Binary options trading fraud
- Binary Options Trading Fraud
การซื้อขายไบนารี่ออปชั่น (Binary Options Trading) เป็นรูปแบบการลงทุนที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยความเรียบง่ายและศักยภาพในการทำกำไรที่รวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ความนิยมที่เพิ่มขึ้นนี้เองก็ดึงดูดผู้ไม่หวังดีและนำไปสู่การฉ้อโกง (Fraud) ในรูปแบบต่างๆ มากมาย บทความนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ความรู้แก่ผู้เริ่มต้นเกี่ยวกับรูปแบบการฉ้อโกงที่พบบ่อยในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น วิธีการป้องกันตนเอง และสิ่งที่ควรทำหากตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกง
พื้นฐานของไบนารี่ออปชั่น
ก่อนที่จะเจาะลึกถึงการฉ้อโกง เรามาทบทวนพื้นฐานของไบนารี่ออปชั่นกันก่อน ไบนารี่ออปชั่นคือสัญญาที่ให้ผลตอบแทนสองแบบ: กำไรที่กำหนดไว้ล่วงหน้า หรือการสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด ขึ้นอยู่กับว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิง (เช่น สกุลเงิน หุ้น ดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์) จะสูงกว่าหรือต่ำกว่าราคาที่กำหนดไว้ (Strike Price) ณ เวลาหมดอายุของสัญญา
ผู้เทรดเดอร์ทำการคาดการณ์ว่าราคาจะ "ขึ้น" (Call Option) หรือ "ลง" (Put Option) หากคาดการณ์ถูกต้อง จะได้รับผลตอบแทนตามที่กำหนดไว้ หากคาดการณ์ผิด จะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด ซึ่งเป็นลักษณะสำคัญที่ทำให้ไบนารี่ออปชั่นมีความเสี่ยงสูง แต่ก็มีศักยภาพในการทำกำไรสูงเช่นกัน การทำความเข้าใจ การวิเคราะห์ทางเทคนิค และ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจซื้อขาย
รูปแบบการฉ้อโกงที่พบบ่อย
การฉ้อโกงในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นมีหลายรูปแบบ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มหลักๆ ได้ดังนี้:
- **โบรกเกอร์ที่ไม่มีใบอนุญาต (Unlicensed Brokers):** นี่เป็นรูปแบบการฉ้อโกงที่พบบ่อยที่สุด โบรกเกอร์ที่ไม่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินที่น่าเชื่อถือ มักจะไม่มีความโปร่งใสในการดำเนินงาน และอาจมีการปั่นราคา หรือปฏิเสธการจ่ายเงินกำไรให้กับลูกค้า การตรวจสอบ ใบอนุญาตโบรกเกอร์ เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญก่อนเริ่มต้นการซื้อขาย
- **การปั่นราคา (Price Manipulation):** โบรกเกอร์บางรายอาจทำการปั่นราคาของสินทรัพย์อ้างอิง เพื่อให้ผลลัพธ์ของการซื้อขายเป็นไปตามที่ตนต้องการ ทำให้ผู้เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ขาดทุน การใช้ แท่งเทียนญี่ปุ่น และ รูปแบบกราฟ สามารถช่วยในการระบุความผิดปกติของราคาได้
- **โบนัสหลอกลวง (Fake Bonuses):** โบรกเกอร์บางรายเสนอโบนัสจำนวนมากเพื่อดึงดูดลูกค้า แต่โบนัสเหล่านี้มักมาพร้อมกับเงื่อนไขที่ยากจะทำได้ เช่น ต้องทำการซื้อขายจำนวนมากเกินไปก่อนจึงจะสามารถถอนเงินได้ หรือโบนัสจะไม่สามารถถอนได้เลย
- **การใช้ซอฟต์แวร์อัตโนมัติหลอกลวง (Scam Auto-Trading Software):** มีซอฟต์แวร์อัตโนมัติจำนวนมากที่อ้างว่าสามารถทำกำไรได้อย่างง่ายดาย แต่ส่วนใหญ่เป็นซอฟต์แวร์หลอกลวงที่ออกแบบมาเพื่อขโมยเงินจากผู้ใช้ การใช้ กลยุทธ์การเทรดแบบ martingale กับซอฟต์แวร์เหล่านี้อาจนำไปสู่การสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด
- **การขอข้อมูลส่วนบุคคล (Phishing):** มิจฉาชีพอาจแสร้งเป็นโบรกเกอร์ หรือหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน เพื่อขอข้อมูลส่วนบุคคล เช่น รหัสผ่าน หรือข้อมูลบัตรเครดิต
- **การรับประกันผลตอบแทน (Guaranteed Returns):** ไม่มีโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือรายใดสามารถรับประกันผลตอบแทนจากการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นได้ การซื้อขายมีความเสี่ยง และผลตอบแทนไม่แน่นอน
- **การปฏิเสธการถอนเงิน (Refusal to Withdraw Funds):** เมื่อผู้เทรดเดอร์ต้องการถอนเงินกำไร โบรกเกอร์อาจหาข้ออ้างต่างๆ เพื่อปฏิเสธการถอนเงิน เช่น ค่าธรรมเนียมที่สูงเกินไป หรือปัญหาทางเทคนิค
- **การโทรหลอกลวง (Recovery Scams):** หลังจากที่ผู้เทรดเดอร์ตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกง มิจฉาชีพอาจติดต่อมาเสนอความช่วยเหลือในการกู้คืนเงิน แต่จริงๆ แล้วเป็นการฉ้อโกงซ้ำซ้อน
วิธีการป้องกันตนเอง
การป้องกันตนเองจากการฉ้อโกงในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ต่อไปนี้คือเคล็ดลับบางประการ:
- **ตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์:** ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโบรกเกอร์มีใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินที่น่าเชื่อถือ เช่น CySEC (Cyprus Securities and Exchange Commission) หรือ FCA (Financial Conduct Authority) ในสหราชอาณาจักร
- **ศึกษาข้อมูลโบรกเกอร์อย่างละเอียด:** อ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริง และตรวจสอบประวัติของโบรกเกอร์
- **ระมัดระวังโบนัสที่มากเกินไป:** หากโบรกเกอร์เสนอโบนัสที่ดูดีเกินจริง ให้สงสัยไว้ก่อน
- **อย่าหลงเชื่อซอฟต์แวร์อัตโนมัติที่อ้างว่าทำกำไรได้อย่างง่ายดาย:** ซอฟต์แวร์อัตโนมัติส่วนใหญ่เป็นซอฟต์แวร์หลอกลวง
- **ปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล:** อย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับผู้อื่น
- **อย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้:** การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นมีความเสี่ยงสูง ดังนั้นควรลงทุนเฉพาะเงินที่คุณสามารถสูญเสียได้โดยไม่กระทบต่อชีวิตประจำวัน
- **ทำความเข้าใจเงื่อนไขการซื้อขาย:** อ่านและทำความเข้าใจเงื่อนไขการซื้อขายของโบรกเกอร์อย่างละเอียด
- **ใช้บัญชีทดลอง (Demo Account):** ฝึกฝนการซื้อขายด้วยบัญชีทดลองก่อนที่จะลงทุนด้วยเงินจริง การใช้ การวิเคราะห์เชิงปริมาณ ในบัญชีทดลองจะช่วยให้คุณคุ้นเคยกับตลาด
- **เรียนรู้กลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสม:** การใช้ กลยุทธ์ straddle หรือ กลยุทธ์ butterfly ที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
สิ่งที่ควรทำหากตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกง
หากคุณตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น สิ่งที่คุณควรทำคือ:
- **รวบรวมหลักฐาน:** รวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง เช่น สัญญาการซื้อขาย อีเมล ข้อความสนทนา และบันทึกการทำธุรกรรม
- **แจ้งความต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง:** แจ้งความต่อหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินในประเทศของคุณ หรือหน่วยงานตำรวจ
- **แจ้งต่อแพลตฟอร์มการชำระเงิน:** หากคุณชำระเงินผ่านบัตรเครดิต หรือ PayPal ให้แจ้งต่อแพลตฟอร์มการชำระเงินเพื่อขอเงินคืน
- **ปรึกษาทนายความ:** หากคุณได้รับความเสียหายจำนวนมาก ให้ปรึกษาทนายความเพื่อขอคำแนะนำทางกฎหมาย
- **รายงานการฉ้อโกง:** รายงานการฉ้อโกงไปยังเว็บไซต์ หรือองค์กรที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการฉ้อโกงทางการเงิน
การวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน
การทำความเข้าใจ การวิเคราะห์ทางเทคนิค และ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสี่ยงในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น การวิเคราะห์ทางเทคนิคเกี่ยวข้องกับการศึกษาแผนภูมิราคา และการใช้ ตัวชี้วัดทางเทคนิค เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages), ดัชนีความสัมพันธ์สัมพัทธ์ (Relative Strength Index - RSI) และ MACD (Moving Average Convergence Divergence) เพื่อทำนายแนวโน้มของราคา
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเกี่ยวข้องกับการศึกษาข้อมูลทางเศรษฐกิจ และข่าวสารทางการเงินที่อาจมีผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง เช่น อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ และการเติบโตทางเศรษฐกิจ การใช้ การวิเคราะห์คลื่น Elliott สามารถช่วยในการระบุรูปแบบราคาที่ซับซ้อน
กลยุทธ์การซื้อขาย
การเลือกใช้ กลยุทธ์การเทรดแบบ trend following หรือ กลยุทธ์การเทรดแบบ range trading ที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร การใช้ กลยุทธ์ pin bar หรือ กลยุทธ์ engulfing สามารถช่วยในการระบุจุดกลับตัวของราคา
การซื้อขายปริมาณ (Volume Trading)
การวิเคราะห์ ปริมาณการซื้อขาย (Trading Volume) สามารถช่วยยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มราคา ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นในทิศทางของแนวโน้ม บ่งบอกถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นในสินทรัพย์นั้นๆ การใช้ On Balance Volume (OBV) สามารถช่วยในการระบุการสะสม หรือการกระจายตัวของสินทรัพย์
สรุป
การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นมีความเสี่ยงสูง และอาจนำไปสู่การฉ้อโกงได้ หากไม่มีความรู้ และความระมัดระวัง การป้องกันตนเองจากการฉ้อโกงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยการตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และใช้กลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสม หากคุณตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกง ให้รีบแจ้งความต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และปรึกษาทนายความ
| รูปแบบการฉ้อโกง | วิธีการป้องกัน | โบรกเกอร์ที่ไม่มีใบอนุญาต | ตรวจสอบใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลที่น่าเชื่อถือ | การปั่นราคา | ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อระบุความผิดปกติ | โบนัสหลอกลวง | ระมัดระวังโบนัสที่มากเกินไป | ซอฟต์แวร์อัตโนมัติหลอกลวง | อย่าหลงเชื่อซอฟต์แวร์ที่อ้างว่าทำกำไรได้อย่างง่ายดาย | การขอข้อมูลส่วนบุคคล | ปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล | การรับประกันผลตอบแทน | ระวังการรับประกันผลตอบแทนที่ไม่สมจริง | การปฏิเสธการถอนเงิน | อ่านเงื่อนไขการถอนเงินอย่างละเอียด | การโทรหลอกลวง | อย่าให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ที่ไม่น่าเชื่อถือ |
|---|
การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) เป็นสิ่งสำคัญในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น การตั้งค่า Stop-Loss order และ Take-Profit order จะช่วยจำกัดความเสี่ยง และรักษาผลกำไร การกระจายความเสี่ยง (Diversification) โดยการลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภท จะช่วยลดผลกระทบจากการขาดทุนในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง
การเทรดแบบจิตวิทยา (Trading Psychology) มีบทบาทสำคัญในการซื้อขาย การควบคุมอารมณ์ และการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล จะช่วยให้คุณทำการซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การทำความเข้าใจ ความเสี่ยงในการเทรด (Trading Risk) เป็นสิ่งจำเป็นในการตัดสินใจลงทุน
การวางแผนการเทรด (Trading Plan) เป็นเครื่องมือสำคัญในการซื้อขาย การมีแผนการเทรดที่ชัดเจน จะช่วยให้คุณมีวินัยในการซื้อขาย และลดความผิดพลาดที่เกิดจากอารมณ์
การบันทึกการเทรด (Trading Journal) เป็นวิธีที่ดีในการติดตามผลการซื้อขายของคุณ การวิเคราะห์บันทึกการเทรด จะช่วยให้คุณเรียนรู้จากความผิดพลาด และปรับปรุงกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ
การศึกษาอย่างต่อเนื่อง (Continuous Learning) เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาทักษะการซื้อขายของคุณ การติดตามข่าวสาร และเรียนรู้เทคนิคใหม่ๆ จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น
การวิเคราะห์สหสัมพันธ์ (Correlation Analysis) สามารถช่วยในการระบุสินทรัพย์ที่มีความสัมพันธ์กัน และใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์นั้นในการเทรด
การวิเคราะห์ Fibonacci (Fibonacci Analysis) สามารถช่วยในการระบุระดับแนวรับ และแนวต้านที่สำคัญ
การวิเคราะห์ Gann (Gann Analysis) เป็นเทคนิคการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ซับซ้อน ซึ่งใช้ในการระบุรูปแบบราคา และทำนายแนวโน้มในอนาคต
การวิเคราะห์ Ichimoku Cloud (Ichimoku Cloud Analysis) เป็นเทคนิคการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้ในการระบุแนวโน้ม และระดับแนวรับ/แนวต้าน
การวิเคราะห์ Harmonic Patterns (Harmonic Pattern Analysis) เป็นเทคนิคการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้ในการระบุรูปแบบราคาที่ซับซ้อน และทำนายแนวโน้มในอนาคต
การวิเคราะห์ Elliott Wave (Elliott Wave Analysis) เป็นเทคนิคการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้ในการระบุรูปแบบราคาที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของคลื่น
การวิเคราะห์ Point and Figure (Point and Figure Analysis) เป็นเทคนิคการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ไม่ใช้เวลาเป็นตัวแปรหลัก
การวิเคราะห์ Renko (Renko Analysis) เป็นเทคนิคการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้แท่ง Renko เพื่อกรองสัญญาณรบกวน
การวิเคราะห์ Kagi (Kagi Analysis) เป็นเทคนิคการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้เส้น Kagi เพื่อระบุแนวโน้ม
การวิเคราะห์ Three Line Break (Three Line Break Analysis) เป็นเทคนิคการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้เส้น Three Line Break เพื่อระบุแนวโน้ม
การวิเคราะห์ Heikin Ashi (Heikin Ashi Analysis) เป็นเทคนิคการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้แท่ง Heikin Ashi เพื่อกรองสัญญาณรบกวน
การวิเคราะห์ Volume Spread Analysis (VSA) (Volume Spread Analysis Analysis) เป็นเทคนิคการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้ปริมาณการซื้อขายและช่วงราคาเพื่อระบุแนวโน้ม
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
