การซื้อ Put Option
การซื้อ Put Option
บทนำ
การซื้อ Put Option เป็นหนึ่งในกลยุทธ์พื้นฐานและสำคัญในการเทรด ไบนารี่ออปชั่น (Binary Options) ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่อนุญาตให้เทรดเดอร์ทำกำไรได้จากการคาดการณ์ทิศทางราคาของสินทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset) ไม่ว่าจะเป็นหุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์, คู่สกุลเงิน หรือดัชนีต่างๆ บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการซื้อ Put Option สำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงแนวคิดพื้นฐาน, กลไกการทำงาน, ความเสี่ยง, และกลยุทธ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้คุณเข้าใจและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Put Option คืออะไร?
Put Option คือ สิทธิ (แต่ไม่ใช่ภาระผูกพัน) ที่จะขายสินทรัพย์อ้างอิงในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (Strike Price) ภายในวันหมดอายุ (Expiration Date) หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงลดลงต่ำกว่า Strike Price ผู้ซื้อ Put Option จะได้รับผลตอบแทน
ในบริบทของไบนารี่ออปชั่น Put Option จะถูกนำมาใช้ในลักษณะที่เทรดเดอร์คาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะลดลง หากการคาดการณ์ถูกต้อง เทรดเดอร์จะได้รับผลตอบแทนตามที่กำหนดไว้ แต่หากการคาดการณ์ผิดพลาด เทรดเดอร์จะสูญเสียเงินลงทุน
กลไกการทำงานของ Put Option ในไบนารี่ออปชั่น
เมื่อคุณซื้อ Put Option คุณกำลังเดิมพันว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะลดลง ณ วันหมดอายุของออปชั่น ขั้นตอนการทำงานมีดังนี้:
1. **เลือกสินทรัพย์อ้างอิง:** เลือกสินทรัพย์ที่คุณต้องการเทรด เช่น หุ้น Apple, ทองคำ, หรือคู่สกุลเงิน EUR/USD 2. **เลือก Strike Price:** กำหนดราคาที่คุณคาดการณ์ว่าสินทรัพย์อ้างอิงจะต่ำกว่า ณ วันหมดอายุ Strike Price จะเป็นราคาที่คุณสามารถขายสินทรัพย์อ้างอิงได้ 3. **เลือกวันหมดอายุ (Expiration Date):** กำหนดระยะเวลาที่คุณต้องการให้ Put Option มีผลบังคับใช้ ซึ่งอาจเป็น 5 นาที, 30 นาที, 1 ชั่วโมง, หรือระยะเวลาอื่นๆ ที่แพลตฟอร์มไบนารี่ออปชั่นมีให้ 4. **ลงทุน:** กำหนดจำนวนเงินที่คุณต้องการลงทุนในการซื้อ Put Option 5. **รอผลลัพธ์:** เมื่อถึงวันหมดอายุ หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงต่ำกว่า Strike Price คุณจะได้รับผลตอบแทนตามที่แพลตฟอร์มกำหนด หากราคาสูงกว่าหรือเท่ากับ Strike Price คุณจะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด
ตัวอย่างการซื้อ Put Option
สมมติว่าคุณคาดการณ์ว่าราคาหุ้น Tesla จะลดลง คุณตัดสินใจซื้อ Put Option ด้วยเงื่อนไขดังนี้:
- **สินทรัพย์อ้างอิง:** หุ้น Tesla (TSLA)
- **Strike Price:** 200 ดอลลาร์สหรัฐ
- **วันหมดอายุ:** 1 ชั่วโมง
- **เงินลงทุน:** 50 ดอลลาร์สหรัฐ
หาก ณ วันหมดอายุ ราคาหุ้น Tesla อยู่ที่ 195 ดอลลาร์สหรัฐ คุณจะได้รับผลตอบแทน (เช่น 70% ของเงินลงทุน) เนื่องจากราคาหุ้นต่ำกว่า Strike Price
แต่หาก ณ วันหมดอายุ ราคาหุ้น Tesla อยู่ที่ 205 ดอลลาร์สหรัฐ คุณจะสูญเสียเงินลงทุน 50 ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากราคาหุ้นสูงกว่า Strike Price
ข้อดีและข้อเสียของการซื้อ Put Option
| ข้อดี | ข้อเสีย | | -------------------------------------- | -------------------------------------- | | สามารถทำกำไรได้เมื่อตลาดราคาลดลง | มีความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด | | สามารถจำกัดความเสี่ยงได้ (จำนวนเงินลงทุน) | ผลตอบแทนอาจไม่สูงมากนัก | | เหมาะสำหรับการเทรดในตลาดที่มีแนวโน้มขาลง | ต้องมีการวิเคราะห์ตลาดอย่างแม่นยำ | | สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยง | เวลาในการหมดอายุที่จำกัด |
กลยุทธ์การเทรด Put Option
1. **Trend Following:** ใช้ การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) เพื่อระบุแนวโน้มขาลงของสินทรัพย์อ้างอิง และซื้อ Put Option เมื่อราคาปรับตัวลงตามแนวโน้ม 2. **Breakout Strategy:** รอให้ราคาของสินทรัพย์อ้างอิงทะลุแนวรับ (Support Level) ที่สำคัญ แล้วซื้อ Put Option โดยคาดหวังว่าราคาจะลดลงต่อเนื่อง 3. **Reversal Strategy:** ค้นหาสัญญาณของการกลับตัวของแนวโน้มจากขาขึ้นเป็นขาลง (เช่น รูปแบบแท่งเทียนแบบ Bearish Engulfing หรือ Double Top) แล้วซื้อ Put Option 4. **ข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญ:** ติดตามข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง เช่น รายงานผลประกอบการ, การประกาศนโยบายเศรษฐกิจ, หรือเหตุการณ์ทางการเมือง แล้วซื้อ Put Option หากคาดว่าข่าวสารเหล่านั้นจะทำให้ราคาลดลง 5. **Straddle Strategy (ในบางแพลตฟอร์ม):** ซื้อทั้ง Call Option และ Put Option พร้อมกัน โดยคาดหวังว่าราคาจะผันผวนอย่างรุนแรงในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง (แม้จะไม่ใช่กลยุทธ์ Put Option โดยตรง แต่ก็เกี่ยวข้องกับการใช้ Option)
การวิเคราะห์ทางเทคนิคที่สำคัญสำหรับการซื้อ Put Option
- **แนวรับ (Support Level):** ระดับราคาที่คาดว่าจะมีการซื้อเข้ามามากพอที่จะหยุดการลดลงของราคา การทะลุแนวรับอาจเป็นสัญญาณของการลดลงของราคา
- **แนวต้าน (Resistance Level):** ระดับราคาที่คาดว่าจะมีการขายออกมามากพอที่จะหยุดการเพิ่มขึ้นของราคา การไม่สามารถทะลุแนวต้านอาจเป็นสัญญาณของการลดลงของราคา
- **เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average):** ใช้เพื่อระบุแนวโน้มของราคา หากราคาอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ อาจเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาลง
- **ดัชนีความแข็งแกร่งเชิงสัมพันธ์ (Relative Strength Index - RSI):** ใช้เพื่อวัดความเร็วและขนาดของการเปลี่ยนแปลงราคา หาก RSI สูงกว่า 70 อาจบ่งบอกว่าสินทรัพย์อ้างอิงอยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) และมีโอกาสที่จะปรับตัวลดลง
- **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** ใช้เพื่อระบุการเปลี่ยนแปลงในแนวโน้มของราคาและการโมเมนตัม
การบริหารความเสี่ยงในการซื้อ Put Option
- **กำหนดจำนวนเงินลงทุนที่รับได้:** ไม่ควรลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้
- **ใช้ Stop-Loss:** กำหนดระดับราคาที่คุณจะยอมรับการสูญเสีย เพื่อจำกัดความเสียหายหากราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง
- **กระจายความเสี่ยง:** อย่าลงทุนในสินทรัพย์อ้างอิงเพียงอย่างเดียว กระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์หลายประเภท
- **ทำความเข้าใจกับแพลตฟอร์มไบนารี่ออปชั่น:** เรียนรู้เกี่ยวกับค่าธรรมเนียม, เงื่อนไขการซื้อขาย, และนโยบายการถอนเงินของแพลตฟอร์มที่คุณใช้
- **ฝึกฝนด้วยบัญชี Demo:** ก่อนที่จะลงทุนด้วยเงินจริง ฝึกฝนการเทรดด้วยบัญชี Demo เพื่อทำความเข้าใจกลไกการทำงานและทดสอบกลยุทธ์ต่างๆ
การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis)
การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายสามารถช่วยยืนยันสัญญาณที่ได้จากการวิเคราะห์ทางเทคนิคได้ หากปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นเมื่อราคาลดลง อาจเป็นสัญญาณยืนยันว่าแนวโน้มขาลงกำลังแข็งแกร่งขึ้น การใช้ Volume Weighted Average Price (VWAP) ก็สามารถช่วยระบุจุดเข้าซื้อขายที่ดีได้
แนวโน้มและรูปแบบการเคลื่อนที่ของราคา (Trends and Chart Patterns)
การระบุแนวโน้ม (ขาขึ้น, ขาลง, หรือ Sideways) และรูปแบบการเคลื่อนที่ของราคา (เช่น Head and Shoulders, Double Top, Double Bottom) สามารถช่วยในการตัดสินใจซื้อ Put Option ได้ รูปแบบ Bearish เช่น Head and Shoulders มักเป็นสัญญาณของการลดลงของราคา
กลยุทธ์ขั้นสูงที่เกี่ยวข้อง
- **Iron Condor:** กลยุทธ์ที่ซับซ้อนที่ใช้ทั้ง Call และ Put Option เพื่อทำกำไรจากความผันผวนที่ต่ำ
- **Butterfly Spread:** กลยุทธ์ที่ใช้ Call และ Put Option เพื่อทำกำไรจากราคาที่คาดว่าจะอยู่ในช่วงแคบๆ
- **Covered Put:** กลยุทธ์ที่ขาย Put Option ขณะที่ถือครองสินทรัพย์อ้างอิงอยู่แล้ว
- **Protective Put:** กลยุทธ์ที่ซื้อ Put Option เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลดลงของราคาของสินทรัพย์อ้างอิงที่ถือครองอยู่
- **Ratio Put Spread:** กลยุทธ์ที่ซื้อและขาย Put Option ในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
- Investopedia - เว็บไซต์ให้ความรู้ด้านการเงินและการลงทุน
- Babypips - เว็บไซต์ให้ความรู้ด้าน Forex และการเทรด
- TradingView - แพลตฟอร์มสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิคและ Social Networking สำหรับเทรดเดอร์
สรุป
การซื้อ Put Option เป็นกลยุทธ์ที่มีศักยภาพในการทำกำไรในตลาดที่มีแนวโน้มขาลง แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ การทำความเข้าใจกลไกการทำงาน, การวิเคราะห์ตลาด, และการบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเทรด Put Option ให้ประสบความสำเร็จ การฝึกฝนและเรียนรู้อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในตลาดไบนารี่ออปชั่น
การวิเคราะห์ทางเทคนิค ไบนารี่ออปชั่น แนวรับ แนวต้าน เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ดัชนีความแข็งแกร่งเชิงสัมพันธ์ MACD การบริหารความเสี่ยง การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย Trend Following Breakout Strategy Reversal Strategy VWAP รูปแบบแท่งเทียน Iron Condor Butterfly Spread Covered Put Protective Put Ratio Put Spread Investopedia Babypips TradingView การเทรด การลงทุน ตลาดการเงิน
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
