การทำความเข้าใจ Volatility Skew
- การทำความเข้าใจ Volatility Skew
Volatility Skew หรือความเบ้ของความผันผวน เป็นแนวคิดที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ ไบนารี่ออปชั่น และผู้ที่สนใจในตลาด อนุพันธ์ทางการเงิน โดยทั่วไปแล้ว ราคาของ ออปชั่น จะถูกกำหนดโดยหลายปัจจัย รวมถึงราคาปัจจุบันของสินทรัพย์อ้างอิง ระยะเวลาจนถึงวันหมดอายุ และความผันผวนที่คาดหวัง อย่างไรก็ตาม ความผันผวนที่คาดหวังไม่ได้เป็นค่าคงที่เสมอไป แต่จะแตกต่างกันไปตามระดับราคาใช้งาน (Strike Price) ของออปชั่น ซึ่งความแตกต่างนี้เองคือสิ่งที่เรียกว่า Volatility Skew
บทความนี้จะอธิบาย Volatility Skew อย่างละเอียดสำหรับผู้เริ่มต้น โดยครอบคลุมถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น ผลกระทบต่อการซื้อขาย และวิธีการนำไปประยุกต์ใช้ในการเทรด ไบนารี่ออปชั่น ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ความผันผวนคืออะไร
ก่อนที่จะเจาะลึกเรื่อง Volatility Skew เราจำเป็นต้องเข้าใจความผันผวนก่อน ความผันผวน (Volatility) คือการวัดระดับความเปลี่ยนแปลงของราคาของสินทรัพย์ในช่วงเวลาหนึ่ง โดยทั่วไปแล้ว จะมีการวัดความผันผวนสองประเภทหลักๆ คือ
- **ความผันผวนในอดีต (Historical Volatility):** คำนวณจากข้อมูลราคาในอดีต และแสดงให้เห็นว่าราคาของสินทรัพย์มีการเปลี่ยนแปลงมากน้อยเพียงใดในช่วงเวลาที่ผ่านมา
- **ความผันผวนโดยนัย (Implied Volatility):** ได้มาจากราคาของ ออปชั่น และสะท้อนถึงความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับความผันผวนในอนาคต
ความผันผวนโดยนัยเป็นตัวแปรที่สำคัญในการกำหนดราคาของออปชั่น และเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
Volatility Skew คืออะไร
Volatility Skew คือความแตกต่างของความผันผวนโดยนัย (Implied Volatility) ระหว่างออปชั่นที่มีราคาใช้งาน (Strike Price) ที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ โดยทั่วไปแล้ว จะสังเกตได้ว่าออปชั่นที่มีราคาใช้งานต่ำกว่า (Put Options) หรือสูงกว่า (Call Options) ราคาตลาดปัจจุบัน มักจะมีความผันผวนโดยนัยสูงกว่าออปชั่นที่มีราคาใช้งานใกล้เคียงกับราคาตลาดปัจจุบัน
โดยทั่วไปแล้ว Volatility Skew จะแสดงออกมาในรูปแบบของกราฟ โดยมีแกน X คือราคาใช้งาน (Strike Price) และแกน Y คือความผันผวนโดยนัย (Implied Volatility) กราฟนี้มักจะมีลักษณะเป็นเส้นโค้งที่ไม่สมมาตร ซึ่งบ่งบอกถึงความเบ้ของความผันผวน
รูปแบบของ Volatility Skew
Volatility Skew มีหลายรูปแบบ แต่ที่พบได้บ่อยมีดังนี้
- **Downside Skew:** เป็นรูปแบบที่พบได้บ่อยที่สุด โดยออปชั่น Put (สิทธิ์ในการขาย) ที่มีราคาใช้งานต่ำกว่าราคาตลาดปัจจุบัน จะมีความผันผวนโดยนัยสูงกว่าออปชั่น Call (สิทธิ์ในการซื้อ) ที่มีราคาใช้งานสูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน รูปแบบนี้สะท้อนถึงความกังวลของตลาดเกี่ยวกับความเสี่ยงขาลง (Downside Risk) หรือการลดลงของราคา
- **Upside Skew:** เป็นรูปแบบที่หายากกว่า โดยออปชั่น Call ที่มีราคาใช้งานสูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน จะมีความผันผวนโดยนัยสูงกว่าออปชั่น Put ที่มีราคาใช้งานต่ำกว่าราคาตลาดปัจจุบัน รูปแบบนี้สะท้อนถึงความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับโอกาสในการเพิ่มขึ้นของราคาอย่างรวดเร็ว
- **Flat Skew:** เป็นรูปแบบที่ความผันผวนโดยนัยค่อนข้างคงที่ในทุกราคาใช้งาน รูปแบบนี้มักพบในตลาดที่มีความสงบและไม่มีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
สาเหตุของการเกิด Volatility Skew
มีหลายปัจจัยที่สามารถทำให้เกิด Volatility Skew ได้ ดังนี้
- **Supply and Demand:** ความต้องการออปชั่นในราคาใช้งานที่แตกต่างกันสามารถส่งผลต่อความผันผวนโดยนัยได้ หากมีความต้องการออปชั่น Put ที่มีราคาใช้งานต่ำสูงขึ้น ความผันผวนโดยนัยของออปชั่นเหล่านั้นก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
- **Hedge Fund Activities:** กองทุน Hedge Fund มักจะใช้กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายออปชั่นเพื่อป้องกันความเสี่ยง ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้สามารถส่งผลต่อ Volatility Skew ได้
- **Market Sentiment:** ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อตลาดสามารถส่งผลต่อความผันผวนโดยนัยได้ หากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงขาลง ความผันผวนโดยนัยของออปชั่น Put จะสูงขึ้น
- **ข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญ:** ข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญต่างๆ เช่น การประกาศผลประกอบการของบริษัท หรือการประชุมของธนาคารกลาง สามารถส่งผลต่อความผันผวนโดยนัยได้
ผลกระทบของ Volatility Skew ต่อการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น
Volatility Skew มีผลกระทบอย่างมากต่อการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการกำหนดราคาและเลือกกลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสม
- **การกำหนดราคาออปชั่น:** Volatility Skew ทำให้ราคาของออปชั่นในราคาใช้งานที่แตกต่างกันไม่เป็นไปตามแบบจำลอง Black-Scholes ที่เรียบง่าย ซึ่งเป็นแบบจำลองที่ใช้กันทั่วไปในการกำหนดราคาออปชั่น
- **การเลือกกลยุทธ์การเทรด:** เทรดเดอร์สามารถใช้ประโยชน์จาก Volatility Skew เพื่อเลือกกลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสมกับสภาวะตลาด เช่น หากตลาดมี Downside Skew เทรดเดอร์อาจพิจารณาใช้กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อออปชั่น Put หรือการขายออปชั่น Call
- **การบริหารความเสี่ยง:** การเข้าใจ Volatility Skew ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากความผันผวนของราคาในทิศทางต่างๆ
การนำ Volatility Skew ไปประยุกต์ใช้ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น
เทรดเดอร์สามารถนำ Volatility Skew ไปประยุกต์ใช้ในการเทรด ไบนารี่ออปชั่น ได้หลายวิธี ดังนี้
- **Straddle/Strangle:** กลยุทธ์ Straddle (ซื้อ Call และ Put ในราคาใช้งานเดียวกัน) และ Strangle (ซื้อ Call และ Put ในราคาใช้งานที่แตกต่างกัน) เป็นกลยุทธ์ที่ได้รับประโยชน์จากความผันผวนที่สูงขึ้น หาก Volatility Skew บ่งชี้ว่าความผันผวนโดยนัยต่ำกว่าค่าเฉลี่ย กลยุทธ์เหล่านี้อาจเป็นทางเลือกที่ดี
- **Risk Reversal:** กลยุทธ์ Risk Reversal (ซื้อ Call และขาย Put หรือซื้อ Put และขาย Call) เป็นกลยุทธ์ที่ได้รับประโยชน์จากความแตกต่างของความผันผวนโดยนัยระหว่างออปชั่น Call และ Put หาก Volatility Skew บ่งชี้ว่าความผันผวนโดยนัยของออปชั่น Put สูงกว่าออปชั่น Call เทรดเดอร์อาจพิจารณาซื้อ Put และขาย Call
