Two Inside Bar Strategy

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. Two Inside Bar Strategy

ไบนารี่ออปชั่น เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยความเรียบง่ายและความสามารถในการสร้างผลตอบแทนที่รวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นก็มีความเสี่ยงเช่นกัน และการมีกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับความสำเร็จ หนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพคือ **Two Inside Bar Strategy** บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกลยุทธ์นี้อย่างละเอียด เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการทำความเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

      1. ทำความเข้าใจกับ Inside Bar

ก่อนที่จะเจาะลึกเข้าไปใน Two Inside Bar Strategy เราจำเป็นต้องเข้าใจก่อนว่า Inside Bar คืออะไร ในทาง การวิเคราะห์ทางเทคนิค Inside Bar คือรูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Pattern) ที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนหนึ่งแท่ง (Mother Bar) ถูกครอบคลุมทั้งหมดโดยแท่งเทียนอีกแท่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในภายหลัง (Baby Bar) นั่นหมายความว่า ราคาสูงสุดของ Baby Bar ต่ำกว่าราคาสูงสุดของ Mother Bar และราคาต่ำสุดของ Baby Bar สูงกว่าราคาต่ำสุดของ Mother Bar

Inside Bar Example
ภาพรวม คำอธิบาย
Mother Bar แท่งเทียนที่มีขนาดใหญ่กว่า
Baby Bar แท่งเทียนที่ถูกบรรจุอยู่ภายใน Mother Bar

Inside Bar มักถูกมองว่าเป็นสัญญาณของการหยุดชะงักของแนวโน้ม (Trend) หรือการรวมตัวของราคา ก่อนที่ราคาจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางใหม่ กลยุทธ์การซื้อขายจำนวนมากใช้ Inside Bar เป็นสัญญาณในการเข้าและออกจากตลาด รูปแบบแท่งเทียน

      1. Two Inside Bar Strategy คืออะไร?

Two Inside Bar Strategy เป็นกลยุทธ์ที่อาศัยการปรากฏของ Inside Bar สองแท่งต่อเนื่องกัน เพื่อเพิ่มความน่าจะเป็นในการคาดการณ์ทิศทางราคาในอนาคต กลยุทธ์นี้ใช้หลักการที่ว่าเมื่อเกิด Inside Bar สองแท่งติดต่อกัน แสดงว่าตลาดกำลังอยู่ในช่วงของการรวมตัวของราคาอย่างมาก และมีความเป็นไปได้สูงที่ราคาจะเคลื่อนที่อย่างรุนแรงในทิศทางใดทิศทางหนึ่งหลังจากนั้น

กลยุทธ์นี้มักใช้ร่วมกับ แนวรับแนวต้าน (Support and Resistance Levels) และ แนวโน้ม (Trends) เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการซื้อขาย

      1. ขั้นตอนการใช้งาน Two Inside Bar Strategy

1. **ระบุแนวโน้ม:** ขั้นตอนแรกคือการระบุแนวโน้มปัจจุบันของสินทรัพย์ที่ต้องการซื้อขาย หากตลาดอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) ให้มองหาโอกาสในการซื้อ (Call Option) และหากตลาดอยู่ในแนวโน้มขาลง (Downtrend) ให้มองหาโอกาสในการขาย (Put Option) สามารถใช้ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) หรือ เส้นแนวโน้ม (Trend Lines) เพื่อช่วยในการระบุแนวโน้ม

2. **ค้นหา Mother Bar:** ค้นหา Mother Bar ที่มีขนาดใหญ่และชัดเจน ซึ่งแสดงถึงแรงผลักดันของราคาในทิศทางหนึ่ง

3. **รอ Inside Bar แรก:** รอให้เกิด Inside Bar แรกที่ถูกครอบคลุมทั้งหมดโดย Mother Bar

4. **รอ Inside Bar ที่สอง:** รอให้เกิด Inside Bar ที่สองที่ถูกครอบคลุมทั้งหมดโดย Inside Bar แรก นี่คือจุดสำคัญของกลยุทธ์นี้ การปรากฏของ Inside Bar สองแท่งติดต่อกันเพิ่มความน่าจะเป็นในการเบรกเอาท์ (Breakout)

