การวิเคราะห์ Butterfly Options Trading

1. 1. การวิเคราะห์ Butterfly Options Trading

Butterfly Options Trading เป็นกลยุทธ์การเทรดออปชั่นที่เป็นกลางต่อตลาด (Neutral Strategy) ที่ออกแบบมาเพื่อทำกำไรเมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงคาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ในช่วงเวลาที่กำหนด กลยุทธ์นี้มีลักษณะเด่นคือการจำกัดความเสี่ยงและจำกัดผลกำไรสูงสุดที่อาจได้รับ เหมาะสำหรับนักเทรดที่คาดการณ์ว่าตลาดจะไม่มีความผันผวนมากนัก บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับกลยุทธ์ Butterfly Options Trading ตั้งแต่พื้นฐาน การสร้างกลยุทธ์ การวิเคราะห์ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง และการจัดการความเสี่ยง

1. 1. 1. พื้นฐานของ Butterfly Options Trading

Butterfly Spread เป็นกลยุทธ์ที่ประกอบด้วยออปชั่น 4 สัญญา โดยมีราคาใช้สิทธิ (Strike Price) ที่แตกต่างกัน 3 ระดับ ได้แก่ ราคาใช้สิทธิที่ต่ำ (Low Strike), ราคาใช้สิทธิกลาง (Middle Strike) และราคาใช้สิทธิที่สูง (High Strike) กลยุทธ์นี้สามารถสร้างได้ทั้ง Call Butterfly และ Put Butterfly

• **Call Butterfly:** ซื้อ 1 Call option ที่ราคาใช้สิทธิที่ต่ำ, ขาย 2 Call options ที่ราคาใช้สิทธิกลาง, และซื้อ 1 Call option ที่ราคาใช้สิทธิที่สูง โดยราคาใช้สิทธิทั้งสามระดับจะต้องมีระยะห่างเท่ากัน
• **Put Butterfly:** ซื้อ 1 Put option ที่ราคาใช้สิทธิที่สูง, ขาย 2 Put options ที่ราคาใช้สิทธิกลาง, และซื้อ 1 Put option ที่ราคาใช้สิทธิที่ต่ำ โดยราคาใช้สิทธิทั้งสามระดับจะต้องมีระยะห่างเท่ากัน

• • เป้าหมายของกลยุทธ์:** ทำกำไรจากการที่ราคาของสินทรัพย์อ้างอิงอยู่ในช่วงแคบๆ ใกล้กับราคาใช้สิทธิกลาง

• • ผลตอบแทนสูงสุด:** เกิดขึ้นเมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง ณ วันหมดอายุ (Expiration Date) เท่ากับราคาใช้สิทธิกลาง

• • ความเสี่ยงสูงสุด:** จำกัดเท่ากับค่าพรีเมี่ยมสุทธิ (Net Premium) ที่จ่ายไปในการสร้างกลยุทธ์

1. 1. 1. การสร้างกลยุทธ์ Butterfly Options Trading

การสร้างกลยุทธ์ Butterfly Options Trading สามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้:

1. **เลือกสินทรัพย์อ้างอิง:** เลือกสินทรัพย์ที่คุณมีความรู้ความเข้าใจและคาดการณ์ทิศทางราคาได้ 2. **กำหนดราคาใช้สิทธิ:** เลือกราคาใช้สิทธิที่ต่ำ, กลาง และสูง โดยให้มีระยะห่างเท่ากัน ตัวอย่างเช่น หากราคาใช้สิทธิกลางคือ 50 บาท ราคาใช้สิทธิที่ต่ำอาจเป็น 45 บาท และราคาใช้สิทธิที่สูงอาจเป็น 55 บาท 3. **เลือกวันหมดอายุ:** เลือกวันหมดอายุที่เหมาะสมกับระยะเวลาที่คุณคาดการณ์ว่าราคาจะอยู่ในช่วงแคบๆ 4. **ดำเนินการซื้อขาย:** ทำการซื้อและขายออปชั่นตามสูตรของ Call Butterfly หรือ Put Butterfly ที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น

• • ตัวอย่าง:**

สมมติว่าคุณคาดการณ์ว่าราคาหุ้น ABC จะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ในช่วงเดือนหน้า ราคาปัจจุบันของหุ้น ABC คือ 50 บาท คุณตัดสินใจสร้าง Call Butterfly ดังนี้:

• ซื้อ 1 Call option ที่ราคาใช้สิทธิ 45 บาท ด้วยพรีเมี่ยม 2 บาทต่อหุ้น
• ขาย 2 Call options ที่ราคาใช้สิทธิ 50 บาท ด้วยพรีเมี่ยม 1 บาทต่อหุ้น
• ซื้อ 1 Call option ที่ราคาใช้สิทธิ 55 บาท ด้วยพรีเมี่ยม 0.50 บาทต่อหุ้น

ค่าพรีเมี่ยมสุทธิที่จ่ายไปในการสร้างกลยุทธ์นี้คือ (2 - 2*1 + 0.50) = 0.50 บาทต่อหุ้น

1. 1. 1. การวิเคราะห์ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง

การวิเคราะห์ปัจจัยที่เกี่ยวข้องเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจว่าจะใช้กลยุทธ์ Butterfly Options Trading หรือไม่ ปัจจัยที่ควรพิจารณา ได้แก่:

• **ความผันผวน (Volatility):** กลยุทธ์นี้เหมาะกับสภาวะตลาดที่มีความผันผวนต่ำ หากความผันผวนสูงขึ้น ผลกำไรอาจลดลงหรือขาดทุนได้ การวัดความผันผวนสามารถทำได้โดยใช้ ค่าความผันผวนในอดีต (Historical Volatility) และ ความผันผวนโดยนัย (Implied Volatility)
• **การคาดการณ์ทิศทางราคา:** กลยุทธ์นี้เป็นกลางต่อทิศทางราคา แต่จะทำกำไรสูงสุดเมื่อราคาอยู่ในช่วงแคบๆ ใกล้กับราคาใช้สิทธิกลาง
• **ค่าพรีเมี่ยม:** พิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างค่าพรีเมี่ยมของออปชั่นแต่ละสัญญา เพื่อให้ได้ค่าพรีเมี่ยมสุทธิที่เหมาะสม
• **ระยะเวลาที่เหลือจนถึงวันหมดอายุ:** ระยะเวลาที่เหลือจนถึงวันหมดอายุมีผลต่อค่าพรีเมี่ยมของออปชั่น การเลือกวันหมดอายุที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ

1. 1. 1. การจัดการความเสี่ยง

แม้ว่า Butterfly Options Trading จะมีข้อดีคือจำกัดความเสี่ยงได้ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่ต้องจัดการอย่างเหมาะสม:

• **การปรับกลยุทธ์:** หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเคลื่อนไหวออกนอกช่วงที่คาดการณ์ไว้ อาจจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ เช่น การปิดบางสัญญาเพื่อลดความเสี่ยง
• **การใช้ Stop-Loss:** กำหนดระดับ Stop-Loss เพื่อจำกัดความเสียหายหากราคาเคลื่อนไหวผิดทาง
• **การกระจายความเสี่ยง:** อย่าลงทุนในกลยุทธ์นี้เพียงอย่างเดียว ควรมีการกระจายความเสี่ยงไปยังกลยุทธ์อื่นๆ ด้วย
• **การติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด:** ติดตามข่าวสารและเหตุการณ์ที่อาจมีผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง

1. 1. 1. การประยุกต์ใช้กลยุทธ์ Butterfly Options Trading ใน Binary Options

แม้ว่า Butterfly Options Trading จะเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในตลาดออปชั่นแบบดั้งเดิม แต่แนวคิดพื้นฐานสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการเทรด Binary Options ได้ โดยการเลือก Binary Options ที่มีราคาใช้สิทธิ (Strike Price) ที่เหมาะสม และระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อสร้างสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกับการทำกำไรจากช่วงราคาแคบๆ

1. 1. 1. กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง

• **Iron Butterfly:** เป็นกลยุทธ์ที่คล้ายกับ Butterfly แต่ใช้ทั้ง Call และ Put options เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
• **Iron Condor:** เป็นกลยุทธ์ที่ซับซ้อนกว่า Butterfly แต่ให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นหากคาดการณ์ถูกต้อง
• **Straddle:** เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เมื่อคาดว่าราคาจะมีความผันผวนสูง
• **Strangle:** เป็นกลยุทธ์ที่คล้ายกับ Straddle แต่ใช้ราคาใช้สิทธิที่แตกต่างกัน
• **Covered Call:** เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เมื่อถือครองสินทรัพย์อ้างอิงอยู่แล้ว

1. 1. 1. การวิเคราะห์ทางเทคนิคและปริมาณการซื้อขาย

การใช้ การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) และ การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis) สามารถช่วยในการตัดสินใจว่าจะใช้กลยุทธ์ Butterfly Options Trading หรือไม่ ตัวอย่างเช่น:

• **การระบุช่วงราคา:** การใช้ Bollinger Bands หรือ Support and Resistance เพื่อระบุช่วงราคาที่คาดว่าสินทรัพย์อ้างอิงจะเคลื่อนไหว
• **การวิเคราะห์แนวโน้ม:** การใช้ Moving Averages หรือ Trendlines เพื่อระบุแนวโน้มของราคา
• **การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย:** การใช้ Volume Weighted Average Price (VWAP) หรือ On Balance Volume (OBV) เพื่อประเมินความแข็งแกร่งของแนวโน้ม

1. 1. 1. ตัวชี้วัด (Indicators) ที่เกี่ยวข้อง

• **Average True Range (ATR):** ใช้เพื่อวัดความผันผวนของราคา
• **Relative Strength Index (RSI):** ใช้เพื่อประเมินสภาวะการซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold)
• **Moving Average Convergence Divergence (MACD):** ใช้เพื่อระบุแนวโน้มและสัญญาณการกลับตัว

1. 1. 1. แนวโน้ม (Trends) ของตลาด

การเข้าใจแนวโน้มของตลาดเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจว่าจะใช้กลยุทธ์ Butterfly Options Trading หรือไม่ กลยุทธ์นี้เหมาะกับสภาวะตลาดที่เป็นกลาง (Neutral Market) หรือ Sideways Market

1. 1. 1. การจัดการเงินทุน (Money Management)

การจัดการเงินทุนอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการเทรดออปชั่น ไม่ควรลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้ และควรมีการกำหนดขนาด Position ที่เหมาะสม

1. 1. 1. สรุป

Butterfly Options Trading เป็นกลยุทธ์ที่ซับซ้อนแต่มีประสิทธิภาพสำหรับนักเทรดที่ต้องการทำกำไรจากสภาวะตลาดที่มีความผันผวนต่ำ การทำความเข้าใจพื้นฐาน การวิเคราะห์ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง และการจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในการประสบความสำเร็จในการใช้กลยุทธ์นี้ การประยุกต์ใช้แนวคิดนี้กับ Binary Options ก็เป็นไปได้เช่นกัน แต่ต้องพิจารณาเงื่อนไขและข้อจำกัดของแพลตฟอร์ม Binary Options แต่ละแห่ง

ตัวอย่างสรุปผลตอบแทนของ Call Butterfly

! ผลกำไร/ขาดทุนต่อหุ้น |

-0.50 บาท |

0 บาท |

0.50 บาท (ผลกำไรสูงสุด) |

0 บาท |

-0.50 บาท |

การเทรดออปชั่น กลยุทธ์การเทรดออปชั่น การบริหารความเสี่ยงในการเทรดออปชั่น การวิเคราะห์ตลาด การลงทุนในตลาดทุน การวิเคราะห์เชิงปริมาณ การเทรดแบบอัลกอริทึม การสร้างรายได้จากออปชั่น การเลือกโบรกเกอร์ออปชั่น การทำความเข้าใจสัญญาออปชั่น การคิดค่าพรีเมี่ยมออปชั่น Delta Hedging Gamma Scalping Theta Decay Vega Rho การจัดการพอร์ตการลงทุน การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การลงทุนระยะยาว

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น