- **Calendar Spread:** กลยุทธ์ Calendar Spread (ซื้อและขายออปชั่นที่มีราคาใช้งานเดียวกัน แต่มีวันหมดอายุที่แตกต่างกัน) สามารถใช้ประโยชน์จากความแตกต่างของความผันผวนโดยนัยในระยะเวลาที่แตกต่างกัน
- **การวิเคราะห์ Volatility Surface:** การวิเคราะห์ Volatility Surface (กราฟที่แสดงความผันผวนโดยนัยในทุกราคาใช้งานและวันหมดอายุ) สามารถช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจภาพรวมของ Volatility Skew ได้อย่างครอบคลุม
เครื่องมือและแหล่งข้อมูล
มีเครื่องมือและแหล่งข้อมูลมากมายที่สามารถช่วยเทรดเดอร์ในการวิเคราะห์ Volatility Skew ได้ ดังนี้
- **Option Chain:** ข้อมูล Option Chain แสดงราคาและความผันผวนโดยนัยของออปชั่นในราคาใช้งานและวันหมดอายุที่แตกต่างกัน
- **Volatility Skew Chart:** กราฟ Volatility Skew แสดงความผันผวนโดยนัยในทุกราคาใช้งาน
- **Volatility Surface Chart:** กราฟ Volatility Surface แสดงความผันผวนโดยนัยในทุกราคาใช้งานและวันหมดอายุ
- **Financial News Websites:** เว็บไซต์ข่าวสารทางการเงิน เช่น Bloomberg, Reuters และ CNBC มักจะมีบทวิเคราะห์เกี่ยวกับ Volatility Skew และตลาดออปชั่น
สรุป
Volatility Skew เป็นแนวคิดที่สำคัญสำหรับเทรดเดอร์ ไบนารี่ออปชั่น และผู้ที่สนใจในตลาด อนุพันธ์ทางการเงิน การเข้าใจ Volatility Skew ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถกำหนดราคาออปชั่น เลือกกลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสม และบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การวิเคราะห์ Volatility Skew ร่วมกับการวิเคราะห์ แนวโน้มราคา การวิเคราะห์ทางเทคนิค และ การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการเทรด ไบนารี่ออปชั่น ได้อย่างมีนัยสำคัญ
| กลยุทธ์ | คำอธิบาย | เหมาะสำหรับสภาวะตลาด |
| Straddle | ซื้อ Call และ Put ในราคาใช้งานเดียวกัน | ความผันผวนสูง, ไม่แน่ใจทิศทางราคา |
| Strangle | ซื้อ Call และ Put ในราคาใช้งานที่แตกต่างกัน | ความผันผวนสูง, คาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรง |
| Risk Reversal | ซื้อ Call และขาย Put หรือซื้อ Put และขาย Call | ความผันผวนไม่สมดุลระหว่าง Call และ Put |
| Calendar Spread | ซื้อและขายออปชั่นที่มีราคาใช้งานเดียวกัน แต่มีวันหมดอายุที่แตกต่างกัน | คาดการณ์ว่าความผันผวนจะเปลี่ยนแปลงในอนาคต |
| Iron Condor | กลยุทธ์ที่จำกัดความเสี่ยงและจำกัดกำไร โดยประกอบด้วยการขาย Call และ Put ในราคาใช้งานที่แตกต่างกัน | ตลาด Sideways หรือความผันผวนต่ำ |
ลิงก์เพิ่มเติม
- อนุพันธ์ทางการเงิน
- ออปชั่น
- ไบนารี่ออปชั่น
- Black-Scholes Model
- Implied Volatility
- Historical Volatility
- แนวโน้มราคา
- การวิเคราะห์ทางเทคนิค
- การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย
- Moving Average
- Bollinger Bands
- Relative Strength Index (RSI)
- Fibonacci Retracement
- Support and Resistance
- กลยุทธ์ Straddle
- กลยุทธ์ Strangle
- กลยุทธ์ Risk Reversal
- กลยุทธ์ Calendar Spread
- กลยุทธ์ Iron Condor
- การบริหารความเสี่ยงในการเทรดไบนารี่ออปชั่น
- การวิเคราะห์ Volatility Surface
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
