กลยุทธ์ Range Bound Option

กลยุทธ์ Range Bound Option สำหรับผู้เริ่มต้น

กลยุทธ์ Range Bound Option (หรือที่เรียกว่า Boundary Option) เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมในตลาด ไบนารี่ออปชั่น เนื่องจากมีความยืดหยุ่นและสามารถทำกำไรได้ทั้งในตลาดที่มีแนวโน้มเป็น Sideways หรือช่วงแคบๆ บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับกลยุทธ์นี้ เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการทำความเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้ในการเทรด

Range Bound Option คืออะไร?

Range Bound Option เป็นประเภทของ ออปชั่นไบนารี่ ที่ผู้เทรดคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะอยู่ในช่วง (Range) ที่กำหนดไว้ ณ เวลาหมดอายุ (Expiry Time) โดยมีขอบเขตบน (Upper Boundary) และขอบเขตล่าง (Lower Boundary) กำหนดไว้ หากราคา ณ เวลาหมดอายุอยู่ในช่วงที่กำหนด ผู้เทรดจะได้รับผลตอบแทนตามที่กำหนดไว้ หากราคานอกช่วงที่กำหนด ผู้เทรดจะเสียเงินลงทุนทั้งหมด

ประเภทของ Range Bound Option

มีสองประเภทหลักของ Range Bound Option:

High/Low Option (หรือ Up/Down Option): ผู้เทรดคาดการณ์ว่าราคาจะอยู่ “สูงกว่า” หรือ “ต่ำกว่า” ขอบเขตที่กำหนด
In/Out Option (หรือ Boundary Option): ผู้เทรดคาดการณ์ว่าราคาจะ “อยู่ใน” หรือ “ออกนอก” ขอบเขตที่กำหนด

วิธีการทำงานของ Range Bound Option

สมมติว่าคุณต้องการเทรด Range Bound Option บนคู่เงิน EUR/USD โดยกำหนดขอบเขตบนที่ 1.1050 และขอบเขตล่างที่ 1.0950 และคุณเลือกที่จะซื้อ "In" Option ซึ่งหมายความว่าคุณคาดการณ์ว่าราคา EUR/USD จะอยู่ในช่วง 1.0950 ถึง 1.1050 ณ เวลาหมดอายุ

ถ้า ณ เวลาหมดอายุ ราคา EUR/USD อยู่ระหว่าง 1.0950 และ 1.1050 คุณจะได้รับผลตอบแทนตามที่กำหนด (เช่น 70-90%)
ถ้า ณ เวลาหมดอายุ ราคา EUR/USD สูงกว่า 1.1050 หรือต่ำกว่า 1.0950 คุณจะเสียเงินลงทุนทั้งหมด

ข้อดีและข้อเสียของกลยุทธ์ Range Bound Option

ข้อดี:

เหมาะกับตลาด Sideways: กลยุทธ์นี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับตลาดที่ไม่มีแนวโน้มชัดเจน (Sideways market) ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ยากต่อการทำกำไรด้วยกลยุทธ์แนวโน้ม (Trend-following strategies)
ความยืดหยุ่น: สามารถปรับช่วง (Range) ได้ตามความเสี่ยงที่รับได้ และระยะเวลาการหมดอายุ (Expiry Time)
โอกาสในการทำกำไรสูง: หากคาดการณ์ได้ถูกต้อง ผลตอบแทนสามารถสูงถึง 70-90%

ข้อเสีย:

ความเสี่ยงสูง: หากคาดการณ์ผิดพลาด จะเสียเงินลงทุนทั้งหมด
การกำหนดช่วงที่เหมาะสม: การกำหนดช่วงที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ หากช่วงแคบเกินไป อาจทำให้ราคาหลุดออกจากช่วงได้ง่าย หากช่วงกว้างเกินไป อาจทำให้ผลตอบแทนลดลง
ผลกระทบจากข่าว: ข่าวสำคัญอาจทำให้ราคาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและหลุดออกจากช่วงที่กำหนดได้

การวิเคราะห์เพื่อใช้กลยุทธ์ Range Bound Option

การวิเคราะห์ที่สำคัญสำหรับการใช้กลยุทธ์นี้ประกอบด้วย:

การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis): ใช้ เครื่องมือทางเทคนิค เช่น Bollinger Bands, Relative Strength Index (RSI), Moving Averages เพื่อระบุช่วงราคาที่เป็นไปได้ และประเมินความผันผวนของตลาด
การวิเคราะห์แนวโน้ม (Trend Analysis): แม้ว่ากลยุทธ์นี้เหมาะกับตลาด Sideways แต่การเข้าใจแนวโน้มปัจจุบันก็สำคัญ หากตลาดมีแนวโน้มที่แข็งแกร่ง ควรหลีกเลี่ยงการใช้กลยุทธ์นี้
การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis): ปริมาณการซื้อขายที่สูงอาจบ่งบอกถึงความผันผวนที่มากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อการเลือกช่วงที่เหมาะสม
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis): ข่าวเศรษฐกิจและการประกาศผลประกอบการของบริษัทอาจส่งผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง ควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด

การกำหนดช่วง (Range) ที่เหมาะสม

การกำหนดช่วงที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการใช้กลยุทธ์ Range Bound Option มีหลายวิธีในการกำหนดช่วง:

ใช้ Bollinger Bands: Bollinger Bands เป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่แสดงช่วงราคาที่คาดว่าจะเกิดขึ้น โดย Upper Band และ Lower Band สามารถใช้เป็นขอบเขตบนและขอบเขตล่างได้
ใช้ Support และ Resistance: ระดับ Support และ Resistance เป็นระดับราคาที่ราคาเคยหยุดพักหรือกลับตัว สามารถใช้เป็นขอบเขตบนและขอบเขตล่างได้
ใช้ Average True Range (ATR): ATR เป็นเครื่องมือที่วัดความผันผวนของราคา สามารถใช้ในการกำหนดความกว้างของช่วง โดยช่วงที่กว้างขึ้นเหมาะกับตลาดที่มีความผันผวนสูง
Backtesting: ทดสอบกลยุทธ์ย้อนหลัง (Backtesting) เพื่อดูว่าช่วงที่กำหนดไว้สามารถทำกำไรได้หรือไม่

การจัดการความเสี่ยง (Risk Management)

การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในการเทรด ไบนารี่ออปชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงสูงเช่น Range Bound Option:

กำหนดขนาดการลงทุน: ไม่ควรลงทุนเกิน 5-10% ของเงินทุนทั้งหมดในแต่ละ Trade
ใช้ Stop Loss: แม้ว่า Range Bound Option จะไม่มี Stop Loss แบบดั้งเดิม แต่คุณสามารถจำกัดความเสี่ยงได้โดยการเลือกระยะเวลาการหมดอายุ (Expiry Time) ที่สั้นลง
Diversification: กระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์อ้างอิงหลายประเภท เพื่อลดความเสี่ยง
ทำความเข้าใจกับความเสี่ยง: ตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์นี้ และลงทุนเฉพาะเงินที่คุณสามารถยอมรับการสูญเสียได้

ตัวอย่างการเทรด Range Bound Option

สมมติว่าคุณกำลังเทรดคู่เงิน GBP/USD และคุณสังเกตเห็นว่าราคาอยู่ในช่วงแคบๆ ระหว่าง 1.2500 และ 1.2600 คุณตัดสินใจใช้กลยุทธ์ Range Bound Option โดยกำหนดขอบเขตบนที่ 1.2600 และขอบเขตล่างที่ 1.2500 และเลือก "In" Option ด้วยระยะเวลาหมดอายุ 1 ชั่วโมง

ถ้า ณ เวลาหมดอายุ ราคา GBP/USD อยู่ระหว่าง 1.2500 และ 1.2600 คุณจะได้รับผลตอบแทน 80%
ถ้า ณ เวลาหมดอายุ ราคา GBP/USD สูงกว่า 1.2600 หรือต่ำกว่า 1.2500 คุณจะเสียเงินลงทุนทั้งหมด

กลยุทธ์เพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง

Straddle Option: กลยุทธ์ที่ใช้เมื่อคาดว่าราคาจะมีความผันผวนสูง
Strangle Option: คล้ายกับ Straddle Option แต่มีขอบเขตที่กว้างกว่า
Butterfly Spread: กลยุทธ์ที่ใช้เมื่อคาดว่าราคาจะอยู่ในช่วงแคบๆ
Covered Call: กลยุทธ์ที่ใช้เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมจากสินทรัพย์ที่คุณถืออยู่
Protective Put: กลยุทธ์ที่ใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลดลงของราคา
Hedging: กลยุทธ์เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน
Scalping: กลยุทธ์การเทรดระยะสั้นเพื่อทำกำไรจากความผันผวนเล็กน้อย
Day Trading: กลยุทธ์การเทรดที่เปิดและปิดสถานะภายในวันเดียวกัน
Swing Trading: กลยุทธ์การเทรดที่ถือสถานะไว้หลายวันหรือหลายสัปดาห์
Position Trading: กลยุทธ์การเทรดระยะยาวที่ถือสถานะไว้หลายเดือนหรือหลายปี
Fibonacci Retracement: เครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้ระบุระดับ Support และ Resistance
Elliott Wave Theory: ทฤษฎีที่ใช้ในการวิเคราะห์รูปแบบราคา
Ichimoku Cloud: เครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้ระบุแนวโน้มและระดับ Support/Resistance
Parabolic SAR: เครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้ระบุจุดกลับตัวของแนวโน้ม
MACD (Moving Average Convergence Divergence): เครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้ระบุแนวโน้มและโมเมนตัม

สรุป

กลยุทธ์ Range Bound Option เป็นกลยุทธ์ที่มีประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการทำกำไรจากตลาด Sideways อย่างไรก็ตาม การใช้กลยุทธ์นี้ต้องอาศัยการวิเคราะห์ที่รอบคอบ การกำหนดช่วงที่เหมาะสม และการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณทำตามคำแนะนำเหล่านี้ คุณจะสามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการเทรด ไบนารี่ออปชั่น ได้

ตัวอย่างการเปรียบเทียบกลยุทธ์
กลยุทธ์	สภาพตลาดที่เหมาะสม	ความเสี่ยง	ผลตอบแทน
Range Bound Option	Sideways	สูง	ปานกลาง-สูง
Trend Following	แนวโน้มชัดเจน	ปานกลาง	ปานกลาง-สูง
Scalping	ผันผวนสูง	สูง	ต่ำ-ปานกลาง
Hedging	ไม่แน่นอน	ต่ำ	ต่ำ

File:BinaryOptionsExample.png

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น