การใช้ Pivot Points

การใช้ Pivot Points

Pivot Points หรือ จุดแกว่งสำคัญ เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในตลาดการเงิน รวมถึงตลาด ไบนารี่ออปชั่น ด้วย เครื่องมือนี้ช่วยให้นักเทรดสามารถระบุระดับแนวรับแนวต้านที่สำคัญ และคาดการณ์ทิศทางราคาในอนาคตได้ บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้ Pivot Points สำหรับผู้เริ่มต้น โดยจะครอบคลุมตั้งแต่การคำนวณ การตีความสัญญาณ และการนำไปประยุกต์ใช้กับกลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นต่างๆ

หลักการพื้นฐานของ Pivot Points

Pivot Points ถูกพัฒนาขึ้นโดยนักเทรดชื่อ Murray Babin ในปี 1930s หลักการพื้นฐานคือการพิจารณาราคา High, Low และ Close ของช่วงเวลาก่อนหน้า (โดยทั่วไปคือวันก่อนหน้า) เพื่อคำนวณระดับราคาที่สำคัญ ซึ่งเป็นไปได้ว่าราคาจะเคลื่อนไหวเข้าใกล้หรือเปลี่ยนแปลงทิศทางในวันปัจจุบัน

การคำนวณ Pivot Points

การคำนวณ Pivot Points ประกอบด้วยการคำนวณค่าหลัก (Pivot Point) และระดับสนับสนุนและต้านทาน (Support and Resistance Levels) โดยมีสูตรดังนี้:

Pivot Point (PP): (High + Low + Close) / 3
Resistance 1 (R1): (2 x Pivot Point) - Low
Resistance 2 (R2): Pivot Point + (High - Low)
Support 1 (S1): (2 x Pivot Point) - High
Support 2 (S2): Pivot Point - (High - Low)

การคำนวณ Pivot Points
ระดับ ! สูตร ! คำอธิบาย
Pivot Point (PP)	(High + Low + Close) / 3	ราคาเฉลี่ยของ High, Low และ Close
Resistance 1 (R1)	(2 x Pivot Point) - Low	ระดับต้านทานแรก
Resistance 2 (R2)	Pivot Point + (High - Low)	ระดับต้านทานที่สอง
Support 1 (S1)	(2 x Pivot Point) - High	ระดับสนับสนุนแรก
Support 2 (S2)	Pivot Point - (High - Low)	ระดับสนับสนุนที่สอง

ตัวอย่าง: สมมติว่าเมื่อวานนี้ ราคา High คือ 1.2500, Low คือ 1.2300 และ Close คือ 1.2400

PP = (1.2500 + 1.2300 + 1.2400) / 3 = 1.2400
R1 = (2 x 1.2400) - 1.2300 = 1.2500
R2 = 1.2400 + (1.2500 - 1.2300) = 1.2600
S1 = (2 x 1.2400) - 1.2500 = 1.2300
S2 = 1.2400 - (1.2500 - 1.2300) = 1.2200

การตีความสัญญาณจาก Pivot Points

เมื่อได้ระดับ Pivot Points และ Support/Resistance Levels แล้ว เราสามารถนำมาตีความสัญญาณเพื่อใช้ในการเทรดได้ดังนี้:

ราคาเคลื่อนที่เหนือ R1 หรือ R2: เป็นสัญญาณซื้อ (Call Option) บ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง
ราคาเคลื่อนที่ต่ำกว่า S1 หรือ S2: เป็นสัญญาณขาย (Put Option) บ่งบอกถึงแนวโน้มขาลงที่แข็งแกร่ง
ราคาเคลื่อนที่เข้าใกล้ Pivot Point: อาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงทิศทางราคา หรือการพักตัวของแนวโน้มเดิม
ราคา Breakout เหนือ R2: บ่งบอกถึงการทะลุแนวต้านที่สำคัญ และอาจนำไปสู่การปรับตัวขึ้นของราคาอย่างต่อเนื่อง
ราคา Breakout ต่ำกว่า S2: บ่งบอกถึงการทะลุแนวรับที่สำคัญ และอาจนำไปสู่การปรับตัวลงของราคาอย่างต่อเนื่อง

การประยุกต์ใช้ Pivot Points กับการเทรดไบนารี่ออปชั่น

Pivot Points สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับกลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นได้หลายรูปแบบ ตัวอย่างเช่น:

Pivot Point Bounce: รอให้ราคาเข้าใกล้ระดับ Support หรือ Resistance แล้วเทรดในทิศทางตรงกันข้าม โดยคาดหวังว่าราคาจะเด้งกลับมา
Pivot Point Breakout: รอให้ราคา Breakout เหนือ R2 หรือต่ำกว่า S2 แล้วเทรดตามทิศทางของการ Breakout
Pivot Point Range Trading: เทรดภายในช่วงระหว่าง Support และ Resistance Levels โดยซื้อเมื่อราคาเข้าใกล้ Support และขายเมื่อราคาเข้าใกล้ Resistance
Pivot Point Confirmation: ใช้ Pivot Points ร่วมกับ เครื่องมือทางเทคนิค อื่นๆ เช่น Moving Averages, RSI, หรือ MACD เพื่อยืนยันสัญญาณก่อนทำการเทรด

การใช้ Pivot Points ร่วมกับ Time Frames ต่างๆ

การใช้ Pivot Points ร่วมกับ Time Frames ที่แตกต่างกันสามารถช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์ได้

Daily Pivot Points: ใช้สำหรับเทรดระยะกลางถึงระยะยาว เหมาะสำหรับการเทรดที่ต้องการถือครอง Position เป็นเวลานาน
Hourly Pivot Points: ใช้สำหรับเทรดระยะสั้นถึงระยะกลาง เหมาะสำหรับการเทรดที่ต้องการทำกำไรในระยะเวลาที่สั้นลง
15-Minute Pivot Points: ใช้สำหรับ Scalping หรือการเทรดระยะสั้นมาก เหมาะสำหรับการทำกำไรจากความผันผวนของราคาในระยะเวลาอันสั้น

ข้อจำกัดของ Pivot Points

แม้ว่า Pivot Points จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการที่นักเทรดควรทราบ:

ความล่าช้า: Pivot Points คำนวณจากข้อมูลราคาในอดีต ดังนั้นอาจมีความล่าช้าในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาในปัจจุบัน
ความไม่แม่นยำ: ในบางครั้ง ราคาอาจไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ และ Breakout อาจเป็น False Breakout
ความผันผวน: ในตลาดที่มีความผันผวนสูง Pivot Points อาจไม่สามารถระบุระดับ Support และ Resistance ได้อย่างแม่นยำ

กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นโดยใช้ Pivot Points

1. กลยุทธ์ Breakout Pivot Point: รอให้ราคา Breakout เหนือ R2 หรือต่ำกว่า S2 แล้วเปิด Position ตามทิศทางของการ Breakout โดยเลือกสัญญาที่มีระยะเวลาหมดอายุที่เหมาะสม เช่น 5 นาที หรือ 15 นาที กลยุทธ์ Breakout.

2. กลยุทธ์ Bounce Pivot Point: เมื่อราคาเข้าใกล้ระดับ Support หรือ Resistance ให้เปิด Position ในทิศทางตรงกันข้าม โดยคาดหวังว่าราคาจะเด้งกลับมา ใช้ Bollinger Bands เพื่อยืนยันสัญญาณการเด้งกลับ กลยุทธ์ Bounce.

3. กลยุทธ์ Range Trading ด้วย Pivot Points: กำหนดช่วงราคาโดยใช้ระดับ Support และ Resistance จาก Pivot Points ซื้อเมื่อราคาเข้าใกล้ Support และขายเมื่อราคาเข้าใกล้ Resistance ใช้ Fibonacci Retracement เพื่อหาจุดเข้าที่แม่นยำยิ่งขึ้น กลยุทธ์ Range Trading.

4. กลยุทธ์ Confirmation Pivot Point + RSI: ใช้ Pivot Points เพื่อหาแนวรับแนวต้าน และใช้ RSI เพื่อยืนยันสัญญาณการซื้อขาย หาก RSI อยู่ในโซน Overbought เมื่อราคาเข้าใกล้ Resistance หรืออยู่ในโซน Oversold เมื่อราคาเข้าใกล้ Support ให้เปิด Position ตามทิศทางที่ RSI บ่งชี้ กลยุทธ์ RSI.

5. กลยุทธ์ Pivot Point และ Moving Averages: ใช้ Pivot Points ร่วมกับ Moving Averages เพื่อยืนยันแนวโน้ม หากราคา Breakout เหนือ R2 และอยู่เหนือ Moving Average ให้เปิด Position ซื้อ กลยุทธ์ Moving Average.

6. กลยุทธ์ Pivot Point + Volume Analysis: สังเกตปริมาณการซื้อขาย (Volume) เมื่อราคา Breakout หากมีการเพิ่มขึ้นของ Volume แสดงว่า Breakout นั้นมีความแข็งแกร่ง และมีโอกาสที่จะไปต่อได้ การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย.

7. กลยุทธ์ Pivot Point และ Candlestick Patterns: ใช้รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns) เช่น Engulfing Pattern หรือ Hammer บริเวณแนวรับแนวต้าน Pivot Points เพื่อยืนยันสัญญาณ รูปแบบแท่งเทียน.

8. กลยุทธ์ Multi-Timeframe Pivot Point Analysis: วิเคราะห์ Pivot Points ในหลาย Timeframe (เช่น Daily, Hourly, 15-Minute) เพื่อหาความสอดคล้องของสัญญาณ การวิเคราะห์ Multi-Timeframe.

9. กลยุทธ์ Pivot Point และ Support/Resistance Zones: ใช้ Pivot Points ร่วมกับ Support and Resistance Zones เพื่อหาพื้นที่ที่ราคาอาจมีการกลับตัว Support และ Resistance.

10. กลยุทธ์ Pivot Point และ Trend Lines: วาด Trend Lines และใช้ Pivot Points เพื่อยืนยันแนวโน้มและหาจุดเข้าเทรด Trend Lines.

11. กลยุทธ์ Pivot Point และ Elliott Wave: ใช้ Pivot Points เพื่อช่วยในการระบุ Elliott Wave และหาจุดเข้าเทรดตามทิศทางของ Wave Elliott Wave.

12. กลยุทธ์ Pivot Point และ Ichimoku Cloud: ใช้ Pivot Points ร่วมกับ Ichimoku Cloud เพื่อยืนยันสัญญาณและหาจุดเข้าเทรด Ichimoku Cloud.

13. กลยุทธ์ Pivot Point และ Parabolic SAR: ใช้ Pivot Points ร่วมกับ Parabolic SAR เพื่อหาจุดกลับตัวของแนวโน้ม Parabolic SAR.

14. กลยุทธ์ Pivot Point และ Average True Range (ATR): ใช้ ATR เพื่อวัดความผันผวน และปรับขนาด Position ให้เหมาะสมกับความเสี่ยง Average True Range (ATR).

15. กลยุทธ์ Pivot Point และ Harmonic Patterns: ใช้ Pivot Points เพื่อช่วยในการระบุ Harmonic Patterns เช่น Gartley หรือ Butterfly Harmonic Patterns.

การบริหารความเสี่ยงในการใช้ Pivot Points

การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในการเทรดไบนารี่ออปชั่นเสมอ แม้ว่าคุณจะใช้ Pivot Points ในการวิเคราะห์ก็ตาม:

Stop-Loss: กำหนดระดับ Stop-Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยงในกรณีที่ราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้
Position Size: กำหนดขนาดของ Position ให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้
Risk/Reward Ratio: เลือก Position ที่มี Risk/Reward Ratio ที่เหมาะสม เช่น 1:2 หรือ 1:3
Diversification: กระจายความเสี่ยงโดยการเทรดในสินทรัพย์ที่หลากหลาย

สรุป

Pivot Points เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีประโยชน์สำหรับนักเทรดไบนารี่ออปชั่น ช่วยในการระบุระดับแนวรับแนวต้าน และคาดการณ์ทิศทางราคาในอนาคต อย่างไรก็ตาม การใช้ Pivot Points อย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องมีความเข้าใจในหลักการพื้นฐาน การตีความสัญญาณ และการประยุกต์ใช้กับกลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสม นอกจากนี้ การบริหารความเสี่ยงก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเสมอ

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น