Pivot Point Breakout

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. Pivot Point Breakout
    • Pivot Point Breakout** เป็นกลยุทธ์การซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากมีความเข้าใจง่ายและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับหลากหลายกรอบเวลา (timeframe) และสินทรัพย์ต่างๆ กลยุทธ์นี้อาศัยการระบุระดับแนวรับแนวต้านสำคัญผ่านการคำนวณ Pivot Point และการรอสัญญาณการทะลุ (breakout) ระดับเหล่านั้นเพื่อเข้าทำการซื้อขาย บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับ Pivot Point Breakout สำหรับผู้เริ่มต้น ตั้งแต่แนวคิดพื้นฐาน, วิธีการคำนวณ, การระบุสัญญาณ, การจัดการความเสี่ยง, ไปจนถึงการประยุกต์ใช้ร่วมกับเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ
      1. แนวคิดพื้นฐานของ Pivot Point

Pivot Point คือจุดสำคัญที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อคาดการณ์แนวโน้มราคาในอนาคต โดย Pivot Point ถูกคำนวณจากราคา High, Low และ Close ของช่วงเวลาที่กำหนด (เช่น วัน, สัปดาห์, เดือน) แนวคิดเบื้องหลังคือ ราคาจะมักจะตอบสนองต่อระดับ Pivot Point เหล่านี้ และใช้เป็นแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ

  • **Pivot Point (PP):** จุดศูนย์กลางที่ใช้เป็นจุดอ้างอิง
  • **Resistance Levels (R1, R2, R3):** ระดับแนวต้านที่คาดว่าราคาจะถูกปฏิเสธและกลับตัวลง
  • **Support Levels (S1, S2, S3):** ระดับแนวรับที่คาดว่าราคาจะได้รับการสนับสนุนและดีดตัวขึ้น
      1. วิธีการคำนวณ Pivot Point

การคำนวณ Pivot Point สามารถทำได้ง่ายๆ โดยใช้สูตรดังนี้:

  • **Pivot Point (PP) = (High + Low + Close) / 3**
  • **Resistance 1 (R1) = (2 x PP) - Low**
  • **Resistance 2 (R2) = PP + (High - Low)**
  • **Resistance 3 (R3) = High + 2 x (PP - Low)**
  • **Support 1 (S1) = (2 x PP) - High**
  • **Support 2 (S2) = PP - (High - Low)**
  • **Support 3 (S3) = Low - 2 x (High - PP)**

ตัวอย่าง: สมมติว่าราคาของสินทรัพย์หนึ่งๆ ในวันก่อนหน้าคือ:

  • High = 1.1200
  • Low = 1.1000
  • Close = 1.1100

จากการคำนวณจะได้:

  • PP = (1.1200 + 1.1000 + 1.1100) / 3 = 1.1100
  • R1 = (2 x 1.1100) - 1.1000 = 1.1200
  • R2 = 1.1100 + (1.1200 - 1.1000) = 1.1300
  • R3 = 1.1200 + 2 x (1.1100 - 1.1000) = 1.1400
  • S1 = (2 x 1.1100) - 1.1200 = 1.1000
  • S2 = 1.1100 - (1.1200 - 1.1000) = 1.0900
  • S3 = 1.1000 - 2 x (1.1200 - 1.1100) = 1.0800
      1. การระบุสัญญาณ Breakout

สัญญาณ Breakout เกิดขึ้นเมื่อราคาเคลื่อนที่ทะลุระดับแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ การระบุสัญญาณ Breakout สามารถทำได้ดังนี้:

  • **Breakout เหนือแนวต้าน (Bullish Breakout):** เมื่อราคาเคลื่อนที่เหนือระดับแนวต้านที่สำคัญ (เช่น R1, R2, R3) และปิดเหนือระดับนั้นได้ ถือว่าเป็นสัญญาณซื้อ (Call Option)
  • **Breakout ใต้แนวรับ (Bearish Breakout):** เมื่อราคาเคลื่อนที่ต่ำกว่าระดับแนวรับที่สำคัญ (เช่น S1, S2, S3) และปิดต่ำกว่าระดับนั้นได้ ถือว่าเป็นสัญญาณขาย (Put Option)
    • การยืนยันสัญญาณ:** การยืนยันสัญญาณ Breakout เป็นสิ่งสำคัญเพื่อลดความเสี่ยงในการซื้อขายผิดพลาด สามารถยืนยันสัญญาณได้โดย:
  • **ปริมาณการซื้อขาย (Volume):** ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นในช่วง Breakout จะช่วยยืนยันว่า Breakout นั้นมีความแข็งแกร่ง
  • **การกลับไปทดสอบ (Retest):** หลังจาก Breakout ราคาอาจจะมีการกลับไปทดสอบระดับที่เพิ่งทะลุ หากราคายังคงไม่สามารถกลับลงมาต่ำกว่าระดับแนวรับหรือสูงกว่าระดับแนวต้านได้ แสดงว่า Breakout นั้นมีความน่าเชื่อถือ
  • **เครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ:** การใช้เครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Moving Average, RSI, MACD เพื่อยืนยันสัญญาณ Breakout
      1. การจัดการความเสี่ยง

การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้กลยุทธ์ Pivot Point Breakout:

  • **Stop Loss:** กำหนดระดับ Stop Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยงหาก Breakout นั้นเป็นสัญญาณหลอก (False Breakout)
  • **Take Profit:** กำหนดระดับ Take Profit เพื่อล็อคผลกำไรเมื่อราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่คาดการณ์ไว้
  • **ขนาดของการลงทุน:** ควรกำหนดขนาดของการลงทุนในแต่ละครั้งให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ไม่ควรลงทุนเกิน 5-10% ของเงินทุนทั้งหมด
  • **การกระจายความเสี่ยง:** กระจายความเสี่ยงโดยการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย
      1. การประยุกต์ใช้ร่วมกับเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ

การใช้ Pivot Point Breakout ร่วมกับเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการซื้อขาย:

  • **Trend Lines:** ใช้ Trend Lines เพื่อยืนยันแนวโน้มราคา หาก Breakout เกิดขึ้นในทิศทางเดียวกับแนวโน้มราคา จะมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
  • **Fibonacci Retracement:** ใช้ Fibonacci Retracement เพื่อระบุระดับแนวรับแนวต้านเพิ่มเติม
  • **Support and Resistance:** ใช้การวิเคราะห์ Support and Resistance เพื่อยืนยันระดับแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
  • **Candlestick Patterns:** ใช้รูปแบบแท่งเทียน (เช่น Engulfing Pattern, Hammer, Shooting Star) เพื่อยืนยันสัญญาณ Breakout
  • **Bollinger Bands:** ใช้ Bollinger Bands เพื่อวัดความผันผวนของราคา และระบุสัญญาณ Overbought/Oversold
      1. กลยุทธ์การซื้อขายที่เกี่ยวข้อง
  • **Breakout Trading:** กลยุทธ์หลักที่ใช้สัญญาณ Breakout ในการเข้าซื้อขาย
  • **Range Trading:** ใช้ Pivot Point เพื่อระบุช่วงราคา (range) และทำการซื้อขายเมื่อราคาทะลุขอบเขตของช่วงราคา
  • **Scalping:** ใช้ Pivot Point ในการซื้อขายระยะสั้นเพื่อทำกำไรเล็กน้อย
  • **Day Trading:** ใช้ Pivot Point ในการซื้อขายภายในวันเดียว
  • **Swing Trading:** ใช้ Pivot Point ในการซื้อขายระยะกลางเพื่อทำกำไรจากแนวโน้มราคา
      1. การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพิ่มเติม
  • **Chart Patterns:** การวิเคราะห์รูปแบบกราฟ (เช่น Head and Shoulders, Double Top, Double Bottom)
  • **Elliott Wave Theory:** ทฤษฎีคลื่นเอลเลียตต์เพื่อคาดการณ์แนวโน้มราคา
  • **Ichimoku Cloud:** ระบบ Ichimoku Cloud เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มราคาและระดับแนวรับแนวต้าน
      1. การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย
  • **Volume Spread Analysis (VSA):** การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายและความสัมพันธ์กับราคา
  • **On Balance Volume (OBV):** ตัวชี้วัด OBV เพื่อวัดแรงซื้อขาย
  • **Accumulation/Distribution Line (A/D Line):** เส้น A/D เพื่อวัดแรงซื้อขาย
      1. ข้อควรระวัง
  • **False Breakout:** สัญญาณ Breakout อาจเป็นสัญญาณหลอกได้ ดังนั้นควรยืนยันสัญญาณก่อนทำการซื้อขาย
  • **Market Volatility:** ความผันผวนของตลาดอาจส่งผลกระทบต่อความแม่นยำของ Pivot Point
  • **Timeframe:** การเลือกกรอบเวลาที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ กรอบเวลาที่สั้นเกินไปอาจมีสัญญาณรบกวนมากเกินไป ในขณะที่กรอบเวลาที่ยาวเกินไปอาจทำให้พลาดโอกาสในการซื้อขาย
      1. สรุป

Pivot Point Breakout เป็นกลยุทธ์การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นที่ง่ายต่อการเรียนรู้และนำไปใช้ได้จริง การทำความเข้าใจแนวคิดพื้นฐาน, วิธีการคำนวณ, การระบุสัญญาณ, การจัดการความเสี่ยง, และการประยุกต์ใช้ร่วมกับเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ Pivot Point Breakout
กรอบเวลา สินทรัพย์ สัญญาณ การตัดสินใจ
15 นาที EUR/USD ราคาทะลุ R1 พร้อมปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น ซื้อ (Call Option)
1 ชั่วโมง GBP/JPY ราคาทะลุ S2 พร้อมรูปแบบแท่งเทียน Bearish Engulfing ขาย (Put Option)
4 ชั่วโมง USD/CAD ราคาทะลุ R2 และยืนยันด้วย Trend Line ซื้อ (Call Option)
รายวัน ทองคำ (XAU/USD) ราคาทะลุ S3 และกลับไปทดสอบแต่ไม่สามารถต่ำกว่าได้ ขาย (Put Option)

การซื้อขายไบนารี่ออปชั่น | การวิเคราะห์ทางเทคนิค | การจัดการเงินทุน | กลยุทธ์การซื้อขาย | Pivot Point | Breakout | แนวรับแนวต้าน | Moving Average | RSI | MACD | Trend Lines | Fibonacci Retracement | Candlestick Patterns | Bollinger Bands | Volume Spread Analysis | On Balance Volume | Elliott Wave Theory | Ichimoku Cloud | Support and Resistance | False Breakout

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер