ทำความเข้าใจการซื้อขายไบนารีออปชันเบื้องต้น

ทำความเข้าใจการซื้อขายไบนารีออปชันเบื้องต้น

Binary option หรือ ไบนารีออปชัน เป็นรูปแบบการลงทุนที่มีความเรียบง่ายแต่มีความเสี่ยงสูง เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการทำความเข้าใจตลาดการเงินอย่างรวดเร็ว บทความนี้จะนำเสนอพื้นฐานที่จำเป็นทั้งหมดที่คุณต้องรู้ก่อนเริ่มทำการซื้อขาย

ไบนารีออปชันคืออะไร?

Binary option คือตราสารอนุพันธ์ทางการเงินประเภทหนึ่งที่ให้ผลตอบแทนเป็นจำนวนคงที่ หรือไม่ได้รับอะไรเลย ขึ้นอยู่กับว่าการคาดการณ์ของคุณถูกต้องหรือไม่ ณ เวลาที่กำหนด

• **ความแตกต่างจากตลาดอื่น:** ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างไบนารีออปชันกับตลาดอื่น เช่น ฟอเร็กซ์ หรือ CFD คือ คุณไม่จำเป็นต้องซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิงจริง ๆ แต่คุณกำลังคาดการณ์ทิศทางราคาเท่านั้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ความแตกต่างระหว่างไบนารีออปชันกับตลาดฟอเร็กซ์และ CFD
• **ผลตอบแทนแบบตายตัว:** ผลตอบแทน (Payout) จะถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า ไม่ว่าราคาจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่คุณคาดการณ์มากน้อยเพียงใดก็ตาม
• **ความเสี่ยงที่จำกัด:** ความเสี่ยงสูงสุดที่คุณจะเสียคือจำนวนเงินลงทุนในออปชันนั้น ๆ

องค์ประกอบหลักของการเทรดไบนารีออปชัน

การเทรดไบนารีออปชันเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบหลักไม่กี่อย่าง ซึ่งคุณจะต้องทำความเข้าใจก่อนการวางคำสั่งซื้อขาย

1. การเลือกสินทรัพย์ (Asset Selection)

สินทรัพย์ที่คุณสามารถใช้ในการเทรดไบนารีออปชันมักจะเป็นคู่เงิน (Forex), ดัชนีตลาดหุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์ (เช่น ทองคำ น้ำมัน) หรือหุ้นรายตัว การเลือกสินทรัพย์ที่เหมาะสมมีความสำคัญต่อการวางแผนการเทรดของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การเลือกสินทรัพย์ เวลาซื้อขาย และโครงสร้างการจ่ายเงิน

2. การคาดการณ์ทิศทาง (Call หรือ Put)

การเทรดไบนารีออปชันมีเพียงสองทางเลือกหลักเท่านั้น:

• **Call option (ซื้อ):** คุณคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์จะ **สูงขึ้น** เมื่อสิ้นสุดช่วงเวลาที่กำหนด
• **Put option (ขาย):** คุณคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์จะ **ต่ำลง** เมื่อสิ้นสุดช่วงเวลาที่กำหนด

3. ราคาใช้สิทธิ (Strike Price)

ราคาใช้สิทธิคือราคาของสินทรัพย์ ณ เวลาที่คุณเปิดคำสั่งซื้อขาย ราคาที่คุณคาดการณ์ว่าราคาจะอยู่สูงกว่าหรือต่ำกว่าราคานี้เมื่อหมดอายุ

4. Expiry time (เวลาหมดอายุ)

นี่คือหัวใจสำคัญของไบนารีออปชัน เป็นช่วงเวลาที่กำหนดว่าการคาดการณ์ของคุณจะถูกตัดสินว่าถูกหรือผิด โดยทั่วไปมีตั้งแต่ 30 วินาทีไปจนถึงหลายชั่วโมง การเลือก Expiry time ที่เหมาะสมต้องสอดคล้องกับการวิเคราะห์ของคุณ ดูรายละเอียดการเลือกได้ที่ การกำหนดเวลาหมดอายุและการเลือกราคาใช้สิทธิ

