Pivot Point Breakout Strategy

1. Pivot Point Breakout Strategy

บทนำ

กลยุทธ์ Pivot Point Breakout เป็นกลยุทธ์การซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากมีความเรียบง่ายและมีประสิทธิภาพในการระบุโอกาสในการซื้อขาย กลยุทธ์นี้อาศัยการวิเคราะห์ Pivot Point ซึ่งเป็นระดับราคาสำคัญที่บ่งบอกถึงแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับทั้งนักลงทุนมือใหม่และนักลงทุนที่มีประสบการณ์ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการกลยุทธ์ที่ชัดเจนและมีกฎเกณฑ์ที่แน่นอนในการตัดสินใจซื้อขาย บทความนี้จะอธิบายกลไกการทำงานของกลยุทธ์นี้อย่างละเอียด รวมถึงวิธีการใช้งาน การจัดการความเสี่ยง และข้อควรระวังต่างๆ

Pivot Point คืออะไร?

Pivot Point คือจุดสำคัญบนกราฟราคาที่ใช้ในการคาดการณ์แนวโน้มราคาในอนาคต โดยคำนวณจากราคา High, Low และ Close ของช่วงเวลาที่กำหนด (เช่น วัน, สัปดาห์, เดือน) โดยทั่วไปแล้ว จะมีการคำนวณ Pivot Point หลัก (Pivot Point) และระดับแนวรับแนวต้านรอง (Support และ Resistance Levels) ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนสามารถระบุระดับราคาที่น่าจะเกิดการกลับตัวหรือการทะลุแนวโน้มได้

วิธีการคำนวณ Pivot Point มาตรฐาน:

Pivot Point (PP) = (High + Low + Close) / 3
Resistance 1 (R1) = (2 x PP) - Low
Resistance 2 (R2) = PP + (High - Low)
Support 1 (S1) = (2 x PP) - High
Support 2 (S2) = PP - (High - Low)

การใช้ Pivot Point ช่วยให้นักลงทุนสามารถระบุระดับราคาที่สำคัญและวางแผนการซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น หากราคาเคลื่อนที่เข้าใกล้แนวรับ อาจเป็นสัญญาณของการซื้อ หรือหากราคาเคลื่อนที่เข้าใกล้แนวต้าน อาจเป็นสัญญาณของการขาย

หลักการทำงานของ Pivot Point Breakout Strategy

กลยุทธ์ Pivot Point Breakout อาศัยหลักการที่ว่า เมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ จะมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนที่ไปในทิศทางของการทะลุนั้นต่อไป กลยุทธ์นี้จึงมุ่งเน้นไปที่การจับจังหวะของการทะลุแนวรับหรือแนวต้าน และเข้าซื้อขายตามทิศทางของการทะลุนั้น

ขั้นตอนการทำงานของกลยุทธ์:

1. **คำนวณ Pivot Point:** คำนวณ Pivot Point และระดับแนวรับแนวต้านรองสำหรับกรอบเวลาที่ต้องการ (เช่น 15 นาที, 30 นาที, 1 ชั่วโมง) 2. **รอการทะลุ:** รอให้ราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ การทะลุควรมีความชัดเจนและมีปริมาณการซื้อขาย (Volume) ที่เพิ่มขึ้นเพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของการทะลุ 3. **เข้าซื้อขาย:** เมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้าน ให้เข้าซื้อขายตามทิศทางของการทะลุ:

   *   **หากทะลุแนวต้าน:** ให้เปิดสถานะซื้อ (Call Option)
   *   **หากทะลุแนวรับ:** ให้เปิดสถานะขาย (Put Option)

4. **ตั้ง Stop Loss และ Take Profit:** ตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit เพื่อจัดการความเสี่ยงและล็อคผลกำไร

การใช้งาน Pivot Point Breakout Strategy ในไบนารี่ออปชั่น

การนำกลยุทธ์ Pivot Point Breakout มาใช้ในการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น สามารถทำได้ง่ายตามขั้นตอนดังนี้:

1. **เลือกสินทรัพย์:** เลือกสินทรัพย์ที่คุณคุ้นเคยและมีความผันผวนเพียงพอ 2. **เลือกกรอบเวลา:** เลือกกรอบเวลาที่เหมาะสมกับสไตล์การซื้อขายของคุณ โดยทั่วไปแล้ว กรอบเวลาที่สั้น (เช่น 15 นาที, 30 นาที) เหมาะสำหรับการซื้อขายระยะสั้น และกรอบเวลาที่ยาว (เช่น 1 ชั่วโมง, 4 ชั่วโมง) เหมาะสำหรับการซื้อขายระยะยาว 3. **คำนวณ Pivot Point:** คำนวณ Pivot Point และระดับแนวรับแนวต้านรองสำหรับกรอบเวลาที่เลือก 4. **รอการทะลุ:** รอให้ราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ 5. **เข้าซื้อขาย:** เมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้าน ให้เปิดสถานะซื้อขาย (Call หรือ Put) โดยเลือกเวลาหมดอายุ (Expiry Time) ที่เหมาะสม (เช่น 5 นาที, 10 นาที, 15 นาที) 6. **จัดการความเสี่ยง:** ตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit เพื่อจัดการความเสี่ยงและล็อคผลกำไร

การยืนยันสัญญาณด้วยตัวชี้วัดอื่นๆ

เพื่อเพิ่มความแม่นยำของกลยุทธ์ Pivot Point Breakout คุณสามารถใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น:

**Moving Average:** ใช้ Moving Average เพื่อยืนยันแนวโน้มของราคา หากราคาอยู่เหนือ Moving Average แสดงว่าอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น และหากราคาอยู่ใต้ Moving Average แสดงว่าอยู่ในแนวโน้มขาลง (Moving Average คืออะไร?)
**Relative Strength Index (RSI):** ใช้ RSI เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม หาก RSI สูงกว่า 70 แสดงว่าสินทรัพย์อยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) และหาก RSI ต่ำกว่า 30 แสดงว่าสินทรัพย์อยู่ในภาวะขายมากเกินไป (Oversold) (RSI คืออะไร?)
**MACD:** ใช้ MACD เพื่อระบุสัญญาณการซื้อขาย หากเส้น MACD ตัดเส้น Signal Line ขึ้นด้านบน แสดงว่าเป็นสัญญาณซื้อ และหากเส้น MACD ตัดเส้น Signal Line ลงด้านล่าง แสดงว่าเป็นสัญญาณขาย (MACD คืออะไร?)
**Bollinger Bands:** ใช้ Bollinger Bands เพื่อวัดความผันผวนของราคา หากราคาแตะขอบบนของ Bollinger Bands แสดงว่าสินทรัพย์อาจจะมีการปรับฐาน และหากราคาแตะขอบล่างของ Bollinger Bands แสดงว่าสินทรัพย์อาจจะมีการดีดตัว (Bollinger Bands คืออะไร?)
**Volume:** การเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขาย (Volume) ควบคู่กับการทะลุแนวรับหรือแนวต้านจะช่วยยืนยันความแข็งแกร่งของการทะลุนั้น

การจัดการความเสี่ยงใน Pivot Point Breakout Strategy

การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น ไม่ว่าคุณจะใช้กลยุทธ์ใดก็ตาม สำหรับกลยุทธ์ Pivot Point Breakout คุณสามารถจัดการความเสี่ยงได้ดังนี้:

**กำหนดขนาดการลงทุน:** กำหนดขนาดการลงทุนสำหรับแต่ละ Trade ไม่ควรลงทุนเกิน 2-5% ของเงินทุนทั้งหมด
**ตั้ง Stop Loss:** ตั้งค่า Stop Loss เพื่อจำกัดความเสียหายหากราคาเคลื่อนที่สวนทางกับที่คุณคาดการณ์ไว้
**ตั้ง Take Profit:** ตั้งค่า Take Profit เพื่อล็อคผลกำไรเมื่อราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่คุณคาดการณ์ไว้
**หลีกเลี่ยงการซื้อขายในช่วงข่าวสำคัญ:** ช่วงข่าวสำคัญอาจทำให้ตลาดมีความผันผวนสูง และทำให้กลยุทธ์ Pivot Point Breakout ไม่ได้ผล
**ใช้บัญชีทดลอง (Demo Account):** ฝึกฝนการใช้กลยุทธ์ Pivot Point Breakout ในบัญชีทดลองก่อนที่จะเริ่มซื้อขายด้วยเงินจริง

ข้อควรระวังในการใช้ Pivot Point Breakout Strategy

**False Breakout:** การทะลุแนวรับหรือแนวต้านอาจเป็นสัญญาณหลอก (False Breakout) ซึ่งอาจทำให้คุณขาดทุนได้ ดังนั้นควรยืนยันสัญญาณด้วยตัวชี้วัดอื่นๆ และระมัดระวังในการเข้าซื้อขาย
**ช่วงตลาด Sideways:** ในช่วงตลาด Sideways ราคาอาจเคลื่อนที่อยู่ในกรอบแคบๆ และไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน ซึ่งอาจทำให้กลยุทธ์ Pivot Point Breakout ไม่ได้ผล
**ความผันผวนของตลาด:** ความผันผวนของตลาดอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของกลยุทธ์ Pivot Point Breakout ดังนั้นควรปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสภาวะตลาดในขณะนั้น
**การเลือกกรอบเวลา:** การเลือกกรอบเวลาที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้คุณพลาดโอกาสในการซื้อขาย หรือได้รับสัญญาณที่ผิดพลาด

ตัวอย่างการซื้อขายด้วย Pivot Point Breakout Strategy

สมมติว่าคุณกำลังซื้อขายคู่เงิน EUR/USD ในกรอบเวลา 15 นาที และคุณได้คำนวณ Pivot Point และระดับแนวรับแนวต้านรองดังนี้:

Pivot Point (PP) = 1.1000
Resistance 1 (R1) = 1.1020
Support 1 (S1) = 1.0980

หากราคา EUR/USD ทะลุระดับ R1 ที่ 1.1020 พร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น คุณสามารถเปิดสถานะซื้อ (Call Option) โดยเลือกเวลาหมดอายุ 5 นาที และตั้งค่า Take Profit ที่ 1.1040 และ Stop Loss ที่ 1.1010

กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง

การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพิ่มเติม

สรุป

กลยุทธ์ Pivot Point Breakout เป็นกลยุทธ์การซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น ที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ ซึ่งอาศัยการวิเคราะห์ Pivot Point และการจับจังหวะของการทะลุแนวรับหรือแนวต้าน เพื่อเข้าซื้อขายตามทิศทางของการทะลุนั้น อย่างไรก็ตาม การจัดการความเสี่ยงและการยืนยันสัญญาณด้วยตัวชี้วัดอื่นๆ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเพิ่มความแม่นยำและลดความเสี่ยงในการซื้อขาย (Category:Trading Strategies)

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น