Ratio Spread Strategy

1. Ratio Spread Strategy

Ratio Spread Strategy เป็นกลยุทธ์การซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น ที่ซับซ้อน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการซื้อและขาย ออปชั่น ในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรเมื่อเทียบกับการซื้อหรือขายออปชั่นเพียงอย่างเดียว กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีความเข้าใจใน ตลาดออปชั่น และมีความคาดหวังเกี่ยวกับทิศทางราคาของสินทรัพย์อ้างอิงที่ค่อนข้างชัดเจน

หลักการพื้นฐานของ Ratio Spread

Ratio Spread คือการรวม Call Option หรือ Put Option เข้าด้วยกัน โดยมีจำนวนสัญญาที่ซื้อและขายแตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น นักลงทุนอาจซื้อ Call Option 1 สัญญาและขาย Call Option 2 สัญญา หรือซื้อ Put Option 2 สัญญาและขาย Put Option 1 สัญญา อัตราส่วนระหว่างจำนวนสัญญาที่ซื้อและขายนี้เป็นสิ่งที่กำหนดลักษณะของกลยุทธ์ และส่งผลต่อผลตอบแทนและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

กลยุทธ์ Ratio Spread มักถูกใช้เมื่อนักลงทุนคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะเคลื่อนไหวในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง แต่ไม่มั่นใจในขอบเขตของการเคลื่อนไหว หรือต้องการลดต้นทุนในการซื้อออปชั่น โดยการสร้างรายได้จากการขายออปชั่น

ประเภทของ Ratio Spread

มี Ratio Spread หลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะและเหมาะกับสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป:

• Call Ratio Spread (หรือ Call Spread with Ratio) : กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อ Call Option หนึ่งสัญญา และขาย Call Option สองสัญญาที่มีราคาใช้สิทธิ (Strike Price) ที่สูงกว่า กลยุทธ์นี้ทำกำไรได้ดีหากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่มีจำกัด และอาจขาดทุนได้หากราคาเพิ่มขึ้นอย่างมาก หรือลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
• Put Ratio Spread (หรือ Put Spread with Ratio) : คล้ายกับ Call Ratio Spread แต่ใช้ Put Option แทน กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อ Put Option หนึ่งสัญญา และขาย Put Option สองสัญญาที่มีราคาใช้สิทธิที่ต่ำกว่า กลยุทธ์นี้ทำกำไรได้ดีหากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงลดลงเล็กน้อย แต่มีจำกัด และอาจขาดทุนได้หากราคาลดลงอย่างมาก หรือเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
• Ratio Call Spread (หรือ Diagonal Ratio Spread) : กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อ Call Option ที่มีวันหมดอายุหนึ่งวัน และขาย Call Option ที่มีราคาใช้สิทธิเดียวกัน แต่มีวันหมดอายุที่แตกต่างกัน กลยุทธ์นี้ซับซ้อนกว่า และต้องการความเข้าใจในการกำหนดราคา Time Decay และ Volatility
• Ratio Put Spread (หรือ Diagonal Put Spread) : คล้ายกับ Ratio Call Spread แต่ใช้ Put Option แทน

การสร้าง Ratio Spread: ตัวอย่าง Call Ratio Spread

สมมติว่าคุณเชื่อว่าหุ้น XYZ จะเคลื่อนไหวขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่มากนัก คุณสามารถใช้ Call Ratio Spread เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้

• ซื้อ Call Option XYZ ที่มีราคาใช้สิทธิ 50 บาท (Strike Price = 50) ในราคา 2 บาทต่อหุ้น
• ขาย Call Option XYZ สองสัญญาที่มีราคาใช้สิทธิ 55 บาท (Strike Price = 55) ในราคา 0.50 บาทต่อหุ้น

ในกรณีนี้ อัตราส่วนคือ 1:2 (ซื้อ 1 สัญญา ขาย 2 สัญญา)

ตัวอย่างการคำนวณต้นทุนและกำไรสูงสุด

การดำเนินการ	จำนวนสัญญา	ราคาใช้สิทธิ	ราคาออปชั่น	ต้นทุน/รายได้
ซื้อ Call	1	50 บาท	2 บาท	2 บาท
	ขาย Call	2	55 บาท	0.50 บาท	-1 บาท (2 x 0.50)
รวม					1 บาท

• **ต้นทุนสุทธิ:** 2 บาท (ซื้อ) – 1 บาท (ขาย) = 1 บาทต่อหุ้น
• **จุดคุ้มทุน:** 50 บาท (ราคาใช้สิทธิของ Call ที่ซื้อ) + 1 บาท (ต้นทุนสุทธิ) = 51 บาท
• **กำไรสูงสุด:** (55 บาท - 50 บาท) - 1 บาท = 4 บาทต่อหุ้น (จำกัดอยู่ที่ความแตกต่างระหว่างราคาใช้สิทธิลบด้วยต้นทุนสุทธิ)

หากราคาหุ้น XYZ ปิดที่ 54 บาท ณ วันหมดอายุ คุณจะได้รับกำไร 4 บาทต่อหุ้น (54-50-1=3) แต่ถ้าหุ้น XYZ ปิดที่ 60 บาท คุณจะขาดทุน (โดยจำกัดไว้ที่ต้นทุนเริ่มต้น)

การเลือกราคาใช้สิทธิและวันหมดอายุ

การเลือกราคาใช้สิทธิ (Strike Price) และวันหมดอายุ (Expiration Date) ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการสร้าง Ratio Spread ที่ประสบความสำเร็จ

• **ราคาใช้สิทธิ:** ควรเลือกราคาใช้สิทธิที่สอดคล้องกับความคาดหวังของคุณเกี่ยวกับทิศทางราคาของสินทรัพย์อ้างอิง หากคุณคาดว่าราคาจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ให้เลือกราคาใช้สิทธิที่สูงกว่าราคาปัจจุบันเล็กน้อย
• **วันหมดอายุ:** ควรเลือกวันหมดอายุที่สอดคล้องกับระยะเวลาที่คุณคาดการณ์ว่าราคาจะเคลื่อนไหว หากคุณคาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวในระยะสั้น ให้เลือกวันหมดอายุที่ใกล้เคียง หากคุณคาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวในระยะยาว ให้เลือกวันหมดอายุที่ไกลออกไป

ความเสี่ยงและข้อควรระวัง

แม้ว่า Ratio Spread จะช่วยลดความเสี่ยงได้บ้าง แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอยู่

• **ความเสี่ยงจากการเคลื่อนไหวของราคาที่ผิดพลาด:** หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับที่คุณคาดการณ์ คุณอาจขาดทุนได้
• **ความเสี่ยงจาก Time Decay:** Theta หรือ Time Decay สามารถส่งผลกระทบต่อราคาของออปชั่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใกล้ถึงวันหมดอายุ
• **ความเสี่ยงจาก Volatility:** การเปลี่ยนแปลงของ Implied Volatility สามารถส่งผลกระทบต่อราคาของออปชั่นได้
• **ความซับซ้อน:** Ratio Spread เป็นกลยุทธ์ที่ซับซ้อน และต้องการความเข้าใจในตลาดออปชั่นและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง

การจัดการความเสี่ยง

เพื่อลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ Ratio Spread คุณควร:

• **กำหนดขนาด Position ที่เหมาะสม:** อย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้
• **ใช้ Stop-Loss Order:** ตั้ง Stop-Loss Order เพื่อจำกัดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น
• **ติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด:** ติดตามการเคลื่อนไหวของราคาและปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาของออปชั่น
• **ทำความเข้าใจกับความเสี่ยงทั้งหมด:** ก่อนที่จะทำการซื้อขาย Ratio Spread ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง

Ratio Spread กับกลยุทธ์อื่นๆ

Ratio Spread แตกต่างจากกลยุทธ์อื่นๆ เช่น:

• **Covered Call:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการขาย Call Option บนหุ้นที่คุณถืออยู่แล้ว เป็นกลยุทธ์ที่อนุรักษ์นิยมกว่า และมักใช้เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม
• **Protective Put:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อ Put Option เพื่อป้องกันการลดลงของราคาหุ้นที่คุณถืออยู่ เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เพื่อลดความเสี่ยง
• **Straddle:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อ Call Option และ Put Option ที่มีราคาใช้สิทธิและวันหมดอายุเดียวกัน เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เมื่อคาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวอย่างมีนัยสำคัญ แต่ไม่รู้ทิศทาง
• **Strangle:** คล้ายกับ Straddle แต่ใช้ราคาใช้สิทธิที่แตกต่างกัน เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เมื่อคาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวอย่างมาก แต่ต้องการต้นทุนที่ต่ำกว่า

การวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานในการใช้ Ratio Spread

การใช้ Ratio Spread ร่วมกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้

• **การวิเคราะห์ทางเทคนิค:** ใช้ Moving Averages, Relative Strength Index (RSI), MACD และเครื่องมืออื่นๆ เพื่อระบุแนวโน้มและระดับแนวรับแนวต้าน
• **การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน:** วิเคราะห์รายงานทางการเงินของบริษัท ข่าวสาร และปัจจัยทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง
• **การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis):** ตรวจสอบปริมาณการซื้อขายเพื่อยืนยันแนวโน้มและระบุสัญญาณการกลับตัว

สรุป

Ratio Spread Strategy เป็นกลยุทธ์ที่ซับซ้อน แต่สามารถเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับนักลงทุนที่มีความเข้าใจในตลาดออปชั่นและต้องการลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร การเลือกราคาใช้สิทธิและวันหมดอายุที่เหมาะสม การจัดการความเสี่ยง และการใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานเป็นสิ่งสำคัญในการสร้าง Ratio Spread ที่ประสบความสำเร็จ

ออปชั่น Binary Option Call Option Put Option Strike Price Expiration Date Volatility Implied Volatility Time Decay Theta Covered Call Protective Put Straddle Strangle Moving Averages Relative Strength Index (RSI) MACD การวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย กลยุทธ์การซื้อขายออปชั่น Hedging Risk Management Options Trading Binary Options Trading (Category:Options Trading Strategies)

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น