5. Payout (โครงสร้างการจ่ายเงิน)

นี่คือจำนวนเงินที่คุณจะได้รับหากการคาดการณ์ของคุณถูกต้อง โดยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 70% ถึง 95% ของเงินลงทุน หากคุณลงทุน 100 บาท และ Payout คือ 80% หากคุณชนะ คุณจะได้เงินคืน 100 บาท บวกกำไร 80 บาท รวมเป็น 180 บาท หากคุณแพ้ คุณจะเสียเงินลงทุน 100 บาท

สถานการณ์	เงินลงทุน (บาท)	Payout	ผลลัพธ์ (ชนะ)	ผลลัพธ์ (แพ้)
Call Option ถูกต้อง	100	85%	ได้รับ 185 (กำไร 85)	เสีย 100
Put Option ถูกต้อง	100	75%	ได้รับ 175 (กำไร 75)	เสีย 100

การทำงานของ In-the-Money และ Out-of-the-Money

ผลลัพธ์ของการเทรดจะถูกตัดสินโดยเทียบกับราคาใช้สิทธิ ณ เวลาหมดอายุ

• **In-the-money (ITM):** สถานะที่การคาดการณ์ของคุณถูกต้อง (เช่น คุณซื้อ Call และราคาสุดท้ายสูงกว่าราคาใช้สิทธิ) คุณจะได้รับ Payout
• **Out-of-the-money (OTM):** สถานะที่การคาดการณ์ของคุณผิดพลาด (เช่น คุณซื้อ Call แต่ราคาสุดท้ายต่ำกว่าราคาใช้สิทธิ) คุณจะเสียเงินลงทุน

• ข้อควรระวัง:* ในบางแพลตฟอร์ม หากราคาปิดเท่ากับราคาใช้สิทธิ (At-the-money) คุณอาจได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวน หรืออาจถือว่าเป็นการขาดทุน ขึ้นอยู่กับกฎของโบรกเกอร์

ขั้นตอนการซื้อขายไบนารีออปชัน (Workflow)

การเข้าสู่ตลาดไบนารีออปชันบนแพลตฟอร์มส่วนใหญ่มีขั้นตอนที่คล้ายคลึงกันมาก คุณสามารถดูภาพรวมของแพลตฟอร์มได้ที่ ส่วนประกอบสำคัญของแพลตฟอร์มไบนารีออปชัน

1. **เลือกโบรกเกอร์:** เลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือและมีใบอนุญาต (เช่น IQ Option หรือ Pocket Option) ศึกษาข้อมูลและข้อจำกัดในพื้นที่ของคุณ เลือกโบรกเกอร์ไบนารี่ออปชั่น
2. **เปิดบัญชีและฝากเงิน:** เริ่มต้นด้วยบัญชีทดลอง (Demo Account) เพื่อฝึกฝนก่อนเสมอ เมื่อพร้อมแล้วจึงฝากเงินจริงตามจำนวนที่คุณรับความเสี่ยงได้
3. **เลือกสินทรัพย์:** เลือกคู่สกุลเงินหรือสินทรัพย์ที่คุณต้องการเทรด (เช่น EUR/USD)
4. **กำหนดช่วงเวลา:** เลือก Expiry time ที่เหมาะสม (เช่น 5 นาที)
5. **วิเคราะห์ตลาด:** ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค (ดูหัวข้อถัดไป) เพื่อตัดสินใจว่าจะขึ้นหรือลง
6. **กำหนดขนาดการลงทุน (Position Sizing):** ตัดสินใจว่าจะลงทุนในออปชันนี้เป็นจำนวนเท่าใด (ดูเรื่อง Risk management ต่อไป)
7. **วางคำสั่งซื้อขาย:** กดปุ่ม "Call" หากคาดว่าราคาจะขึ้น หรือ "Put" หากคาดว่าราคาจะลง
8. **รอผล:** รอจนกว่าจะถึง Expiry time หากการคาดการณ์ถูกต้อง คุณจะได้รับเงินตาม Payout หากผิด คุณจะเสียเงินลงทุน

การวิเคราะห์ทางเทคนิคสำหรับมือใหม่

การเทรดไบนารีออปชันต้องอาศัยการคาดการณ์ทิศทางราคา การวิเคราะห์ทางเทคนิคช่วยให้คุณมีเหตุผลในการตัดสินใจมากขึ้น

1. กราฟแท่งเทียน (Candlesticks)

Candlestick pattern คือการแสดงข้อมูลราคาในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ (เช่น 1 นาที, 5 นาที)

• **แท่งเทียนสีเขียว (หรือสีขาว):** ราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด (ตลาดเป็นขาขึ้นในช่วงเวลานั้น)
• **แท่งเทียนสีแดง (หรือสีดำ):** ราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด (ตลาดเป็นขาลงในช่วงเวลานั้น)

• ข้อผิดพลาดทั่วไป:* การพึ่งพาแท่งเทียนเพียงอย่างเดียวโดยไม่ดูบริบทของตลาดโดยรวม

2. Support and resistance (แนวรับและแนวต้าน)

แนวรับและแนวต้านคือระดับราคาในอดีตที่ตลาดเคยมีการกลับตัวบ่อยครั้ง

• **แนวรับ (Support):** ระดับราคาที่แรงซื้อมักจะเข้ามาและผลักดันราคาไม่ให้ลงไปต่ำกว่านี้
• **แนวต้าน (Resistance):** ระดับราคาที่แรงขายมักจะเข้ามาและผลักดันราคาไม่ให้ขึ้นไปสูงกว่านี้

• การใช้งาน:* หากราคากำลังเข้าใกล้แนวรับ คุณอาจพิจารณาเปิด Call option โดยคาดว่าราคาจะเด้งกลับขึ้นไป

3. การใช้ตัวชี้วัดพื้นฐาน (Indicators)

ตัวชี้วัดช่วยยืนยันสัญญาณที่มองเห็นจากกราฟ

• **RSI (Relative Strength Index):** วัดความเร็วและการเปลี่ยนแปลงของการเคลื่อนไหวของราคา

   *   ค่าสูงกว่า 70: บ่งชี้ว่าสินทรัพย์อาจถูกซื้อมากเกินไป (Overbought) ซึ่งอาจเป็นสัญญาณให้พิจารณา Put option
   *   ค่าต่ำกว่า 30: บ่งชี้ว่าสินทรัพย์อาจถูกขายมากเกินไป (Oversold) ซึ่งอาจเป็นสัญญาณให้พิจารณา Call option

• **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** ช่วยระบุ Trend และโมเมนตัม

   *   เมื่อเส้น MACD ตัดขึ้นเหนือเส้น Signal: อาจเป็นสัญญาณซื้อ (Bullish Crossover)
   *   เมื่อเส้น MACD ตัดลงต่ำกว่าเส้น Signal: อาจเป็นสัญญาณขาย (Bearish Crossover)

• **Bollinger Bands (BB):** แสดงความผันผวนของราคา

   *   เมื่อราคาวิ่งออกนอกแถบด้านบน: อาจมีการกลับตัวลง
   *   เมื่อราคาวิ่งออกนอกแถบด้านล่าง: อาจมีการกลับตัวขึ้น

• ข้อควรระวัง:* อย่าใช้ตัวชี้วัดมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดสัญญาณที่ขัดแย้งกันเอง

• **การตรวจสอบความถูกต้อง (Validation):** สัญญาณที่ดีควรได้รับการยืนยันจากตัวชี้วัดอื่น ๆ และบริบทของ Support and resistance
• **เกณฑ์การเพิกถอน (Invalidation Criteria):** หากตัวชี้วัดให้สัญญาณซื้อ แต่ราคาทะลุแนวรับสำคัญลงไปอย่างรุนแรง สัญญาณนั้นถือว่าใช้ไม่ได้

การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) สำหรับไบนารีออปชัน

เนื่องจากไบนารีออปชันมีความเสี่ยงสูง การควบคุมเงินทุนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการอยู่รอดในตลาดนี้

1. Risk management และ Position sizing

กฎทองคำคือ ห้ามเสี่ยงเกินกว่าที่คุณยอมรับได้ที่จะสูญเสียในแต่ละครั้ง

• **กฎ 1-2% ต่อการเทรด:** สำหรับผู้เริ่มต้น ไม่ควรเสี่ยงเกิน 1% ถึง 2% ของยอดเงินในบัญชีทั้งหมดต่อการเทรดหนึ่งครั้ง

   *   *ตัวอย่าง:* หากคุณมีเงิน 1,000 บาท คุณไม่ควรลงทุนในออปชันเดียวเกิน 10 ถึง 20 บาท

2. การบริหารความเสี่ยงรายวัน

กำหนดขีดจำกัดการขาดทุนรายวัน (Daily Stop Loss) เพื่อป้องกันการเทรดแบบแก้แค้น (Revenge Trading)

• **การขาดทุนสูงสุดต่อวัน:** ควรกำหนดไว้ที่ประมาณ 5% ของเงินทุนทั้งหมด

   *   *ตัวอย่าง:* หากคุณมี 1,000 บาท และขาดทุนครบ 50 บาทแล้ว ให้หยุดเทรดทันทีในวันนั้น ไม่ว่าคุณจะรู้สึกมั่นใจแค่ไหนก็ตาม

3. การบันทึกการเทรด

การใช้ Trading journal เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนาตัวเอง คุณต้องบันทึกทุกการเทรด ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้

วันที่	สินทรัพย์	ประเภท (Call/Put)	ราคาเปิด	ราคาปิด	ผลลัพธ์	เหตุผลในการเข้าเทรด	บทเรียนที่ได้
15/03	EUR/USD	Call	1.08500	1.08515	ชนะ	RSI ต่ำกว่า 30 ที่แนวรับ	ต้องระวังช่วงตลาดผันผวนสูง

การตั้งความคาดหวังที่เป็นจริง (Realistic Expectations)

ผู้เริ่มต้นมักมีความคาดหวังว่าไบนารีออปชันจะทำให้รวยเร็ว แต่ความเป็นจริงแตกต่างออกไป

• **ไม่ใช่การพนัน:** แม้จะดูเหมือนการพนัน แต่การเทรดที่ประสบความสำเร็จต้องอาศัยการวิเคราะห์และวินัย
• **อัตราการชนะ (Win Rate):** เทรดเดอร์มืออาชีพส่วนใหญ่มักมีอัตราการชนะที่ 55% ถึง 65% เท่านั้น ไม่ใช่ 90% หรือ 100%
• **ความสม่ำเสมอสำคัญกว่ากำไรก้อนใหญ่:** การทำกำไรเล็กน้อยอย่างสม่ำเสมอด้วยการบริหารความเสี่ยงที่ดี จะนำไปสู่ความสำเร็จในระยะยาวมากกว่าการหวังรวยในวันเดียว

การเลือกแพลตฟอร์ม: กรณีศึกษาเบื้องต้น

โบรกเกอร์ไบนารีออปชันเป็นตัวกลางในการซื้อขายของคุณ การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญ แพลตฟอร์มยอดนิยมมักมีคุณสมบัติที่คล้ายกัน

บัญชีทดลอง (Demo Account)

• **ความสำคัญ:** บัญชีทดลองใช้เงินเสมือนจริง ช่วยให้คุณคุ้นเคยกับอินเทอร์เฟซและการทำงานของคำสั่งซื้อขายโดยไม่มีความเสี่ยงทางการเงิน
• **การใช้งาน:** ใช้บัญชีทดลองเพื่อทดสอบกลยุทธ์การเทรดของคุณ (เช่น การใช้ RSI ร่วมกับ Support and resistance) ก่อนนำไปใช้กับเงินจริง

การจัดการเงินฝากและถอนเงิน

• **วิธีการฝาก/ถอน:** ส่วนใหญ่รองรับบัตรเครดิต/เดบิต, โอนเงินผ่านธนาคาร, และ e-wallets
• **KYC (Know Your Customer):** การยืนยันตัวตนเป็นขั้นตอนบังคับตามกฎหมายและข้อบังคับ เพื่อป้องกันการฟอกเงิน
• **ความเร็วในการถอน:** ตรวจสอบรีวิวเกี่ยวกับความเร็วในการดำเนินการถอนเงิน ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์

ความเสี่ยงของโบนัสและโปรโมชั่น

โบรกเกอร์มักเสนอโบนัสเงินฝาก (เช่น ฝาก 100 ได้เพิ่ม 50)

• **ข้อควรระวัง:** โบนัสเหล่านี้มักมาพร้อมกับเงื่อนไขการซื้อขาย (Turnover Requirements) ที่เข้มงวด ซึ่งหมายความว่าคุณต้องทำการซื้อขายด้วยปริมาณที่สูงมากก่อนจึงจะสามารถถอนเงินได้

• **คำแนะนำ:** สำหรับผู้เริ่มต้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้โบนัสจนกว่าจะเข้าใจเงื่อนไขทั้งหมดอย่างถ่องแท้

การวิเคราะห์ขั้นสูง (สำหรับอนาคต)

เมื่อคุณเข้าใจพื้นฐานแล้ว คุณอาจเริ่มสำรวจแนวคิดที่ซับซ้อนขึ้น

• **Elliott wave:** ทฤษฎีที่ใช้อธิบายรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาในตลาดการเงิน ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเป็นคลื่น 5 คลื่นในทิศทางหลัก และ 3 คลื่นในทิศทางย่อย
• **การวิเคราะห์ Trend ระยะยาว:** การมองภาพรวมว่าตลาดกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นหรือขาลงอย่างชัดเจน เพื่อให้การวาง Call option หรือ Put option มีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น

สรุปสำหรับผู้เริ่มต้น

ไบนารีออปชันเป็นเครื่องมือที่รวดเร็วและตรงไปตรงมา แต่ความเร็วนี้มาพร้อมกับความเสี่ยงสูง

• เริ่มต้นด้วยการเรียนรู้ Risk management เป็นอันดับแรก
• ใช้บัญชีทดลองจนกว่าคุณจะสามารถทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอตามแผนที่วางไว้
• อย่าพยายามเทรดด้วย Expiry time ที่สั้นเกินไป (เช่น 30 วินาที) จนกว่าคุณจะมีประสบการณ์สูง

การเรียนรู้ไบนารี่ออปชั่น เป็นการเดินทางที่ต้องอาศัยความอดทนและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

ดูเพิ่มเติม (บนไซต์นี้)

• ความแตกต่างระหว่างไบนารีออปชันกับตลาดฟอเร็กซ์และ CFD
• ส่วนประกอบสำคัญของแพลตฟอร์มไบนารีออปชัน
• การเลือกสินทรัพย์ เวลาซื้อขาย และโครงสร้างการจ่ายเงิน
• การกำหนดเวลาหมดอายุและการเลือกราคาใช้สิทธิ

บทความแนะนำ

• การซื้อขายไบนารีออปชั่นอย่างมีวินัย
• ไบนารี่ออปชั่นคืออะไร
• การใช้ Support และ Resistance ในไบนารี่ออปชั่น
• การใช้ Hammer และ Hanging Man ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น
• การเรียนรู้ไบนารี่ออปชั่น

Recommended Binary Options Platforms

Platform	Why beginners choose it	Register / Offer
IQ Option	Simple interface, popular asset list, quick order entry	IQ Option Registration
Pocket Option	Fast execution, tournaments, multiple expiration choices	Pocket Option Registration

Join Our Community

Subscribe to our Telegram channel @copytradingall for analytics, free signals, and much more!