การใช้ Correlation ในการเทรด Volatility Arbitrage with Options
- การใช้ Correlation ในการเทรด Volatility Arbitrage with Options สำหรับผู้เริ่มต้น
Volatility Arbitrage with Options เป็นกลยุทธ์การเทรดที่ซับซ้อนแต่มีศักยภาพในการทำกำไรสูง โดยอาศัยความแตกต่างของราคาของออปชั่นในตลาดเดียวกัน หรือตลาดที่แตกต่างกัน กลยุทธ์นี้ต้องการความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับ กรีก (Options), Implied Volatility และความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์ต่างๆ (Correlation) บทความนี้จะเน้นไปที่การใช้ Correlation ในการเทรด Volatility Arbitrage with Options โดยเฉพาะสำหรับผู้เริ่มต้น
ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับ Volatility Arbitrage
Volatility Arbitrage คือการแสวงหาประโยชน์จากความแตกต่างระหว่างราคาตลาดของออปชั่นกับมูลค่าที่แท้จริงของออปชั่นตามแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ เช่น Black-Scholes Model หรือ Binomial Option Pricing Model โดยทั่วไปแล้ว นักเทรดจะสร้างพอร์ตการลงทุนที่ประกอบด้วยออปชั่นหลายตัวเพื่อลดความเสี่ยงจากปัจจัยต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงของราคาหลักทรัพย์อ้างอิง และมุ่งเน้นไปที่การทำกำไรจากความแตกต่างของ Volatility
Correlation คืออะไร?
Correlation หรือ สหสัมพันธ์ คือสถิติที่ใช้วัดความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรสองตัว โดยมีค่าอยู่ระหว่าง -1 ถึง +1
- **+1:** แสดงถึงความสัมพันธ์ที่เป็นบวกอย่างสมบูรณ์ กล่าวคือ เมื่อตัวแปรหนึ่งเพิ่มขึ้น อีกตัวแปรหนึ่งก็จะเพิ่มขึ้นด้วย
- **-1:** แสดงถึงความสัมพันธ์ที่เป็นลบอย่างสมบูรณ์ กล่าวคือ เมื่อตัวแปรหนึ่งเพิ่มขึ้น อีกตัวแปรหนึ่งจะลดลง
- **0:** แสดงถึงไม่มีความสัมพันธ์เชิงเส้นระหว่างตัวแปรทั้งสอง
ในบริบทของการเทรดออปชั่น Correlation มักใช้เพื่อวัดความสัมพันธ์ระหว่างราคาของสินทรัพย์อ้างอิงที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น ความสัมพันธ์ระหว่างหุ้นสองตัวในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน หรือระหว่างหุ้นและดัชนีตลาดหลักทรัพย์
ทำไม Correlation จึงมีความสำคัญในการเทรด Volatility Arbitrage?
Correlation มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเทรด Volatility Arbitrage เนื่องจากช่วยให้นักเทรดสามารถ:
- **ระบุโอกาสในการทำกำไร:** การเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์ต่างๆ ช่วยให้นักเทรดสามารถระบุสถานการณ์ที่ราคาออปชั่นของสินทรัพย์เหล่านั้นไม่สอดคล้องกับ Correlation ที่คาดหวัง
- **ลดความเสี่ยง:** การสร้างพอร์ตการลงทุนที่ประกอบด้วยสินทรัพย์ที่มี Correlation ต่ำหรือเป็นลบ สามารถช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตได้
- **ปรับปรุงการบริหารความเสี่ยง:** การติดตาม Correlation อย่างต่อเนื่องช่วยให้นักเทรดสามารถปรับพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาวะตลาด
การใช้ Correlation ในกลยุทธ์ Volatility Arbitrage
มีกลยุทธ์ Volatility Arbitrage หลายรูปแบบที่ใช้ Correlation ในการสร้างผลกำไร ตัวอย่างเช่น:
1. **Pair Trading:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการระบุหุ้นสองตัวที่มี Correlation สูงในอดีต เมื่อราคาของหุ้นทั้งสองเบี่ยงเบนไปจากความสัมพันธ์ปกติ นักเทรดจะทำการซื้อหุ้นที่ราคาต่ำกว่า และขายหุ้นที่ราคาสูงกว่า โดยคาดหวังว่าราคาจะกลับสู่ภาวะสมดุลเดิม กลยุทธ์นี้สามารถปรับใช้กับ Binary Options ได้โดยการทำนายทิศทางของราคาหุ้นทั้งสอง 2. **Statistical Arbitrage:** กลยุทธ์นี้คล้ายกับ Pair Trading แต่ใช้แบบจำลองทางสถิติที่ซับซ้อนกว่าในการระบุโอกาสในการทำกำไร โดยพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ เช่น Correlation, Mean Reversion และ Volatility 3. **Index Arbitrage:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการแสวงหาประโยชน์จากความแตกต่างของราคาของดัชนีตลาดหลักทรัพย์และหุ้นที่ประกอบเป็นดัชนีนั้นๆ หากราคาดัชนีแตกต่างจากมูลค่าที่คำนวณได้จากราคาหุ้น นักเทรดจะทำการซื้อหรือขายดัชนีหรือหุ้นเพื่อทำกำไร 4. **Variance Swaps:** เป็นตราสารอนุพันธ์ที่อนุญาตให้นักเทรดแลกเปลี่ยนความเสี่ยงจาก Volatility กับคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง การใช้ Correlation ช่วยในการประเมินมูลค่าที่สมเหตุสมผลของ Variance Swaps 5. **Correlation Trading:** เป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นไปที่การซื้อขาย Correlation โดยตรง โดยใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เช่น Correlation Swaps หรือออปชั่นบน Correlation
การคำนวณ Correlation และการตีความผลลัพธ์
Correlation สามารถคำนวณได้โดยใช้สูตรทางสถิติ หรือใช้ซอฟต์แวร์และเครื่องมือทางการเงินต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยทั่วไปแล้ว นักเทรดจะใช้ค่าสัมประสิทธิ์ Correlation (Correlation Coefficient) เพื่อวัดความแข็งแกร่งและความทิศทางของความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร
| การตีความ | |
| ความสัมพันธ์อ่อน | |
| ความสัมพันธ์ปานกลาง | |
| ความสัมพันธ์แข็งแกร่ง | |
| ความสัมพันธ์เชิงลบอ่อน | |
| ความสัมพันธ์เชิงลบปานกลาง | |
| ความสัมพันธ์เชิงลบแข็งแกร่ง |
สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่า Correlation ไม่ได้แสดงถึงความเป็นเหตุเป็นผล (Causation) เพียงเพราะตัวแปรสองตัวมีความสัมพันธ์กัน ไม่ได้หมายความว่าตัวแปรหนึ่งเป็นสาเหตุของอีกตัวแปรหนึ่ง
เครื่องมือและแหล่งข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์ Correlation
มีเครื่องมือและแหล่งข้อมูลมากมายที่นักเทรดสามารถใช้ในการวิเคราะห์ Correlation ได้แก่:
- **Bloomberg Terminal:** แพลตฟอร์มข้อมูลทางการเงินที่ครอบคลุมซึ่งให้ข้อมูล Correlation แบบเรียลไทม์
- **Reuters Eikon:** แพลตฟอร์มข้อมูลทางการเงินที่คล้ายกับ Bloomberg Terminal
- **Python และ R:** ภาษาโปรแกรมมิ่งที่สามารถใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลและคำนวณ Correlation
- **Excel:** โปรแกรมสเปรดชีตที่สามารถใช้ในการคำนวณ Correlation ได้อย่างง่ายดาย
- **เว็บไซต์ทางการเงิน:** เว็บไซต์ เช่น Yahoo Finance, Google Finance และ TradingView มีข้อมูล Correlation บางส่วน
ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ Volatility Arbitrage และ Correlation Trading
แม้ว่า Volatility Arbitrage และ Correlation Trading จะมีศักยภาพในการทำกำไรสูง แต่ก็มีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องหลายประการ ได้แก่:
- **Model Risk:** ความเสี่ยงที่แบบจำลองทางการเงินที่ใช้ในการประเมินมูลค่าออปชั่นจะไม่ถูกต้อง
- **Liquidity Risk:** ความเสี่ยงที่นักเทรดจะไม่สามารถซื้อหรือขายออปชั่นในราคาที่ต้องการได้
- **Correlation Risk:** ความเสี่ยงที่ Correlation ระหว่างสินทรัพย์ต่างๆ จะเปลี่ยนแปลงไปจากที่คาดการณ์ไว้
- **Execution Risk:** ความเสี่ยงที่การดำเนินการซื้อขายจะไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้
- **Gamma Risk:** ความเสี่ยงที่ Delta ของออปชั่นจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้พอร์ตการลงทุนมีความเสี่ยงมากขึ้น
การบริหารความเสี่ยงในการเทรด Volatility Arbitrage
การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเทรด Volatility Arbitrage นักเทรดควร:
- **ใช้ Stop-Loss Orders:** เพื่อจำกัดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น
- **Diversify Portfolio:** เพื่อลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ต
- **Monitor Correlation Continuously:** เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงของความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์ต่างๆ
- **Stress Test Portfolio:** เพื่อประเมินผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงของสภาวะตลาดต่อพอร์ตการลงทุน
- **Understand Greeks:** ทำความเข้าใจและติดตามค่า Delta, Gamma, Theta, และ Vega เพื่อประเมินความเสี่ยงของออปชั่น
กลยุทธ์เพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง
- Straddle
- Strangle
- Butterfly Spread
- Condor Spread
- Iron Condor
- Covered Call
- Protective Put
- Volatility Skew
- Implied Volatility Surface
- Mean Reversion
- Technical Analysis – การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อหาจุดเข้าออก
- Fundamental Analysis - การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเพื่อประเมินมูลค่า
- Volume Spread Analysis - การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเพื่อหาแนวโน้ม
- Bollinger Bands – ตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ใช้ในการวัดความผันผวน
- Moving Averages – ตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ใช้ในการระบุแนวโน้ม
สรุป
การใช้ Correlation ในการเทรด Volatility Arbitrage with Options เป็นกลยุทธ์ที่ซับซ้อนแต่มีศักยภาพในการทำกำไรสูง การทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์ต่างๆ และการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จในการเทรดกลยุทธ์นี้ สำหรับผู้เริ่มต้น ควรเริ่มต้นด้วยการศึกษาพื้นฐานของออปชั่น Correlation และกลยุทธ์ Volatility Arbitrage อย่างละเอียด ก่อนที่จะเริ่มทำการซื้อขายจริง
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