5. **ยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขาย:** ตรวจสอบปริมาณการซื้อขาย (Trading Volume) หากปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นในช่วงที่เกิด Inside Bar ที่สอง แสดงว่ามีความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น และโอกาสในการเบรกเอาท์ก็สูงขึ้น การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย

6. **เข้าสู่ตลาด:** เมื่อ Inside Bar ที่สองก่อตัวขึ้น ให้เข้าสู่ตลาดโดยเลือก Call Option หากคาดว่าราคาจะขึ้น และเลือก Put Option หากคาดว่าราคาจะลง

7. **ตั้ง Stop Loss:** ตั้ง Stop Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยง หากการคาดการณ์ผิดพลาด Stop Loss ควรถูกตั้งไว้เหนือราคาสูงสุดของ Mother Bar สำหรับการซื้อ และต่ำกว่าราคาต่ำสุดของ Mother Bar สำหรับการขาย

8. **กำหนด Target Profit:** กำหนด Target Profit ตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และอัตราผลตอบแทนที่ต้องการ

      1. ตัวอย่างการใช้งาน Two Inside Bar Strategy

สมมติว่าคุณกำลังวิเคราะห์กราฟราคาของ EUR/USD และพบว่าตลาดอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง คุณสังเกตเห็น Mother Bar ที่มีขนาดใหญ่ และหลังจากนั้นไม่นานก็เกิด Inside Bar แรก และตามมาด้วย Inside Bar ที่สองที่ถูกครอบคลุมทั้งหมดโดย Inside Bar แรก ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นในช่วงที่เกิด Inside Bar ที่สอง นี่เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าราคาอาจมีการเบรกเอาท์ขึ้นไปข้างบน คุณตัดสินใจเข้าซื้อ Call Option โดยตั้ง Stop Loss เหนือราคาสูงสุดของ Mother Bar และกำหนด Target Profit ที่อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk/Reward Ratio) ที่เหมาะสม

      1. ข้อดีและข้อเสียของ Two Inside Bar Strategy
    • ข้อดี:**
  • **ความแม่นยำสูง:** กลยุทธ์นี้มีความแม่นยำสูงกว่าการใช้ Inside Bar เพียงแท่งเดียว เนื่องจากเป็นการยืนยันสัญญาณด้วย Inside Bar สองแท่ง
  • **สัญญาณที่ชัดเจน:** สัญญาณการซื้อขายมีความชัดเจนและง่ายต่อการระบุ
  • **สามารถใช้ได้กับทุกกรอบเวลา:** กลยุทธ์นี้สามารถใช้ได้กับทุกกรอบเวลา (Timeframes) ตั้งแต่ M5 ไปจนถึงรายวัน
  • **สามารถใช้ร่วมกับกลยุทธ์อื่น ๆ:** สามารถใช้ร่วมกับกลยุทธ์การซื้อขายอื่น ๆ เช่น แนวรับแนวต้าน และ Fibonacci Retracement เพื่อเพิ่มความแม่นยำ
    • ข้อเสีย:**
  • **ต้องใช้ความอดทน:** อาจต้องใช้เวลาในการรอก่อนที่ Inside Bar สองแท่งจะก่อตัวขึ้น
  • **อาจเกิด False Breakout:** บางครั้งอาจเกิด False Breakout ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ราคาเบรกเอาท์ แต่หลังจากนั้นก็กลับตัว
  • **ต้องมีการจัดการความเสี่ยง:** จำเป็นต้องมีการจัดการความเสี่ยงที่ดี เช่น การตั้ง Stop Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยง
      1. การจัดการความเสี่ยง (Risk Management)

การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น ไม่ว่าคุณจะใช้กลยุทธ์ใดก็ตาม สำหรับ Two Inside Bar Strategy ควรปฏิบัติตามหลักการดังต่อไปนี้:

  • **ลงทุนไม่เกิน 5% ของเงินทุนทั้งหมดในการซื้อขายแต่ละครั้ง:** การกระจายความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณลงทุนมากเกินไปในการซื้อขายครั้งเดียว คุณอาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมดได้
  • **ตั้ง Stop Loss เสมอ:** Stop Loss ช่วยจำกัดความเสี่ยง หากการคาดการณ์ของคุณผิดพลาด
  • **กำหนด Target Profit ที่เหมาะสม:** Target Profit ควรคำนึงถึงความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และอัตราผลตอบแทนที่ต้องการ
  • **หลีกเลี่ยงการซื้อขายด้วยอารมณ์:** การซื้อขายด้วยอารมณ์อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด
      1. กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง
      1. สรุป

Two Inside Bar Strategy เป็นกลยุทธ์การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งอาศัยการปรากฏของ Inside Bar สองแท่งติดต่อกัน เพื่อเพิ่มความน่าจะเป็นในการคาดการณ์ทิศทางราคาในอนาคต อย่างไรก็ตาม การใช้กลยุทธ์นี้อย่างประสบความสำเร็จต้องอาศัยความเข้าใจที่ถูกต้อง การฝึกฝน และการจัดการความเสี่ยงที่ดี หากคุณปฏิบัติตามขั้นตอนและหลักการที่กล่าวมาข้างต้น คุณจะสามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นได้

การซื้อขายไบนารี่ออปชั่น เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยง และคุณอาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมดได้ โปรดศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน

การวิเคราะห์กราฟราคา

การจัดการเงินทุน

จิตวิทยาการเทรด

การเลือกโบรกเกอร์

การฝึกฝนด้วยบัญชีทดลอง

การเรียนรู้จากความผิดพลาด

การบันทึกผลการเทรด

การพัฒนาแผนการเทรด

การติดตามข่าวสารตลาด

การวิเคราะห์เศรษฐกิจ

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน

การวิเคราะห์เชิงปริมาณ

การใช้เครื่องมือช่วยเทรด การอ่านสัญญาณเทคนิค

การเข้าใจความเสี่ยง

การควบคุมอารมณ์

การวางแผนการลงทุน

การประเมินผลการลงทุน

การปรับปรุงกลยุทธ์

การเรียนรู้ตลอดชีวิต

การสร้างรายได้จากการเทรด

การลงทุนระยะยาว

การลงทุนระยะสั้น

การลงทุนแบบ Passive

การลงทุนแบบ Active

การลงทุนในตลาด Forex

การลงทุนในตลาดหุ้น

การลงทุนในตลาด Cryptocurrency

การลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์

การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล

การลงทุนในกองทุนรวม

การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

การลงทุนในธุรกิจ Startup

การลงทุนในทองคำ

การลงทุนในน้ำมัน

การลงทุนในข้าว

การลงทุนในยางพารา

การลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ

การวางแผนเกษียณอายุ

การวางแผนการศึกษาบุตร

การวางแผนการซื้อบ้าน

การวางแผนการท่องเที่ยว

การวางแผนการใช้จ่าย

การวางแผนการออม

การวางแผนการลงทุน

การวางแผนภาษี

การวางแผนมรดก

การวางแผนสุขภาพ

การวางแผนชีวิต

การพัฒนาตนเอง

การพัฒนาทักษะการเทรด

การพัฒนาความรู้ทางการเงิน

การพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์

การพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหา

การพัฒนาความสามารถในการตัดสินใจ

การพัฒนาความสามารถในการสื่อสาร

การพัฒนาความสามารถในการทำงานเป็นทีม

การพัฒนาความสามารถในการเป็นผู้นำ

การพัฒนาความสามารถในการจัดการเวลา

การพัฒนาความสามารถในการจัดการความเครียด

การพัฒนาความสามารถในการปรับตัว

การพัฒนาความสามารถในการเรียนรู้ตลอดชีวิต

การสร้างแรงบันดาลใจ

การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี

การสร้างสังคมที่ดี

การสร้างโลกที่ดีขึ้น

การมีชีวิตที่มีความสุข

การมีชีวิตที่มีความหมาย

การมีชีวิตที่ประสบความสำเร็จ (Category:Trading Strategies)

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер