ออปชั่นแบบ Put
- ออปชั่นแบบ Put
ออปชั่นแบบ Put เป็นเครื่องมือทางการเงินที่อนุญาตให้ผู้ซื้อมีสิทธิ (แต่ไม่ผูกพัน) ในการขายสินทรัพย์อ้างอิงในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (ราคาใช้สิทธิ) ภายในระยะเวลาที่กำหนด หากผู้ซื้อคาดการณ์ว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะลดลง พวกเขาจะซื้อออปชั่นแบบ Put เพื่อทำกำไรจากความเชื่อมั่นนั้น บทความนี้จะเจาะลึกรายละเอียดของออปชั่นแบบ Put สำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงกลไกการทำงาน, ปัจจัยที่มีผลต่อราคา, กลยุทธ์การเทรด, การจัดการความเสี่ยง และความแตกต่างจากออปชั่นแบบ Callออปชั่นแบบ Call
- ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับออปชั่น
ก่อนที่จะเจาะลึกเรื่องออปชั่นแบบ Put เรามาทำความเข้าใจพื้นฐานของ ออปชั่น กันก่อน ออปชั่นเป็นสัญญาที่ให้สิทธิแก่ผู้ซื้อในการซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิงในราคาและวันที่กำหนด ออปชั่นมีสองประเภทหลัก:
- **ออปชั่นแบบ Call:** ให้สิทธิในการซื้อสินทรัพย์
- **ออปชั่นแบบ Put:** ให้สิทธิในการขายสินทรัพย์
ออปชั่นแต่ละประเภทมีสิ่งที่เรียกว่า **ราคาใช้สิทธิ (Strike Price)** ซึ่งคือราคาที่ผู้ซื้อสามารถซื้อหรือขายสินทรัพย์ได้ และมี **วันหมดอายุ (Expiration Date)** ซึ่งคือวันที่ออปชั่นหมดอายุและไม่สามารถใช้สิทธิได้อีกต่อไป ผู้ที่ *ขาย* ออปชั่นจะได้รับ **ค่าพรีเมี่ยม (Premium)** จากผู้ซื้อ ซึ่งเป็นราคาที่ผู้ซื้อจ่ายเพื่อซื้อสิทธิในออปชั่นนั้น
- ออปชั่นแบบ Put: กลไกการทำงาน
ออปชั่นแบบ Put ให้สิทธิแก่ผู้ซื้อในการ *ขาย* สินทรัพย์อ้างอิงในราคาใช้สิทธิภายในวันหมดอายุ หากราคาตลาดของสินทรัพย์อ้างอิงลดลงต่ำกว่าราคาใช้สิทธิ ผู้ซื้อออปชั่นแบบ Put จะสามารถทำกำไรได้ โดยการซื้อสินทรัพย์ในตลาดแล้วขายให้กับผู้ขายออปชั่นในราคาใช้สิทธิที่สูงกว่า
- ตัวอย่าง:**
สมมติว่าคุณเชื่อว่าราคาหุ้นของบริษัท ABC จะลดลง คุณจึงซื้อออปชั่นแบบ Put ที่มีรายละเอียดดังนี้:
- **สินทรัพย์อ้างอิง:** หุ้นบริษัท ABC
- **ราคาใช้สิทธิ:** 100 บาท
- **วันหมดอายุ:** 30 วัน
- **ค่าพรีเมี่ยม:** 5 บาทต่อหุ้น
ถ้าภายใน 30 วัน ราคาหุ้นของบริษัท ABC ลดลงเหลือ 90 บาท คุณสามารถใช้สิทธิในออปชั่นแบบ Put ของคุณได้ โดย:
1. ซื้อหุ้น ABC ในตลาดที่ราคา 90 บาท 2. ใช้สิทธิในออปชั่นแบบ Put เพื่อขายหุ้น ABC ให้กับผู้ขายออปชั่นในราคา 100 บาท
กำไรของคุณต่อหุ้นจะเท่ากับ (100 บาท - 90 บาท) - 5 บาท (ค่าพรีเมี่ยม) = 5 บาท
แต่ถ้าภายใน 30 วัน ราคาหุ้นของบริษัท ABC เพิ่มขึ้นเป็น 110 บาท คุณจะไม่ใช้สิทธิในออปชั่นแบบ Put ของคุณ และจะเสียค่าพรีเมี่ยม 5 บาทต่อหุ้น
- ปัจจัยที่มีผลต่อราคาออปชั่นแบบ Put
ราคาของออปชั่นแบบ Put ไม่ได้คงที่ แต่จะเปลี่ยนแปลงไปตามปัจจัยหลายประการ ได้แก่:
- **ราคาสินทรัพย์อ้างอิง:** ความสัมพันธ์ระหว่างราคาสินทรัพย์อ้างอิงและราคาออปชั่นแบบ Put เป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม กล่าวคือ หากราคาสินทรัพย์อ้างอิงลดลง ราคาออปชั่นแบบ Put จะเพิ่มขึ้น และในทางกลับกัน
- **ราคาใช้สิทธิ:** ราคาใช้สิทธิที่ต่ำกว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงปัจจุบัน จะทำให้ราคาออปชั่นแบบ Put สูงขึ้น
- **ระยะเวลาจนถึงวันหมดอายุ:** ระยะเวลาที่เหลือจนถึงวันหมดอายุที่ยาวนานขึ้น จะทำให้ราคาออปชั่นแบบ Put สูงขึ้น เนื่องจากมีโอกาสมากขึ้นที่ราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะลดลงต่ำกว่าราคาใช้สิทธิ
- **ความผันผวน (Volatility):** ความผันผวนที่สูงขึ้น จะทำให้ราคาออปชั่นแบบ Put สูงขึ้น เนื่องจากมีความไม่แน่นอนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางของราคาสินทรัพย์อ้างอิง
- **อัตราดอกเบี้ย:** อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น จะทำให้ราคาออปชั่นแบบ Put ลดลงเล็กน้อย (ผลกระทบนี้มักจะไม่มากนัก)
- **เงินปันผล (Dividends):** หากสินทรัพย์อ้างอิงจ่ายเงินปันผล ราคาออปชั่นแบบ Put จะลดลงเล็กน้อย
- กลยุทธ์การเทรดออปชั่นแบบ Put
มีกลยุทธ์การเทรดออปชั่นแบบ Put มากมายที่นักลงทุนสามารถใช้ได้ ขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ตัวอย่างกลยุทธ์บางส่วน ได้แก่:
- **Long Put:** ซื้อออปชั่นแบบ Put เมื่อคาดการณ์ว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะลดลง นี่เป็นกลยุทธ์พื้นฐานที่สุดในการเทรดออปชั่นแบบ Put Long Put
- **Short Put:** ขายออปชั่นแบบ Put เมื่อคาดการณ์ว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะไม่ลดลงมากนัก หรือจะเพิ่มขึ้น กลยุทธ์นี้มีความเสี่ยงสูงกว่า Long Put Short Put
- **Put Spread:** ซื้อออปชั่นแบบ Put ที่ราคาใช้สิทธิหนึ่ง และขายออปชั่นแบบ Put ที่ราคาใช้สิทธิที่แตกต่างกัน กลยุทธ์นี้ช่วยลดต้นทุนและจำกัดกำไรที่อาจได้รับ Put Spread
- **Iron Condor:** เป็นกลยุทธ์ที่รวมการขาย Put Spread และ Call Spread เพื่อทำกำไรจากช่วงราคาที่แคบ Iron Condor
- **Straddle/Strangle:** กลยุทธ์ที่ใช้ทั้งออปชั่น Call และ Put เพื่อทำกำไรจากความผันผวนที่สูง Straddle/Strangle
นอกจากนี้ ยังมีกลยุทธ์อื่นๆ อีกมากมายที่นักลงทุนสามารถปรับใช้ได้ตามสถานการณ์และความต้องการ
- การจัดการความเสี่ยงในการเทรดออปชั่นแบบ Put
การเทรดออปชั่นแบบ Put มีความเสี่ยงอยู่บ้าง ดังนั้น การจัดการความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้:
- **ขนาดของ Position:** อย่าลงทุนในออปชั่นแบบ Put มากเกินไปเมื่อเทียบกับพอร์ตการลงทุนโดยรวม
- **Stop-Loss Order:** ตั้ง Stop-Loss Order เพื่อจำกัดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น
- **Diversification:** กระจายความเสี่ยงโดยการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย
- **การติดตามข่าวสาร:** ติดตามข่าวสารและเหตุการณ์ที่อาจมีผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์อ้างอิง
- **ทำความเข้าใจความเสี่ยง:** ทำความเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเทรดออปชั่นแบบ Put อย่างถ่องแท้ก่อนที่จะลงทุน
- ออปชั่นแบบ Put ใน Binary Options
ในแพลตฟอร์ม Binary Options ออปชั่นแบบ Put มักจะนำเสนอในรูปแบบที่ง่ายกว่า คือ ผู้เทรดคาดการณ์ว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะลดลงต่ำกว่าราคาที่กำหนดภายในระยะเวลาที่กำหนด หากคาดการณ์ถูกต้อง ผู้เทรดจะได้รับผลตอบแทนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า แต่หากคาดการณ์ผิดพลาด ผู้เทรดจะเสียเงินลงทุนทั้งหมด
Binary Options Put มีความเสี่ยงสูงกว่าออปชั่นแบบ Put แบบดั้งเดิม เนื่องจากไม่มีโอกาสในการปรับ Position หรือจำกัดการขาดทุน
- การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์พื้นฐานสำหรับการเทรดออปชั่นแบบ Put
การตัดสินใจซื้อหรือขายออปชั่นแบบ Put ควรอยู่บนพื้นฐานของการวิเคราะห์ที่รอบคอบ ทั้งการวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ทางเทคนิค และการวิเคราะห์พื้นฐาน การวิเคราะห์พื้นฐาน
- **การวิเคราะห์ทางเทคนิค:** ใช้เครื่องมือและตัวชี้วัดทางเทคนิค เช่น แนวรับแนวต้าน แนวรับแนวต้าน, ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่, RSI RSI, MACD MACD เพื่อระบุแนวโน้มและสัญญาณการกลับตัวของราคาสินทรัพย์อ้างอิง
- **การวิเคราะห์พื้นฐาน:** พิจารณาปัจจัยพื้นฐานของสินทรัพย์อ้างอิง เช่น ผลประกอบการของบริษัท ผลประกอบการของบริษัท, สภาพเศรษฐกิจ สภาพเศรษฐกิจ, ข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญที่อาจมีผลกระทบต่อราคา
การผสมผสานทั้งสองวิธีจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการเทรดออปชั่นแบบ Put
- สรุป
ออปชั่นแบบ Put เป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีประโยชน์สำหรับนักลงทุนที่คาดการณ์ว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะลดลง การทำความเข้าใจกลไกการทำงาน, ปัจจัยที่มีผลต่อราคา, กลยุทธ์การเทรด และการจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในการเทรดออปชั่นแบบ Put อย่างประสบความสำเร็จ การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์พื้นฐานก็มีความสำคัญเช่นกันในการตัดสินใจลงทุนอย่างมีข้อมูล
| สินทรัพย์ | ออปชั่นแบบ Put | ออปชั่นแบบ Call |
|---|---|---|
| มุมมอง | คาดการณ์ราคาลดลง | คาดการณ์ราคาเพิ่มขึ้น |
| สิทธิ | สิทธิในการขาย | สิทธิในการซื้อ |
| กำไรสูงสุด | จำกัด (ราคาใช้สิทธิ - ราคาซื้อ + ค่าพรีเมี่ยม) | ไม่จำกัด |
| ขาดทุนสูงสุด | จำกัด (ค่าพรีเมี่ยม) | จำกัด (ค่าพรีเมี่ยม) |
| ความเสี่ยง | จำกัด | ไม่จำกัด |
การบริหารจัดการเงินทุน การประเมินความเสี่ยง กลยุทธ์ Hedging การวิเคราะห์ความผันผวน การเลือกโบรกเกอร์ Binary Options การทำความเข้าใจสัญญาออปชั่น การคำนวณผลตอบแทนของออปชั่น การใช้เครื่องมือช่วยวิเคราะห์ออปชั่น การเทรดออปชั่นในตลาดที่แตกต่างกัน ผลกระทบของข่าวสารต่อราคาออปชั่น การจัดการอารมณ์ในการเทรดออปชั่น การเรียนรู้จากข้อผิดพลาดในการเทรดออปชั่น การใช้โปรแกรมเทรดอัตโนมัติ (Expert Advisors) สำหรับออปชั่น การทำบัญชีและการรายงานผลการเทรดออปชั่น การวางแผนภาษีสำหรับการเทรดออปชั่น การป้องกันการหลอกลวงในการเทรดออปชั่น
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

