Horizontal Spread

1. 1. Horizontal Spread

• • Horizontal Spread** หรือที่เรียกกันในภาษาไทยว่า “การกระจายแนวนอน” เป็นกลยุทธ์การซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น ที่ออกแบบมาเพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่คาดการณ์ทิศทางราคาได้ไม่ชัดเจน หรือคาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการเปิดตำแหน่งซื้อ (Call) และขาย (Put) หรือในทางกลับกัน ในช่วงเวลาเดียวกัน แต่มีราคาใช้สิทธิ (Strike Price) ที่แตกต่างกันเล็กน้อย บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดของ Horizontal Spread รวมถึงวิธีการทำงาน ความเสี่ยง ผลตอบแทน และวิธีการนำไปประยุกต์ใช้ในการซื้อขายจริง

1. 1. 1. หลักการทำงานของ Horizontal Spread

Horizontal Spread อาศัยหลักการที่ว่า ราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะไม่เคลื่อนไหวอย่างรุนแรงในระยะเวลาอันสั้น หากนักเทรดคาดการณ์ว่าราคาจะอยู่ในช่วงแคบๆ การเปิด Horizontal Spread จะช่วยให้สามารถทำกำไรได้จากสถานการณ์ดังกล่าว โดยไม่จำเป็นต้องคาดการณ์ทิศทางราคาที่แม่นยำ

กลยุทธ์นี้มีสองรูปแบบหลัก:

1. **Call Spread:** ประกอบด้วยการซื้อ Call Option ที่ราคาใช้สิทธิหนึ่ง และขาย Call Option ที่ราคาใช้สิทธิที่สูงกว่า ในช่วงเวลาเดียวกัน

2. **Put Spread:** ประกอบด้วยการซื้อ Put Option ที่ราคาใช้สิทธิหนึ่ง และขาย Put Option ที่ราคาใช้สิทธิที่ต่ำกว่า ในช่วงเวลาเดียวกัน

• • ตัวอย่าง:**

สมมติว่าคุณเชื่อว่าราคาของหุ้น ABC จะอยู่ในช่วงระหว่าง 100 ถึง 105 บาท ในช่วงเวลา 1 ชั่วโมง คุณสามารถใช้ Call Spread โดย:

• ซื้อ Call Option ที่ราคาใช้สิทธิ 100 บาท ด้วยค่าพรีเมียม 20 บาท
• ขาย Call Option ที่ราคาใช้สิทธิ 105 บาท ด้วยค่าพรีเมียม 10 บาท

ต้นทุนสุทธิ (Net Debit) ของกลยุทธ์นี้คือ 10 บาท (20 - 10)

• **หากราคาของหุ้น ABC อยู่ระหว่าง 100 ถึง 105 บาท:** ทั้งสอง Option จะหมดอายุโดยไม่มีมูลค่า และคุณจะขาดทุนเท่ากับต้นทุนสุทธิ (10 บาท)
• **หากราคาของหุ้น ABC สูงกว่า 105 บาท:** Call Option ที่ซื้อจะทำกำไร แต่ Call Option ที่ขายจะขาดทุน กำไรสุทธิจะถูกจำกัดไว้
• **หากราคาของหุ้น ABC ต่ำกว่า 100 บาท:** ทั้งสอง Option จะหมดอายุโดยไม่มีมูลค่า และคุณจะขาดทุนเท่ากับต้นทุนสุทธิ (10 บาท)

1. 1. 1. ข้อดีและข้อเสียของ Horizontal Spread

• • ข้อดี:**

• **ลดความเสี่ยง:** เมื่อเทียบกับการซื้อขาย Call หรือ Put Option เพียงอย่างเดียว Horizontal Spread ช่วยลดความเสี่ยงโดยการจำกัดผลตอบแทนสูงสุดและขาดทุนสูงสุด
• **เพิ่มโอกาสในการทำกำไร:** เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ
• **ความยืดหยุ่น:** สามารถปรับเปลี่ยนราคาใช้สิทธิและระยะเวลาเพื่อให้เหมาะสมกับความคาดหวังของนักเทรด
• **ต้นทุนต่ำ:** โดยทั่วไปแล้ว ต้นทุนสุทธิของ Horizontal Spread จะต่ำกว่าการซื้อขาย Option เพียงอย่างเดียว

• • ข้อเสีย:**

• **ผลตอบแทนจำกัด:** กำไรสูงสุดที่สามารถทำได้ถูกจำกัดไว้
• **ความซับซ้อน:** กลยุทธ์นี้มีความซับซ้อนกว่าการซื้อขาย Option แบบง่ายๆ
• **ต้องมีการบริหารจัดการ:** จำเป็นต้องมีการติดตามและปรับเปลี่ยนตำแหน่งอย่างสม่ำเสมอ

1. 1. 1. การเลือกราคาใช้สิทธิและระยะเวลา

การเลือกราคาใช้สิทธิ (Strike Price) และระยะเวลา (Expiration Time) ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการทำ Horizontal Spread ให้ประสบความสำเร็จ

• **ราคาใช้สิทธิ:** ควรเลือกราคาใช้สิทธิที่ใกล้เคียงกับราคาปัจจุบันของสินทรัพย์อ้างอิง และอยู่ในช่วงที่คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหว
• **ระยะเวลา:** ควรเลือกระยะเวลาที่เหมาะสมกับความคาดหวังของนักเทรด หากคาดว่าราคาจะอยู่ในช่วงแคบๆ ในระยะเวลาอันสั้น ควรเลือกระยะเวลาสั้นๆ

1. 1. 1. การประยุกต์ใช้ Horizontal Spread ในการซื้อขายจริง

Horizontal Spread สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการซื้อขายจริงได้หลากหลายสถานการณ์ เช่น:

• **ช่วง Sideways Market:** เมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ
• **ช่วงข่าวสำคัญ:** ก่อนการประกาศข่าวสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง
• **การลดความเสี่ยง:** เมื่อมีตำแหน่งซื้อขายอยู่แล้ว และต้องการลดความเสี่ยง

1. 1. 1. การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการใช้ Indicators

การใช้ การวิเคราะห์ทางเทคนิค และ Indicators สามารถช่วยในการตัดสินใจเลือกราคาใช้สิทธิและระยะเวลาที่เหมาะสมได้ ตัวอย่างเช่น:

• **Moving Averages:** ใช้เพื่อระบุแนวโน้มของราคา
• **Bollinger Bands:** ใช้เพื่อวัดความผันผวนของราคา
• **Relative Strength Index (RSI):** ใช้เพื่อวัดสภาวะ Overbought หรือ Oversold ของราคา
• **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** ใช้เพื่อระบุสัญญาณการซื้อขาย

1. 1. 1. การบริหารความเสี่ยง

การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในการซื้อขาย Horizontal Spread:

• **กำหนด Stop-Loss:** กำหนดระดับราคาที่ยอมรับได้หากราคาเคลื่อนไหวผิดทาง
• **จำกัดขนาด Position:** ไม่ควรลงทุนใน Horizontal Spread มากเกินไป
• **ติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด:** ติดตามข่าวสารและเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง
• **ทำความเข้าใจความเสี่ยง:** เข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์นี้อย่างถ่องแท้

1. 1. 1. ตัวอย่างกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง

| กลยุทธ์ | คำอธิบาย | เหมาะสำหรับ | |---|---|---| | **Straddle** | ซื้อ Call และ Put Option ที่ราคาใช้สิทธิและระยะเวลาเดียวกัน | คาดการณ์ความผันผวนสูง | | **Strangle** | ซื้อ Call และ Put Option ที่ราคาใช้สิทธิที่แตกต่างกัน | คาดการณ์ความผันผวนสูง | | **Butterfly Spread** | กลยุทธ์ที่ซับซ้อนขึ้น ประกอบด้วยการซื้อและขาย Call และ Put Option หลายชุด | คาดการณ์ราคาจะอยู่ในช่วงแคบๆ | | **Iron Condor** | กลยุทธ์ที่ซับซ้อนขึ้น ประกอบด้วยการซื้อและขาย Call และ Put Option หลายชุด | คาดการณ์ราคาจะอยู่ในช่วงแคบๆ | | **Covered Call** | ขาย Call Option ในขณะที่มีหุ้นอยู่แล้ว | ต้องการสร้างรายได้เพิ่มเติม |

1. 1. 1. การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis)

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย สามารถช่วยยืนยันสัญญาณที่ได้จากการวิเคราะห์ทางเทคนิคได้ ตัวอย่างเช่น:

• **Volume Confirmation:** หากราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่คาดการณ์ และปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น แสดงว่าสัญญาณนั้นแข็งแกร่ง
• **Divergence:** หากราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางหนึ่ง แต่ปริมาณการซื้อขายเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงกันข้าม อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวของแนวโน้ม

1. 1. 1. แนวโน้มของตลาด (Trend Analysis)

การระบุ แนวโน้มของตลาด เป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจว่าจะใช้กลยุทธ์ Horizontal Spread หรือไม่:

• **Uptrend:** หากตลาดอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น อาจไม่เหมาะที่จะใช้ Horizontal Spread
• **Downtrend:** หากตลาดอยู่ในแนวโน้มขาลง อาจไม่เหมาะที่จะใช้ Horizontal Spread
• **Sideways Trend:** เหมาะสำหรับใช้ Horizontal Spread ในช่วงที่ตลาดเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ

1. 1. 1. การใช้เครื่องมือช่วยวิเคราะห์

มีเครื่องมือช่วยวิเคราะห์มากมายที่สามารถช่วยในการตัดสินใจซื้อขาย Horizontal Spread เช่น:

• **Option Chain:** แสดงราคาและข้อมูลของ Option ต่างๆ
• **Option Calculator:** ช่วยคำนวณผลตอบแทนและความเสี่ยงของกลยุทธ์
• **Trading Platform:** มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและ Indicators ต่างๆ

1. 1. 1. กลยุทธ์เพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง

• **Risk Reversal:** กลยุทธ์ที่ผสมผสานการซื้อ Call และขาย Put เพื่อสร้างผลตอบแทนที่จำกัด
• **Calendar Spread:** กลยุทธ์ที่ใช้ Option ที่มีระยะเวลาหมดอายุที่แตกต่างกัน
• **Diagonal Spread:** กลยุทธ์ที่ใช้ Option ที่มีราคาใช้สิทธิและระยะเวลาหมดอายุที่แตกต่างกัน

1. 1. 1. สรุป

Horizontal Spread เป็นกลยุทธ์ที่มีประโยชน์สำหรับนักเทรด ไบนารี่ออปชั่น ที่ต้องการลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในสถานการณ์ที่คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้มีความซับซ้อนและจำเป็นต้องมีการบริหารจัดการอย่างสม่ำเสมอ การทำความเข้าใจหลักการทำงาน ข้อดี ข้อเสีย และวิธีการประยุกต์ใช้ รวมถึงการใช้เครื่องมือช่วยวิเคราะห์และการบริหารความเสี่ยง จะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการซื้อขาย Horizontal Spread

การซื้อขายไบนารี่ออปชั่น การวิเคราะห์ตลาด การบริหารเงินทุน การลงทุน กลยุทธ์การลงทุน Option Trading Risk Management Technical Analysis Fundamental Analysis Volatility Strike Price Expiration Date Call Option Put Option Option Chain Trading Platform Market Trends Volume Analysis Indicators Moving Averages Bollinger Bands RSI MACD Straddle Strangle Butterfly Spread Iron Condor Covered Call Risk Reversal Calendar Spread Diagonal Spread

ตัวอย่างการเปรียบเทียบกลยุทธ์

กลยุทธ์	ความเสี่ยง	ผลตอบแทน	ความซับซ้อน
Horizontal Spread	ต่ำ-ปานกลาง	จำกัด	ปานกลาง
Call/Put Option เดี่ยวๆ	สูง	ไม่จำกัด	ง่าย
Straddle/Strangle	สูง	ไม่จำกัด	ปานกลาง-สูง
Butterfly/Iron Condor	ต่ำ	จำกัด	สูง

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น