การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Spread และ Commission

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Spread และ Commission ในไบนารี่ออปชั่น

ไบนารี่ออปชั่นเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีความเรียบง่ายในการทำความเข้าใจและมีโอกาสในการทำกำไรที่ค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้สามารถวางแผนการซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงในการขาดทุน บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับ Spread และ Commission ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมหลักที่เทรดเดอร์ไบนารี่ออปชั่นต้องเผชิญ

Spread คืออะไร?

Spread คือความแตกต่างระหว่างราคาเสนอซื้อ (Bid price) และราคาเสนอขาย (Ask price) ของสินทรัพย์อ้างอิง (Underlying asset) ในตลาดไบนารี่ออปชั่น Spread เป็นผลกำไรของโบรกเกอร์จากการจับคู่คำสั่งซื้อและคำสั่งขายของลูกค้า โดยทั่วไปแล้ว Spread จะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ของราคาปัจจุบันของสินทรัพย์อ้างอิง

ตัวอย่าง: หากราคาเสนอซื้อของทองคำอยู่ที่ 1,800 ดอลลาร์สหรัฐ และราคาเสนอขายอยู่ที่ 1,802 ดอลลาร์สหรัฐ Spread จะเท่ากับ 2 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 0.11%

Spread มีผลกระทบต่อผลกำไรของเทรดเดอร์โดยตรง เนื่องจากเทรดเดอร์จะต้องจ่าย Spread ในทุกครั้งที่เปิดและปิดสถานะการซื้อขาย หาก Spread กว้าง เทรดเดอร์จะต้องมีกำไรมากขึ้นเพื่อให้คุ้มค่ากับค่าธรรมเนียมนี้

ความสำคัญของ Spread

  • ผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไร: Spread ที่กว้างจะลดความสามารถในการทำกำไรของเทรดเดอร์โดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์การซื้อขายระยะสั้น เช่น Scalping หรือ Day Trading
  • การเลือกโบรกเกอร์: เทรดเดอร์ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มี Spread ที่แคบ เพื่อลดค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย
  • การจับคู่คำสั่งซื้อขาย: Spread สะท้อนถึงสภาพคล่องของตลาด หากตลาดมีสภาพคล่องสูง Spread จะแคบลง เนื่องจากมีผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนมากที่พร้อมจะจับคู่คำสั่งซื้อขาย
  • ความผันผวนของตลาด: ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง Spread มักจะกว้างขึ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น

Commission คืออะไร?

Commission (ค่าธรรมเนียม) คือค่าธรรมเนียมที่โบรกเกอร์เรียกเก็บจากเทรดเดอร์สำหรับการให้บริการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น Commission มักจะคิดเป็นจำนวนเงินคงที่ต่อการซื้อขายหนึ่งครั้ง หรือคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าการซื้อขาย

ตัวอย่าง: โบรกเกอร์อาจเรียกเก็บ Commission 5 ดอลลาร์สหรัฐต่อการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นแต่ละครั้ง หรือคิด Commission 0.5% ของมูลค่าการซื้อขาย

บางโบรกเกอร์อาจเสนอการซื้อขายแบบไม่มี Commission (Zero Commission) แต่โดยทั่วไปแล้ว โบรกเกอร์เหล่านี้จะสร้างรายได้จาก Spread ที่กว้างขึ้น หรือจากค่าธรรมเนียมอื่นๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการฝาก/ถอนเงิน

ความแตกต่างระหว่าง Spread และ Commission

ถึงแม้ว่าทั้ง Spread และ Commission เป็นค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญดังนี้:

ความแตกต่างระหว่าง Spread และ Commission
Spread|Commission
ความแตกต่างระหว่างราคาเสนอซื้อและราคาเสนอขาย|ค่าธรรมเนียมที่โบรกเกอร์เรียกเก็บต่อการซื้อขาย
คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของราคาปัจจุบัน|คิดเป็นจำนวนเงินคงที่หรือเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าการซื้อขาย
โบรกเกอร์|โบรกเกอร์
เปลี่ยนแปลงตามสภาพคล่องของตลาด|มักจะคงที่
มักจะรวมอยู่ในราคาเสนอซื้อ/ขาย|แสดงแยกต่างหาก

การคำนวณต้นทุนรวมในการซื้อขาย

ในการคำนวณต้นทุนรวมในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น เทรดเดอร์จะต้องพิจารณาทั้ง Spread และ Commission (หากมี)

สูตร:

ต้นทุนรวม = Spread + Commission

ตัวอย่าง:

  • Spread = 0.2%
  • Commission = 5 ดอลลาร์สหรัฐ
  • มูลค่าการซื้อขาย = 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ

Spread = 0.2% * 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ = 2 ดอลลาร์สหรัฐ ต้นทุนรวม = 2 ดอลลาร์สหรัฐ + 5 ดอลลาร์สหรัฐ = 7 ดอลลาร์สหรัฐ

ดังนั้น เทรดเดอร์จะต้องมีกำไรอย่างน้อย 7 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อให้คุ้มค่ากับค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย

กลยุทธ์ในการจัดการ Spread และ Commission

  • เลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสม: เปรียบเทียบ Spread และ Commission ของโบรกเกอร์ต่างๆ ก่อนตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
  • ซื้อขายสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง: สินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงมักจะมี Spread ที่แคบกว่า
  • ใช้ประโยชน์จากโปรโมชั่น: บางโบรกเกอร์อาจเสนอโปรโมชั่น เช่น Commission ฟรี หรือ Spread ที่แคบลงในช่วงเวลาที่กำหนด
  • พิจารณาการซื้อขายระยะยาว: สำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์การซื้อขายระยะยาว Spread และ Commission อาจมีผลกระทบน้อยกว่าเทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์การซื้อขายระยะสั้น
  • ใช้คำสั่ง Limit Order: Limit Order ช่วยให้คุณสามารถกำหนดราคาที่คุณต้องการซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิง ซึ่งอาจช่วยลดผลกระทบจาก Spread ได้
  • ใช้กลยุทธ์ Hedging : การป้องกันความเสี่ยงสามารถช่วยลดผลกระทบของ Spread ได้โดยการสร้างสถานะที่ชดเชยกัน
  • วิเคราะห์ Trading Volume: การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายสามารถช่วยระบุสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงและ Spread ที่แคบได้

ผลกระทบของ Spread และ Commission ต่อกลยุทธ์การซื้อขาย

Spread และ Commission สามารถมีผลกระทบอย่างมากต่อประสิทธิภาพของกลยุทธ์การซื้อขายต่างๆ

  • Scalping: กลยุทธ์ Scalping อาศัยการทำกำไรจากความแตกต่างของราคาเล็กน้อย ดังนั้น Spread ที่กว้างจึงสามารถลดความสามารถในการทำกำไรของกลยุทธ์นี้ได้อย่างมาก
  • Day Trading: เช่นเดียวกับ Scalping Day Trading ก็ได้รับผลกระทบจาก Spread ที่กว้างเช่นกัน
  • Swing Trading: กลยุทธ์ Swing Trading มุ่งเน้นไปที่การทำกำไรจากแนวโน้มราคาในระยะกลางถึงระยะยาว ดังนั้น Spread และ Commission อาจมีผลกระทบน้อยกว่ากลยุทธ์ระยะสั้น
  • Position Trading: กลยุทธ์ Position Trading มุ่งเน้นไปที่การทำกำไรจากแนวโน้มราคาในระยะยาว ดังนั้น Spread และ Commission มักจะมีผลกระทบเพียงเล็กน้อย

การใช้เครื่องมือวิเคราะห์เพื่อประเมิน Spread และ Commission

มีเครื่องมือวิเคราะห์หลายอย่างที่สามารถช่วยเทรดเดอร์ประเมิน Spread และ Commission ได้

  • Economic Calendar: ปฏิทินเศรษฐกิจสามารถช่วยให้คุณคาดการณ์เหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความผันผวนของตลาดและ Spread ได้
  • Technical Indicators: ตัวชี้วัดทางเทคนิค เช่น Moving Averages และ Bollinger Bands สามารถช่วยระบุแนวโน้มราคาและระดับแนวรับแนวต้าน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ Spread ได้
  • Volume Analysis: การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายสามารถช่วยระบุสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงและ Spread ที่แคบได้
  • Heatmaps: แผนผังความร้อนสามารถแสดงภาพ Spread และ Commission ของสินทรัพย์ต่างๆ ได้อย่างชัดเจน
  • Volatility Indices: ดัชนีความผันผวนสามารถช่วยวัดความผันผวนของตลาด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ Spread

การจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ Spread และ Commission

การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น และการพิจารณา Spread และ Commission เป็นส่วนหนึ่งของการจัดการความเสี่ยง

  • กำหนดขนาดตำแหน่งที่เหมาะสม: ปรับขนาดตำแหน่งของคุณเพื่อให้สอดคล้องกับ Spread และ Commission
  • ใช้ Stop-Loss Orders: Stop-Loss Order ช่วยจำกัดการขาดทุนของคุณหากราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ไม่คาดคิด
  • ใช้ Take-Profit Orders: Take-Profit Order ช่วยให้คุณสามารถทำกำไรได้เมื่อราคาถึงเป้าหมายของคุณ
  • กระจายความเสี่ยง: กระจายเงินทุนของคุณไปยังสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยง
  • ติดตามข่าวสาร: ติดตามข่าวสารเศรษฐกิจและการเมืองที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาด

สรุป

Spread และ Commission เป็นค่าธรรมเนียมที่สำคัญที่เทรดเดอร์ไบนารี่ออปชั่นต้องเข้าใจ การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสม การใช้กลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสม และการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถช่วยให้เทรดเดอร์ลดผลกระทบของค่าธรรมเนียมเหล่านี้ และเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

การวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การจัดการเงินทุน จิตวิทยาการเทรด กลยุทธ์ Martingale กลยุทธ์ Anti-Martingale กลยุทธ์ Fibonacci กลยุทธ์ Trend Following กลยุทธ์ Breakout กลยุทธ์ Reversal กลยุทธ์ Straddle กลยุทธ์ Strangle กลยุทธ์ Butterfly กลยุทธ์ Condor การใช้ RSI การใช้ MACD การใช้ Stochastic Oscillator การใช้ Bollinger Bands การใช้ Moving Averages

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер