Market Profile

Market Profile: คู่มือฉบับเริ่มต้นสำหรับเทรดเดอร์ไบนารี่ออปชั่น

Market Profile เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่พัฒนาโดย James Peter Steidlmayer ในช่วงทศวรรษ 1980 ที่ Chicago Board of Trade (CBOT) เดิมทีออกแบบมาเพื่อใช้ในการซื้อขาย ฟิวเจอร์ส แต่ปัจจุบันได้รับการปรับใช้โดยเทรดเดอร์ในตลาดต่างๆ รวมถึง ไบนารี่ออปชั่น บทความนี้จะอธิบายหลักการพื้นฐานของ Market Profile และวิธีการนำไปใช้เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดของคุณ

Market Profile คืออะไร?

Market Profile ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ราคาเพียงอย่างเดียว แต่จะเน้นที่ *เวลา* ที่ราคานั้นเทรดกัน ซึ่งแตกต่างจาก แท่งเทียน หรือ กราฟเส้น ที่แสดงเพียงราคาปิดของแต่ละช่วงเวลา Market Profile จะแสดงการกระจายตัวของปริมาณการซื้อขายที่แต่ละระดับราคาในช่วงเวลาที่กำหนด ซึ่งจะช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจว่าตลาด “คิด” อย่างไรเกี่ยวกับมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์นั้นๆ

Market Profile จะแสดงข้อมูลในรูปแบบของ “Profile” ซึ่งประกอบด้วย:

**Point of Control (POC):** ระดับราคาที่ปริมาณการซื้อขายมากที่สุดในช่วงเวลาที่กำหนด POC บ่งบอกถึงระดับราคาที่ตลาดพิจารณาว่ามีมูลค่ามากที่สุด
**Value Area (VA):** ช่วงราคาที่ 70% ของปริมาณการซื้อขายทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่กำหนด VA แสดงถึงช่วงราคาที่ตลาดส่วนใหญ่ยอมรับว่าเป็นมูลค่าที่สมเหตุสมผล
**High Volume Node (HVN):** ระดับราคาที่มีปริมาณการซื้อขายสูงกว่าระดับอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญ HVN มักจะเป็นจุดที่ตลาดเปลี่ยนทิศทาง
**Low Volume Node (LVN):** ระดับราคาที่มีปริมาณการซื้อขายต่ำกว่าระดับอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญ LVN มักจะเป็นจุดที่ตลาดทะลุผ่านอย่างรวดเร็ว

การสร้าง Market Profile

Market Profile ถูกสร้างขึ้นโดยการรวบรวมข้อมูลการซื้อขายทั้งหมดในช่วงเวลาที่กำหนด โดยทั่วไปแล้วจะใช้กรอบเวลาเดียวกับ แท่งเทียน เช่น 1 นาที, 5 นาที, 15 นาที, 1 ชั่วโมง หรือ 1 วัน จากนั้นข้อมูลจะถูกจัดเรียงตามราคาและปริมาณการซื้อขายเพื่อสร้าง Profile

ในทางปฏิบัติ เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักใช้ซอฟต์แวร์หรือแพลตฟอร์มการเทรดที่สร้าง Market Profile ให้โดยอัตโนมัติ เช่น TradingView, NinjaTrader หรือ Sierra Chart

การตีความ Market Profile

เมื่อคุณมี Market Profile แล้ว คุณสามารถเริ่มตีความข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจความคิดเห็นของตลาดได้

**POC ที่แข็งแกร่ง:** หาก POC อยู่เหนือ VA และมีปริมาณการซื้อขายที่สูง แสดงว่าตลาดมีแนวโน้มที่จะเป็นขาขึ้น
**POC ที่อ่อนแอ:** หาก POC อยู่ใต้ VA หรือมีปริมาณการซื้อขายที่ต่ำ แสดงว่าตลาดมีแนวโน้มที่จะเป็นขาลง
**VA ที่กว้าง:** VA ที่กว้างบ่งบอกถึงความไม่แน่นอนของตลาด
**VA ที่แคบ:** VA ที่แคบบ่งบอกถึงความเชื่อมั่นของตลาด

นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้ Market Profile เพื่อระบุระดับ แนวรับ และ แนวต้าน ที่สำคัญได้ โดยทั่วไปแล้ว POC, HVN และขอบบนและล่างของ VA จะทำหน้าที่เป็นแนวรับและแนวต้าน

การนำ Market Profile ไปใช้ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

Market Profile สามารถนำไปใช้เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นของคุณได้หลายวิธี

**การระบุทิศทางของตลาด:** ใช้ POC และ VA เพื่อระบุทิศทางของตลาด หาก POC อยู่เหนือ VA และตลาดกำลังทดสอบระดับแนวรับ คุณอาจพิจารณาซื้อ Call option หาก POC อยู่ใต้ VA และตลาดกำลังทดสอบระดับแนวต้าน คุณอาจพิจารณาขาย Put option
**การค้นหาระดับราคาที่เหมาะสม:** ใช้ POC, HVN และขอบบนและล่างของ VA เพื่อค้นหาระดับราคาที่เหมาะสมในการเปิด ออปชั่น หากคุณคาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่คุณคาดการณ์ไว้ คุณอาจเปิดออปชั่นที่ระดับราคาเหล่านี้
**การจัดการความเสี่ยง:** ใช้ VA เพื่อกำหนดขนาดของตำแหน่งของคุณ หาก VA กว้าง คุณอาจลดขนาดของตำแหน่งของคุณเพื่อลดความเสี่ยง หาก VA แคบ คุณอาจเพิ่มขนาดของตำแหน่งของคุณเพื่อเพิ่มผลตอบแทน

กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นโดยใช้ Market Profile

นี่คือตัวอย่างกลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นโดยใช้ Market Profile:

- กลยุทธ์: Breakout จาก Value Area**

**แนวคิด:** กลยุทธ์นี้ใช้ประโยชน์จากการที่ราคาอาจทะลุผ่าน Value Area เมื่อตลาดมีความเชื่อมั่นในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
**ขั้นตอน:**

   1.  ระบุ Value Area ใน Market Profile
   2.  รอให้ราคาเข้าใกล้ขอบบนหรือล่างของ VA
   3.  หากราคาทะลุผ่านขอบบนของ VA ให้เปิด Call option
   4.  หากราคาทะลุผ่านขอบล่างของ VA ให้เปิด Put option

**การจัดการความเสี่ยง:** ตั้ง Stop-Loss ที่ขอบตรงข้ามของ VA

การรวม Market Profile กับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ

Market Profile ไม่ควรใช้เพียงอย่างเดียว แต่ควรนำไปรวมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น:

**แนวโน้ม (Trend):** ใช้ เส้นแนวโน้ม หรือ Moving Average เพื่อระบุทิศทางของแนวโน้มหลัก หากแนวโน้มหลักเป็นขาขึ้น ให้มองหาโอกาสในการซื้อเมื่อราคาถอยกลับเข้าสู่ VA หากแนวโน้มหลักเป็นขาลง ให้มองหาโอกาสในการขายเมื่อราคาดีดตัวขึ้นสู่ VA
**รูปแบบกราฟ (Chart Pattern):** มองหารูปแบบกราฟที่ยืนยันสัญญาณจาก Market Profile เช่น หากคุณเห็นรูปแบบ Double Bottom ที่ระดับ POC คุณอาจพิจารณาซื้อ
**ตัวชี้วัดโมเมนตัม (Momentum Indicator):** ใช้ RSI หรือ MACD เพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้ม หาก RSI หรือ MACD กำลังอยู่ในโซน Overbought หรือ Oversold อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวของแนวโน้ม

ข้อควรระวังในการใช้ Market Profile

**ความล่าช้า:** Market Profile เป็นเครื่องมือที่ล้าหลัง เนื่องจากจะแสดงข้อมูลการซื้อขายที่เกิดขึ้นแล้ว
**ความซับซ้อน:** Market Profile อาจมีความซับซ้อนและต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และทำความเข้าใจ
**ความแตกต่างของตลาด:** Market Profile อาจแตกต่างกันไปในแต่ละตลาด ดังนั้นคุณต้องปรับกลยุทธ์ของคุณให้เหมาะสมกับตลาดที่คุณกำลังเทรด

สรุป

Market Profile เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ทรงพลังที่สามารถช่วยให้เทรดเดอร์ไบนารี่ออปชั่นเข้าใจความคิดเห็นของตลาดและระบุโอกาสในการเทรดที่อาจเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม Market Profile ไม่ใช่เครื่องมือวิเศษ และควรนำไปใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ

ตัวอย่างแนวคิดหลักใน Market Profile
! แนวคิด	! คำอธิบาย	! การประยุกต์ใช้ในไบนารี่ออปชั่น
Point of Control (POC)	ระดับราคาที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุด	ใช้เป็นระดับแนวรับ/แนวต้าน, จุดเริ่มต้นของเทรด
Value Area (VA)	ช่วงราคาที่ 70% ของปริมาณการซื้อขายเกิดขึ้น	กำหนดช่วงราคาที่ตลาดส่วนใหญ่ยอมรับ, ประเมินความผันผวน
High Volume Node (HVN)	ระดับราคาที่มีปริมาณการซื้อขายสูง	คาดการณ์จุดเปลี่ยนแนวโน้ม, ระดับสำคัญในการตัดสินใจ
Low Volume Node (LVN)	ระดับราคาที่มีปริมาณการซื้อขายต่ำ	คาดการณ์การทะลุผ่านอย่างรวดเร็ว, ระดับที่ราคาอาจเร่งตัว
Single Prints	ระดับราคาที่มีปริมาณการซื้อขายต่ำมาก	บ่งบอกถึงความไม่แน่นอน, ระดับที่อาจเกิดการกลับตัว

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น