การใช้ตัวชี้วัด Stochastic Oscillator

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. การใช้ตัวชี้วัด Stochastic Oscillator

บทนำ

ไบนารี่ออปชั่น เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และการทำความเข้าใจเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเพิ่มโอกาสในการทำกำไร หนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพคือ Stochastic Oscillator บทความนี้จะให้คำแนะนำเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้งาน Stochastic Oscillator สำหรับผู้เริ่มต้น โดยครอบคลุมตั้งแต่แนวคิดพื้นฐาน, การคำนวณ, การตีความสัญญาณ, และกลยุทธ์การใช้งานในตลาดไบนารี่ออปชั่น

Stochastic Oscillator คืออะไร?

Stochastic Oscillator เป็นตัวชี้วัดโมเมนตัม (Momentum Indicator) ที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ถูกพัฒนาขึ้นโดย Dr. George Lane ในช่วงทศวรรษ 1950 หลักการพื้นฐานของ Stochastic Oscillator คือ การเปรียบเทียบราคาปิดปัจจุบันของสินทรัพย์กับช่วงราคาสูงสุดและต่ำสุดในช่วงเวลาที่กำหนด โดยมีสมมติฐานว่า ในแนวโน้มขาขึ้น ราคาปิดมักจะอยู่ใกล้กับช่วงราคาสูงสุด และในแนวโน้มขาลง ราคาปิดมักจะอยู่ใกล้กับช่วงราคาต่ำสุด

Stochastic Oscillator จะแสดงผลเป็นค่าระหว่าง 0 ถึง 100 โดยทั่วไปแล้วจะมีการตีความดังนี้:

  • **ค่าสูงกว่า 80:** สัญญาณว่าสินทรัพย์อยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) และอาจมีการปรับตัวลดลง
  • **ค่าต่ำกว่า 20:** สัญญาณว่าสินทรัพย์อยู่ในภาวะขายมากเกินไป (Oversold) และอาจมีการปรับตัวสูงขึ้น

การคำนวณ Stochastic Oscillator

Stochastic Oscillator มีสองเส้นหลักคือ %K และ %D

1. **%K (Fast Stochastic):**

   %K = 100 * ((ราคาปิดปัจจุบัน – ราคาต่ำสุดในช่วงเวลาที่กำหนด) / (ราคาสูงสุดในช่วงเวลาที่กำหนด – ราคาต่ำสุดในช่วงเวลาที่กำหนด))

2. **%D (Slow Stochastic):**

   %D เป็นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) ของ %K โดยทั่วไปจะใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบ 3 วัน
   %D = ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 3 วันของ %K

โดยทั่วไป นักเทรดมักจะใช้ช่วงเวลา 14 วันในการคำนวณ Stochastic Oscillator แต่ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของแต่ละสินทรัพย์และกรอบเวลาที่ทำการวิเคราะห์ การวิเคราะห์ทางเทคนิค

การตีความสัญญาณจาก Stochastic Oscillator

การตีความสัญญาณจาก Stochastic Oscillator มีหลายรูปแบบดังนี้:

  • **Crossovers:** สัญญาณที่เกิดขึ้นเมื่อเส้น %K ตัดเส้น %D
   *   **Bullish Crossover:** เมื่อเส้น %K ตัดเส้น %D ขึ้นไปเหนือ: สัญญาณซื้อ
   *   **Bearish Crossover:** เมื่อเส้น %K ตัดเส้น %D ลงใต้: สัญญาณขาย
  • **Overbought/Oversold:**
   *   **Overbought (สูงกว่า 80):** อาจเป็นสัญญาณขาย เนื่องจากราคาอาจมีการปรับตัวลดลง
   *   **Oversold (ต่ำกว่า 20):** อาจเป็นสัญญาณซื้อ เนื่องจากราคาอาจมีการปรับตัวสูงขึ้น
  • **Divergence:** การเกิดความแตกต่างระหว่างการเคลื่อนที่ของราคาและ Stochastic Oscillator
   *   **Bullish Divergence:** ราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ แต่ Stochastic Oscillator ไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่: สัญญาณซื้อ
   *   **Bearish Divergence:** ราคาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ Stochastic Oscillator ไม่ทำจุดสูงสุดใหม่: สัญญาณขาย
  • **Failure Swings:**
   *   **Bullish Failure Swing:** Stochastic Oscillator ต่ำกว่า 20 แล้วขยับขึ้น แต่ไม่สามารถทะลุระดับ 20 ได้ จากนั้นกลับลงมาต่ำกว่าระดับเดิม: สัญญาณซื้อ
   *   **Bearish Failure Swing:** Stochastic Oscillator สูงกว่า 80 แล้วขยับลง แต่ไม่สามารถทะลุระดับ 80 ได้ จากนั้นกลับขึ้นมาสูงกว่าระดับเดิม: สัญญาณขาย

การใช้งาน Stochastic Oscillator ในไบนารี่ออปชั่น

Stochastic Oscillator สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับ ไบนารี่ออปชั่น ได้หลายรูปแบบ:

  • **การเทรดตาม Crossovers:** เมื่อเกิด Bullish Crossover ให้เปิดออปชั่น Call (ขึ้น) และเมื่อเกิด Bearish Crossover ให้เปิดออปชั่น Put (ลง)
  • **การเทรดตาม Overbought/Oversold:** เมื่อ Stochastic Oscillator อยู่ในภาวะ Overbought ให้เปิดออปชั่น Put และเมื่ออยู่ในภาวะ Oversold ให้เปิดออปชั่น Call
  • **การเทรดตาม Divergence:** เมื่อเกิด Bullish Divergence ให้เปิดออปชั่น Call และเมื่อเกิด Bearish Divergence ให้เปิดออปชั่น Put
  • **การใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น ๆ:** การใช้ Stochastic Oscillator ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น ๆ เช่น Moving Averages, MACD, หรือ RSI จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ

กลยุทธ์การเทรดโดยใช้ Stochastic Oscillator

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างกลยุทธ์การเทรดโดยใช้ Stochastic Oscillator ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้:

1. **Stochastic Crossover Strategy:**

   *   **เงื่อนไข:** รอให้เกิด Bullish Crossover เหนือระดับ 20 หรือ Bearish Crossover ใต้ระดับ 80
   *   **การเข้าออปชั่น:**
       *   Bullish Crossover: เปิดออปชั่น Call ทันที
       *   Bearish Crossover: เปิดออปชั่น Put ทันที
   *   **ระยะเวลา:** เลือกออปชั่นที่มีระยะเวลาหมดอายุ 5-15 นาที
   *   **การจัดการความเสี่ยง:** กำหนดเงินทุนเสี่ยงไม่เกิน 2-5% ของเงินทุนทั้งหมด

2. **Stochastic Divergence Strategy:**

   *   **เงื่อนไข:** สังเกตการเกิด Bullish หรือ Bearish Divergence
   *   **การเข้าออปชั่น:**
       *   Bullish Divergence: เปิดออปชั่น Call ทันที
       *   Bearish Divergence: เปิดออปชั่น Put ทันที
   *   **ระยะเวลา:** เลือกออปชั่นที่มีระยะเวลาหมดอายุ 10-20 นาที
   *   **การจัดการความเสี่ยง:** กำหนดเงินทุนเสี่ยงไม่เกิน 2-5% ของเงินทุนทั้งหมด

3. **Stochastic Failure Swing Strategy:**

   *   **เงื่อนไข:** รอให้เกิด Bullish หรือ Bearish Failure Swing
   *   **การเข้าออปชั่น:**
       *   Bullish Failure Swing: เปิดออปชั่น Call ทันที
       *   Bearish Failure Swing: เปิดออปชั่น Put ทันที
   *   **ระยะเวลา:** เลือกออปชั่นที่มีระยะเวลาหมดอายุ 5-10 นาที
   *   **การจัดการความเสี่ยง:** กำหนดเงินทุนเสี่ยงไม่เกิน 2-5% ของเงินทุนทั้งหมด

ข้อควรระวังและเคล็ดลับ

  • **การยืนยันสัญญาณ:** ไม่ควรตัดสินใจเทรดเพียงแค่จากสัญญาณของ Stochastic Oscillator เท่านั้น ควรใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น ๆ และ การวิเคราะห์แนวโน้ม เพื่อยืนยันสัญญาณ
  • **การปรับพารามิเตอร์:** สามารถปรับพารามิเตอร์ของ Stochastic Oscillator ได้ตามความเหมาะสมของสินทรัพย์และกรอบเวลาที่ทำการวิเคราะห์
  • **การจัดการความเสี่ยง:** การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเทรดไบนารี่ออปชั่น ควรกำหนดเงินทุนเสี่ยงในแต่ละออปชั่นอย่างเหมาะสม
  • **การฝึกฝน:** ควรฝึกฝนการใช้งาน Stochastic Oscillator ในบัญชีทดลองก่อนที่จะนำไปใช้ในการเทรดจริง บัญชีทดลอง
  • **การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย**: พิจารณาปริมาณการซื้อขายร่วมด้วยเพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของสัญญาณ

ตารางสรุปสัญญาณ Stochastic Oscillator

สรุปสัญญาณ Stochastic Oscillator
สัญญาณ การตีความ คำแนะนำ
Bullish Crossover %K ตัด %D ขึ้นเหนือ พิจารณาซื้อ (Call Option)
Bearish Crossover %K ตัด %D ลงใต้ พิจารณาขาย (Put Option)
Overbought (สูงกว่า 80) สินทรัพย์ถูกซื้อมากเกินไป พิจารณาขาย (Put Option)
Oversold (ต่ำกว่า 20) สินทรัพย์ถูกขายมากเกินไป พิจารณาซื้อ (Call Option)
Bullish Divergence ราคาต่ำสุดใหม่ แต่ Stochastic ไม่ต่ำสุดใหม่ พิจารณาซื้อ (Call Option)
Bearish Divergence ราคาจุดสูงสุดใหม่ แต่ Stochastic ไม่สูงสุดใหม่ พิจารณาขาย (Put Option)
Bullish Failure Swing Stochastic ไม่สามารถทะลุ 20 หลังจากลงต่ำ พิจารณาซื้อ (Call Option)
Bearish Failure Swing Stochastic ไม่สามารถทะลุ 80 หลังจากขึ้นสูง พิจารณาขาย (Put Option)

บทสรุป

Stochastic Oscillator เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ทางเทคนิค และสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการเทรดไบนารี่ออปชั่นได้หลากหลายรูปแบบ อย่างไรก็ตาม การใช้งาน Stochastic Oscillator อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องมีความเข้าใจในหลักการทำงาน การตีความสัญญาณ และการจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม การฝึกฝนและทดลองใช้กลยุทธ์ต่างๆ จะช่วยให้นักลงทุนสามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในตลาดไบนารี่ออปชั่นได้มากยิ่งขึ้น การเทรดอย่างมีวินัย และ การวางแผนการเทรด ก็เป็นสิ่งสำคัญควบคู่กันไปด้วย

การวิเคราะห์กราฟราคา การใช้ Fibonacci Retracement การวิเคราะห์ Elliott Wave การวิเคราะห์ Gap การใช้ Bollinger Bands การใช้ Parabolic SAR การใช้ Ichimoku Cloud การใช้ Pivot Points การใช้ Support and Resistance การใช้ Trend Lines กลยุทธ์ Martingale กลยุทธ์ Anti-Martingale กลยุทธ์ Hedging การวิเคราะห์ข่าวสาร การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер