การทำความเข้าใจกับ Butterfly Spread
- การทำความเข้าใจกับ Butterfly Spread
Butterfly Spread เป็นกลยุทธ์การซื้อขาย ออปชั่น ที่มีความซับซ้อนเล็กน้อย แต่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่จำกัดความเสี่ยงได้ดี กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่คาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบๆ และต้องการหากำไรจากความผันผวนที่ต่ำ โดย Butterfly Spread สามารถใช้ได้ทั้งในตลาด ไบนารี่ออปชั่น และตลาดออปชั่นแบบดั้งเดิม บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับ Butterfly Spread ตั้งแต่แนวคิดพื้นฐาน การสร้างกลยุทธ์ ข้อดีข้อเสีย และวิธีการนำไปประยุกต์ใช้ในการซื้อขายจริง
- แนวคิดพื้นฐานของ Butterfly Spread
Butterfly Spread เป็นกลยุทธ์ที่เป็นกลาง (Neutral Strategy) ซึ่งหมายความว่าผู้ซื้อขายไม่คาดหวังว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างชัดเจน แต่คาดหวังว่าราคาจะอยู่ในช่วงแคบๆ กลยุทธ์นี้ประกอบด้วยออปชั่นสามประเภทที่มีราคาใช้สิทธิ (Strike Price) ที่แตกต่างกัน โดยมักจะใช้ Call Option หรือ Put Option อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
โดยทั่วไปแล้ว Butterfly Spread ประกอบด้วย:
1. ซื้อ Call Option หนึ่งสัญญาที่มีราคาใช้สิทธิที่ต่ำ (Lower Strike Price) 2. ขาย Call Option สองสัญญาที่มีราคาใช้สิทธิที่ตรงกลาง (Middle Strike Price) 3. ซื้อ Call Option หนึ่งสัญญาที่มีราคาใช้สิทธิที่สูง (Higher Strike Price)
หรือ
1. ซื้อ Put Option หนึ่งสัญญาที่มีราคาใช้สิทธิที่ต่ำ (Lower Strike Price) 2. ขาย Put Option สองสัญญาที่มีราคาใช้สิทธิที่ตรงกลาง (Middle Strike Price) 3. ซื้อ Put Option หนึ่งสัญญาที่มีราคาใช้สิทธิที่สูง (Higher Strike Price)
ราคาใช้สิทธิที่ตรงกลางมักจะเท่ากับราคาปัจจุบันของสินทรัพย์อ้างอิง หรือใกล้เคียงกับราคาปัจจุบันมากที่สุด
- การสร้าง Butterfly Spread ด้วย Call Option
เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น เราจะยกตัวอย่างการสร้าง Butterfly Spread ด้วย Call Option สมมติว่าราคาปัจจุบันของหุ้น ABC คือ 50 บาท:
- ซื้อ Call Option ที่ราคาใช้สิทธิ 45 บาท (จ่ายค่าพรีเมี่ยม 5 บาท)
- ขาย Call Option สองสัญญาที่ราคาใช้สิทธิ 50 บาท (รับค่าพรีเมี่ยมสัญญาละ 3 บาท รวม 6 บาท)
- ซื้อ Call Option ที่ราคาใช้สิทธิ 55 บาท (จ่ายค่าพรีเมี่ยม 1 บาท)
ต้นทุนสุทธิของกลยุทธ์นี้คือ: 5 บาท - 6 บาท + 1 บาท = 0 บาท
ดังนั้น ต้นทุนสุทธิในการสร้าง Butterfly Spread คือ 0 บาท แต่ผู้ขายจะได้รับค่าพรีเมี่ยมสุทธิจากส่วนต่างของราคาพรีเมี่ยม
- การสร้าง Butterfly Spread ด้วย Put Option
การสร้าง Butterfly Spread ด้วย Put Option ก็มีหลักการคล้ายกัน:
- ซื้อ Put Option ที่ราคาใช้สิทธิ 55 บาท (จ่ายค่าพรีเมี่ยม 5 บาท)
- ขาย Put Option สองสัญญาที่ราคาใช้สิทธิ 50 บาท (รับค่าพรีเมี่ยมสัญญาละ 3 บาท รวม 6 บาท)
- ซื้อ Put Option ที่ราคาใช้สิทธิ 45 บาท (จ่ายค่าพรีเมี่ยม 1 บาท)
ต้นทุนสุทธิของกลยุทธ์นี้คือ: 5 บาท - 6 บาท + 1 บาท = 0 บาท
เช่นเดียวกับ Call Option ต้นทุนสุทธิในการสร้าง Butterfly Spread คือ 0 บาท แต่ผู้ขายจะได้รับค่าพรีเมี่ยมสุทธิจากส่วนต่างของราคาพรีเมี่ยม
- การทำกำไรและขาดทุนของ Butterfly Spread
- **กำไรสูงสุด:** เกิดขึ้นเมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงอยู่ที่ราคาใช้สิทธิที่ตรงกลาง (ในตัวอย่างคือ 50 บาท) ในกรณีนี้ ผู้ซื้อขายจะได้รับกำไรเท่ากับส่วนต่างระหว่างราคาใช้สิทธิที่ตรงกลางกับราคาใช้สิทธิที่ต่ำ (หรือสูง) ลบด้วยต้นทุนสุทธิของกลยุทธ์
- **ขาดทุนสูงสุด:** จำกัดอยู่ที่ต้นทุนสุทธิของกลยุทธ์ (ในตัวอย่างคือ 0 บาท) ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเคลื่อนที่ออกไปจากช่วงที่คาดการณ์ไว้อย่างมาก
- **จุดคุ้มทุน:** มีสองจุด คือ จุดต่ำสุดและจุดสูงสุดของช่วงราคาที่คาดการณ์ไว้
| ราคาของสินทรัพย์อ้างอิง | กำไร/ขาดทุน |
|---|---|
| ต่ำกว่า 45 บาท | - ต้นทุนสุทธิ |
| 45 บาท | กำไรจำกัด |
| 50 บาท | กำไรสูงสุด |
| 55 บาท | กำไรจำกัด |
| สูงกว่า 55 บาท | - ต้นทุนสุทธิ |
- ข้อดีและข้อเสียของ Butterfly Spread
- ข้อดี:**
- **ความเสี่ยงจำกัด:** การขาดทุนสูงสุดถูกจำกัดอยู่ที่ต้นทุนสุทธิของกลยุทธ์
- **ความยืดหยุ่น:** สามารถปรับเปลี่ยนราคาใช้สิทธิให้เหมาะสมกับความคาดหวังของผู้ซื้อขายได้
- **เหมาะสำหรับตลาดที่ไม่มีแนวโน้ม:** กลยุทธ์นี้ทำงานได้ดีในตลาดที่ราคาเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบๆ
- **ค่าพรีเมี่ยมสุทธิ:** หากสร้างกลยุทธ์ได้อย่างถูกต้อง อาจได้รับค่าพรีเมี่ยมสุทธิ
- ข้อเสีย:**
- **กำไรจำกัด:** กำไรสูงสุดถูกจำกัดไว้
- **ความซับซ้อน:** ต้องมีความเข้าใจในเรื่องของออปชั่นและการสร้างกลยุทธ์
- **ค่าคอมมิชชั่น:** การซื้อขายออปชั่นหลายสัญญาอาจมีค่าคอมมิชชั่นที่สูง
- **ความแม่นยำในการคาดการณ์:** หากคาดการณ์ช่วงราคาผิดพลาด อาจทำให้ขาดทุนได้
- การประยุกต์ใช้ Butterfly Spread ในตลาด ไบนารี่ออปชั่น
แม้ว่า Butterfly Spread จะเป็นกลยุทธ์ที่ออกแบบมาสำหรับตลาดออปชั่นแบบดั้งเดิม แต่ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในตลาดไบนารี่ออปชั่นได้ โดยการใช้ไบนารี่ออปชั่นที่มีราคาใช้สิทธิที่แตกต่างกันสามระดับ และกำหนดระยะเวลาหมดอายุที่เหมาะสม
ตัวอย่างเช่น:
- ซื้อไบนารี่ออปชั่น Call ที่ราคาใช้สิทธิ 45 บาท (ระยะเวลาหมดอายุ 1 วัน)
- ขายไบนารี่ออปชั่น Call สองสัญญาที่ราคาใช้สิทธิ 50 บาท (ระยะเวลาหมดอายุ 1 วัน)
- ซื้อไบนารี่ออปชั่น Call ที่ราคาใช้สิทธิ 55 บาท (ระยะเวลาหมดอายุ 1 วัน)
การจ่ายเงินรางวัลของไบนารี่ออปชั่นจะทำหน้าที่แทนค่าพรีเมี่ยม และการขาดทุนจะเท่ากับเงินลงทุนในไบนารี่ออปชั่นแต่ละสัญญา
- การวิเคราะห์ทางเทคนิคและปริมาณการซื้อขายเพื่อใช้กับ Butterfly Spread
การใช้ การวิเคราะห์ทางเทคนิค และ การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย สามารถช่วยในการตัดสินใจสร้าง Butterfly Spread ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น:
- **Bollinger Bands:** ใช้เพื่อระบุช่วงราคาที่คาดหวัง หากราคาเคลื่อนที่อยู่ในช่วง Bollinger Bands แสดงว่าความผันผวนต่ำ และเหมาะสำหรับการใช้ Butterfly Spread
- **Average True Range (ATR):** ใช้เพื่อวัดความผันผวนของราคา หาก ATR ต่ำ แสดงว่าความผันผวนต่ำ และเหมาะสำหรับการใช้ Butterfly Spread
- **Support and Resistance Levels:** ใช้เพื่อระบุช่วงราคาที่คาดหวัง หากราคามีแนวโน้มที่จะอยู่ในช่วงระหว่าง Support และ Resistance Levels แสดงว่าเหมาะสำหรับการใช้ Butterfly Spread
- **Volume Analysis:** การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายสามารถช่วยยืนยันแนวโน้มของราคา และช่วยในการตัดสินใจเลือกราคาใช้สิทธิที่เหมาะสม
- กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง
- **Iron Condor:** คล้ายกับ Butterfly Spread แต่ใช้ทั้ง Call และ Put Option
- **Short Straddle:** เป็นกลยุทธ์ที่ขายทั้ง Call และ Put Option ที่มีราคาใช้สิทธิและวันที่หมดอายุเดียวกัน
- **Long Straddle:** เป็นกลยุทธ์ที่ซื้อทั้ง Call และ Put Option ที่มีราคาใช้สิทธิและวันที่หมดอายุเดียวกัน
- **Covered Call:** เป็นกลยุทธ์ที่ขาย Call Option บนหุ้นที่ถืออยู่
- **Protective Put:** เป็นกลยุทธ์ที่ซื้อ Put Option เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลดลงของราคาหุ้น
- การจัดการความเสี่ยง
- **กำหนดขนาด Position:** ไม่ควรลงทุนใน Butterfly Spread มากเกินไป ควรเริ่มต้นด้วยขนาด Position ที่เล็ก และค่อยๆ เพิ่มขึ้นเมื่อมีความมั่นใจมากขึ้น
- **ตั้ง Stop-Loss:** แม้ว่าการขาดทุนจะถูกจำกัดไว้ แต่การตั้ง Stop-Loss สามารถช่วยลดความเสี่ยงเพิ่มเติมได้
- **ติดตามราคาอย่างใกล้ชิด:** ควรติดตามราคาของสินทรัพย์อ้างอิงอย่างใกล้ชิด และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หากจำเป็น
- **เข้าใจความเสี่ยง:** ควรเข้าใจความเสี่ยงของ Butterfly Spread อย่างถ่องแท้ ก่อนที่จะทำการซื้อขาย
- สรุป
Butterfly Spread เป็นกลยุทธ์ที่ซับซ้อน แต่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในตลาดที่ไม่มีแนวโน้ม การทำความเข้าใจแนวคิดพื้นฐาน การสร้างกลยุทธ์ การวิเคราะห์ทางเทคนิค และการจัดการความเสี่ยง จะช่วยให้นักลงทุนสามารถนำ Butterfly Spread ไปประยุกต์ใช้ในการซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การซื้อขายออปชั่น การวิเคราะห์ความเสี่ยง การจัดการเงินทุน กลยุทธ์การซื้อขาย การวิเคราะห์ตลาด เทรดดิ้งไซคอลโลจี้ การลงทุนระยะยาว การลงทุนระยะสั้น การกระจายความเสี่ยง การวิเคราะห์พื้นฐาน การวิเคราะห์ทางเทคนิคขั้นสูง การใช้ Indicators การอ่านกราฟราคา การวิเคราะห์ Volume การบริหารความเสี่ยง กลยุทธ์ Iron Condor กลยุทธ์ Short Straddle กลยุทธ์ Long Straddle (Category:Options Trading Strategies)
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
