ฟิวเจอร์ส

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. ฟิวเจอร์ส: คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้น

ฟิวเจอร์ส (Futures) เป็นตราสารทางการเงินที่ซับซ้อน แต่ก็เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักลงทุนและผู้ค้าที่ต้องการเก็งกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาในตลาดต่างๆ บทความนี้จะอธิบายพื้นฐานของฟิวเจอร์สอย่างละเอียด เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการทำความเข้าใจโลกของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

      1. ฟิวเจอร์สคืออะไร?

ฟิวเจอร์สคือข้อตกลงในการซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิงในวันที่กำหนดในอนาคต (วันที่ครบกำหนด) ในราคาที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้า สินทรัพย์อ้างอิงนั้นอาจเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมันดิบ ทองคำ ข้าวโพด หรืออาจเป็นตราสารทางการเงิน เช่น ดัชนีหุ้น อัตราแลกเปลี่ยน หรือพันธบัตรรัฐบาล

    • ความแตกต่างระหว่างฟิวเจอร์สกับสัญญา Spot:**
  • **สัญญา Spot:** การซื้อขายสินทรัพย์อ้างอิงโดยการส่งมอบสินทรัพย์นั้นทันที (หรือภายในระยะเวลาอันสั้น เช่น T+2 วันทำการ)
  • **สัญญาฟิวเจอร์ส:** การซื้อขายสัญญาที่มีกำหนดส่งมอบสินทรัพย์ในอนาคต
      1. ทำไมจึงมีการซื้อขายฟิวเจอร์ส?

มีเหตุผลหลักสองประการที่ผู้คนซื้อขายฟิวเจอร์ส:

1. **การเก็งกำไร (Speculation):** ผู้ค้าพยายามทำกำไรจากการคาดการณ์ทิศทางราคาของสินทรัพย์อ้างอิง หากคาดการณ์ถูกต้อง พวกเขาสามารถซื้อสัญญาฟิวเจอร์สในราคาต่ำและขายในราคาที่สูงขึ้น หรือขายสัญญาฟิวเจอร์สในราคาที่สูงและซื้อคืนในราคาที่ต่ำลง 2. **การป้องกันความเสี่ยง (Hedging):** ผู้ที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์อ้างอิงโดยตรง (เช่น เกษตรกร ผู้ผลิต หรือผู้บริโภค) ใช้ฟิวเจอร์สเพื่อล็อคราคาและลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา ตัวอย่างเช่น เกษตรกรอาจขายสัญญาฟิวเจอร์สข้าวโพดเพื่อรับประกันราคาขายข้าวโพดในอนาคต

      1. องค์ประกอบของสัญญาฟิวเจอร์ส

สัญญาฟิวเจอร์สประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญดังนี้:

  • **สินทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset):** สินทรัพย์ที่สัญญาอ้างอิงถึง เช่น น้ำมันดิบ ทองคำ หรือดัชนีหุ้น
  • **ราคาซื้อขาย (Contract Price):** ราคาที่ตกลงกันไว้ในการซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิงในวันที่ครบกำหนด
  • **วันที่ครบกำหนด (Expiration Date):** วันที่สัญญาหมดอายุและต้องทำการชำระราคาหรือส่งมอบสินทรัพย์อ้างอิง
  • **ขนาดสัญญา (Contract Size):** ปริมาณสินทรัพย์อ้างอิงที่กำหนดไว้ในแต่ละสัญญา เช่น สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบอาจมีขนาด 1,000 บาร์เรล
  • **หน่วยซื้อขาย (Tick Size):** จำนวนเงินที่ราคาของสัญญาเปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละครั้ง
  • **หลักประกัน (Margin):** จำนวนเงินที่ผู้ค้าต้องฝากไว้กับโบรกเกอร์เพื่อเป็นหลักประกันความเสี่ยง
      1. ตลาดฟิวเจอร์ส

ตลาดฟิวเจอร์สเป็นตลาดที่มีการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์ส ตลาดฟิวเจอร์สที่สำคัญ ได้แก่:

  • **ตลาด Chicago Mercantile Exchange (CME):** ตลาดฟิวเจอร์สที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ทางการเงิน และดัชนีต่างๆ
  • **ตลาด Intercontinental Exchange (ICE):** ตลาดฟิวเจอร์สที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง มีการซื้อขายพลังงาน สินค้าโภคภัณฑ์ และอนุพันธ์ทางการเงิน
  • **ตลาด London Metal Exchange (LME):** ตลาดฟิวเจอร์สที่เน้นการซื้อขายโลหะอุตสาหกรรม
      1. วิธีการซื้อขายฟิวเจอร์ส

การซื้อขายฟิวเจอร์สสามารถทำได้ผ่านโบรกเกอร์ฟิวเจอร์ส โบรกเกอร์จะให้แพลตฟอร์มการซื้อขายและเข้าถึงตลาดฟิวเจอร์สต่างๆ ผู้ค้าจะต้องเปิดบัญชีฟิวเจอร์สและฝากเงินหลักประกัน

    • ขั้นตอนการซื้อขายฟิวเจอร์ส:**

1. **เปิดบัญชีฟิวเจอร์ส:** เลือกโบรกเกอร์ฟิวเจอร์สที่น่าเชื่อถือและเปิดบัญชี 2. **ฝากเงินหลักประกัน:** ฝากเงินจำนวนที่กำหนดไว้ในบัญชีของคุณ 3. **เลือกสัญญาฟิวเจอร์ส:** เลือกสัญญาฟิวเจอร์สที่ต้องการซื้อขาย 4. **วิเคราะห์ตลาด:** ทำการวิเคราะห์ตลาดเพื่อคาดการณ์ทิศทางราคา 5. **ส่งคำสั่งซื้อขาย:** ส่งคำสั่งซื้อหรือขายสัญญาฟิวเจอร์ส 6. **ติดตามและจัดการความเสี่ยง:** ติดตามผลการซื้อขายและจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม

      1. ความเสี่ยงในการซื้อขายฟิวเจอร์ส

การซื้อขายฟิวเจอร์สมีความเสี่ยงสูง เนื่องจาก:

  • **เลเวอเรจ (Leverage):** ฟิวเจอร์สมีการใช้เลเวอเรจสูง ซึ่งหมายความว่าผู้ค้าสามารถควบคุมสัญญาที่มีมูลค่าสูงด้วยเงินลงทุนเพียงเล็กน้อย แม้ว่าเลเวอเรจจะช่วยเพิ่มผลกำไรได้ แต่ก็สามารถเพิ่มการขาดทุนได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน
  • **ความผันผวนของราคา (Price Volatility):** ราคาของสินทรัพย์อ้างอิงอาจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและคาดเดาไม่ได้
  • **ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง (Liquidity Risk):** สัญญาฟิวเจอร์สบางประเภทอาจมีสภาพคล่องต่ำ ซึ่งทำให้ยากต่อการซื้อหรือขายในราคาที่ต้องการ
  • **ความเสี่ยงจากการต่ออายุสัญญา (Roll-over Risk):** เมื่อสัญญาฟิวเจอร์สใกล้หมดอายุ ผู้ค้าอาจต้องต่ออายุสัญญาไปยังสัญญาใหม่ ซึ่งอาจทำให้เกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
      1. กลยุทธ์การซื้อขายฟิวเจอร์ส

มีกลยุทธ์การซื้อขายฟิวเจอร์สมากมายที่ผู้ค้าสามารถใช้ได้ ขึ้นอยู่กับสไตล์การซื้อขายและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ตัวอย่างกลยุทธ์ ได้แก่:

  • **Trend Following:** การซื้อขายตามแนวโน้มของราคา
  • **Breakout Trading:** การซื้อขายเมื่อราคาทะลุแนวต้านหรือแนวรับสำคัญ
  • **Range Trading:** การซื้อขายเมื่อราคามีการเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบๆ
  • **Scalping:** การทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาเล็กน้อยในระยะเวลาสั้นๆ
  • **Spread Trading:** การซื้อขายความแตกต่างของราคาของสัญญาฟิวเจอร์สที่เกี่ยวข้อง
      1. การวิเคราะห์ตลาดฟิวเจอร์ส

การวิเคราะห์ตลาดฟิวเจอร์สเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้สามารถตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมีข้อมูล การวิเคราะห์สามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก:

  • **การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis):** การศึกษาแผนภูมิราคาและใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิคเพื่อคาดการณ์ทิศทางราคา ตัวชี้วัดทางเทคนิคที่นิยมใช้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages), ดัชนีความสัมพันธ์สัมพัทธ์ (Relative Strength Index - RSI), และเส้นแนวโน้ม (Trend Lines)
  • **การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis):** การวิเคราะห์ปัจจัยทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง เช่น อุปสงค์ อุปทาน สภาพอากาศ และนโยบายของรัฐบาล
      1. การจัดการความเสี่ยงในการซื้อขายฟิวเจอร์ส

การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการซื้อขายฟิวเจอร์ส ผู้ค้าควรใช้เครื่องมือและเทคนิคต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยง เช่น:

  • **Stop-Loss Orders:** คำสั่งขายอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้ เพื่อจำกัดการขาดทุน
  • **Take-Profit Orders:** คำสั่งขายอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่ต้องการ เพื่อล็อคผลกำไร
  • **Position Sizing:** การกำหนดขนาดของสัญญาที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
  • **Diversification:** การกระจายการลงทุนในสัญญาฟิวเจอร์สที่หลากหลาย
      1. ฟิวเจอร์สกับการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

แม้ว่าฟิวเจอร์สและไบนารี่ออปชั่นจะเป็นเครื่องมือทางการเงินที่แตกต่างกัน แต่ก็มีความสัมพันธ์กันในบางประการ นักเทรดไบนารี่ออปชั่นสามารถใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานที่ใช้ในการซื้อขายฟิวเจอร์สเพื่อปรับปรุงความแม่นยำในการคาดการณ์ทิศทางราคาสำหรับออปชั่น

| ลักษณะ | ฟิวเจอร์ส | ไบนารี่ออปชั่น | |----------------|----------------------------------------------|-----------------------------------------------| | โครงสร้าง | สัญญาซื้อขายล่วงหน้า | ออปชั่นที่มีการจ่ายผลตอบแทนแบบ All-or-Nothing | | ผลตอบแทน | ไม่จำกัด (ขึ้นอยู่กับราคา) | จำกัด (กำหนดไว้ล่วงหน้า) | | ความเสี่ยง | สูง (เลเวอเรจสูง) | จำกัด (สูญเสียเฉพาะเงินลงทุน) | | การส่งมอบ | สินทรัพย์อ้างอิง (หรือชำระราคาเป็นเงินสด) | ไม่มีการส่งมอบ | | ความซับซ้อน | สูง | ต่ำ |

      1. แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
      1. กลยุทธ์และเครื่องมือเพิ่มเติม
  • **Elliott Wave Theory:** Elliott Wave Theory การวิเคราะห์รูปแบบราคาโดยใช้คลื่น
  • **Fibonacci Retracements:** Fibonacci Retracements การใช้ระดับ Fibonacci เพื่อระบุแนวรับและแนวต้าน
  • **Bollinger Bands:** Bollinger Bands การใช้แถบ Bollinger เพื่อวัดความผันผวนของราคา
  • **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** MACD ตัวชี้วัดโมเมนตัมที่ใช้ในการระบุแนวโน้ม
  • **Stochastic Oscillator:** Stochastic Oscillator ตัวชี้วัดโมเมนตัมที่ใช้ในการระบุสภาวะซื้อมากเกินไปและขายมากเกินไป
  • **การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis):** Volume Analysis การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเพื่อยืนยันแนวโน้ม
  • **การวิเคราะห์ Sentiment:** Sentiment Analysis การวัดความเชื่อมั่นของตลาด
  • **Head and Shoulders Pattern:** Head and Shoulders Pattern รูปแบบราคาที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม
  • **Double Top/Bottom Pattern:** Double Top/Bottom Pattern รูปแบบราคาที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม
  • **Triangle Pattern:** Triangle Pattern รูปแบบราคาที่บ่งบอกถึงการพักตัวของแนวโน้ม
  • **การใช้ข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญ:** Economic Calendar การติดตามข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาด
  • **การบริหารจัดการเงินทุน (Money Management):** Money Management การวางแผนการใช้เงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
  • **การวิเคราะห์ความเสี่ยง (Risk Analysis):** Risk Analysis การประเมินและจัดการความเสี่ยงในการซื้อขาย
  • **การใช้เครื่องมือ Spread Trading:** Spread Trading การซื้อขายความแตกต่างของราคาสัญญาฟิวเจอร์ส
  • **การใช้ Arbitrage:** Arbitrage การแสวงหาผลกำไรจากความแตกต่างของราคาในตลาดต่างๆ

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер