่ยนแปลงของ Delta
กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับแกมมา
มีกลยุทธ์หลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายแบบแกมมา:
- **Gamma Scalping:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อและขายออปชั่นอย่างต่อเนื่องเพื่อหากำไรจากการเปลี่ยนแปลงของ Delta เมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเคลื่อนไหว
- **Delta Neutral Hedging:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการสร้าง Position ที่ Delta เป็นศูนย์ เพื่อลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาของสินทรัพย์อ้างอิง
- **Straddle:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อทั้งออปชั่น Call และ Put ที่มีราคาใช้สิทธิและวันหมดอายุเดียวกัน กลยุทธ์นี้เป็นประโยชน์หากนักเทรดคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แต่ไม่แน่ใจว่าจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางใด
- **Strangle:** คล้ายกับ Straddle แต่ใช้ราคาใช้สิทธิที่แตกต่างกัน กลยุทธ์นี้มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า Straddle แต่ต้องการการเคลื่อนไหวของราคาที่มากกว่าเพื่อให้ได้กำไร
- **Butterfly Spread:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการรวมออปชั่น Call หรือ Put หลายตัวที่มีราคาใช้สิทธิที่แตกต่างกัน กลยุทธ์นี้เป็นประโยชน์หากนักเทรดคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะอยู่ในช่วงแคบๆ
ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายแบบแกมมา
การซื้อขายแบบแกมมามีความเสี่ยงหลายอย่างที่นักเทรดต้องระวัง:
- **Gamma Risk:** ความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของ Delta อย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจนำไปสู่การขาดทุนที่ไม่คาดคิด
- **Theta Decay:** การสูญเสียมูลค่าของออปชั่นเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งอาจลดผลกำไรจากกลยุทธ์แกมมา
- **Vega Risk:** ความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของความผันผวน (Volatility) ของสินทรัพย์อ้างอิง
- **Liquidity Risk:** ความเสี่ยงที่เกิดจากการขาดสภาพคล่องในตลาดออปชั่น ซึ่งอาจทำให้การซื้อหรือขายออปชั่นเป็นไปได้ยาก
| ความเสี่ยง | ผลกระทบ | การจัดการความเสี่ยง |
| Gamma Risk | การเปลี่ยนแปลง Delta อย่างรวดเร็วทำให้เกิดการขาดทุน | ปรับขนาด Position, ใช้ Stop-Loss |
| Theta Decay | มูลค่าออปชั่นลดลงตามเวลา | เลือกออปชั่นที่มีวันหมดอายุที่เหมาะสม, ใช้กลยุทธ์ที่ชดเชย Theta |
| Vega Risk | ความผันผวนเปลี่ยนแปลงส่งผลต่อราคาออปชั่น | ใช้กลยุทธ์ที่ชดเชย Vega, ติดตามความผันผวนอย่างใกล้ชิด |
| Liquidity Risk | ไม่สามารถซื้อขายออปชั่นได้ในราคาที่ต้องการ | เลือกออปชั่นที่มีสภาพคล่องสูง, หลีกเลี่ยงการซื้อขายในช่วงเวลาที่ตลาดผันผวน |
เคล็ดลับในการจัดการความเสี่ยง
- **ทำความเข้าใจแกมมาอย่างถ่องแท้:** ก่อนที่จะเริ่มซื้อขายแบบแกมมา นักเทรดควรทำความเข้าใจแนวคิดของแกมมาอย่างถ่องแท้ รวมถึงปัจจัยที่มีผลต่อแกมมา
- **ใช้ Stop-Loss:** การใช้ Stop-Loss จะช่วยจำกัดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของ Delta อย่างรวดเร็ว
- **ปรับขนาด Position:** การปรับขนาด Position ให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้จะช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของกลยุทธ์
- **ติดตามความผันผวน:** การติดตามความผันผวนของสินทรัพย์อ้างอิงจะช่วยให้นักเทรดปรับกลยุทธ์ของตนเองให้เหมาะสมกับสภาวะตลาด
- **เลือกออปชั่นที่มีสภาพคล่องสูง:** การเลือกออปชั่นที่มีสภาพคล่องสูงจะช่วยให้การซื้อและขายออปชั่นเป็นไปได้ง่ายขึ้นและลดความเสี่ยงจาก Liquidity Risk
- **ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและปริมาณการซื้อขาย:** การใช้เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยนักเทรดในการระบุแนวโน้มและโอกาสในการซื้อขาย
การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการซื้อขายแบบแกมมา
การวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น Moving Averages, Relative Strength Index (RSI), และ Fibonacci Retracements สามารถช่วยนักเทรดในการระบุแนวโน้มของราคาและจุดเข้าออกที่เหมาะสมสำหรับการซื้อขายแบบแกมมา การรวมการวิเคราะห์ทางเทคนิคเข้ากับการวิเคราะห์แกมมาจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายและการซื้อขายแบบแกมมา
การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย เช่น Volume Weighted Average Price (VWAP) และ On Balance Volume (OBV) สามารถช่วยนักเทรดในการประเมินความแข็งแกร่งของแนวโน้มและระบุสัญญาณการกลับตัวของราคา ข้อมูลปริมาณการซื้อขายสามารถช่วยให้นักเทรดตัดสินใจได้ว่าควรซื้อหรือขายออปชั่นเมื่อใด
สรุป
การซื้อขายแบบแกมมาเป็นกลยุทธ์ที่ซับซ้อน แต่สามารถให้ผลตอบแทนที่สูงแก่นักเทรดที่มีความรู้และความเข้าใจในแนวคิดของแกมมาอย่างถ่องแท้ การทำความเข้าใจความสำคัญของแกมมา, ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง, และวิธีการจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการประสบความสำเร็จในการซื้อขายแบบแกมมา การรวมการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเข้ากับกลยุทธ์แกมมาจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
Binary Options Trading Options Trading Delta Hedging Volatility Trading Risk Management Technical Analysis Volume Analysis Moving Averages Relative Strength Index (RSI) Fibonacci Retracements Volume Weighted Average Price (VWAP) On Balance Volume (OBV) Straddle Strategy Strangle Strategy Butterfly Spread Gamma Scalping Delta Neutral Hedging Implied Volatility Time Decay Options Greeks
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
