IG Markets

1. 1. IG Markets

IG Markets เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ซื้อขายทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในโลก ก่อตั้งขึ้นในปี 1974 และมีสำนักงานใหญ่ในลอนดอน สหราชอาณาจักร IG Markets ให้บริการแก่เทรดเดอร์ทั้งรายย่อยและสถาบันในตลาดต่างๆ ทั่วโลก รวมถึง Forex (ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ), CFD (สัญญาซื้อขายส่วนต่าง), หุ้น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์ และ ไบนารี่ออปชั่น บทความนี้จะมุ่งเน้นไปที่การให้บริการไบนารี่ออปชั่นของ IG Markets โดยเฉพาะ โดยจะครอบคลุมตั้งแต่พื้นฐานของไบนารี่ออปชั่น, แพลตฟอร์มการซื้อขายของ IG Markets, กลยุทธ์การซื้อขาย, การจัดการความเสี่ยง และข้อดีข้อเสียของการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นกับ IG Markets

1. 1. 1. ไบนารี่ออปชั่นคืออะไร?

ไบนารี่ออปชั่น เป็นเครื่องมือทางการเงินที่อนุญาตให้เทรดเดอร์คาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิง (เช่น สกุลเงิน, หุ้น, ดัชนี) จะสูงขึ้นหรือต่ำลงภายในระยะเวลาที่กำหนด หากการคาดการณ์ถูกต้อง เทรดเดอร์จะได้รับผลตอบแทนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า หากการคาดการณ์ผิดพลาด เทรดเดอร์จะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด ไบนารี่ออปชั่นจึงเป็นเครื่องมือที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็มีศักยภาพในการทำกำไรสูงเช่นกัน

การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นมีความเรียบง่าย:

1. **เลือกสินทรัพย์อ้างอิง:** เลือกสินทรัพย์ที่คุณต้องการซื้อขาย เช่น EUR/USD, ทองคำ หรือหุ้น Apple 2. **เลือกทิศทาง:** คาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์จะสูงขึ้น (Call) หรือต่ำลง (Put) 3. **เลือกระยะเวลา:** เลือกระยะเวลาที่ต้องการ เช่น 60 วินาที, 5 นาที หรือ 1 ชั่วโมง 4. **ลงทุน:** กำหนดจำนวนเงินที่คุณต้องการลงทุนในการซื้อขาย 5. **รอผลลัพธ์:** เมื่อหมดเวลา หากการคาดการณ์ของคุณถูกต้อง คุณจะได้รับผลตอบแทนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า หากผิดพลาด คุณจะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด

1. 1. 1. IG Markets และไบนารี่ออปชั่น

IG Markets นำเสนอแพลตฟอร์มการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเข้าถึงสินทรัพย์อ้างอิงที่หลากหลายและทำการซื้อขายได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย IG Markets ยังมีเครื่องมือและทรัพยากรมากมายเพื่อช่วยให้เทรดเดอร์ตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมีข้อมูล เช่น ข่าวสารทางการเงิน, การวิเคราะห์ตลาด และเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิค

1. 1. 1. แพลตฟอร์มการซื้อขายของ IG Markets

แพลตฟอร์มการซื้อขายของ IG Markets มีให้ใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์และแอปพลิเคชันบนมือถือ ทำให้เทรดเดอร์สามารถซื้อขายได้ทุกที่ทุกเวลา แพลตฟอร์มนี้มีคุณสมบัติที่สำคัญดังนี้:

• **กราฟราคา:** แพลตฟอร์มแสดงกราฟราคาแบบเรียลไทม์สำหรับสินทรัพย์อ้างอิงทั้งหมด
• **เครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิค:** มีเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิคมากมาย เช่น Moving Averages, MACD, RSI, และ Fibonacci Retracements เพื่อช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มราคา
• **ข่าวสารทางการเงิน:** แพลตฟอร์มนำเสนอข่าวสารทางการเงินล่าสุดจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้
• **การจัดการคำสั่งซื้อ:** เทรดเดอร์สามารถจัดการคำสั่งซื้อได้อย่างง่ายดาย รวมถึงการตั้งค่าคำสั่งซื้อขายอัตโนมัติ
• **การจัดการความเสี่ยง:** มีเครื่องมือในการจัดการความเสี่ยง เช่น การตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit

1. 1. 1. กลยุทธ์การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นกับ IG Markets

มีกลยุทธ์การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นมากมายที่เทรดเดอร์สามารถใช้เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างกลยุทธ์บางส่วน:

1. **Trend Following:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการระบุแนวโน้มราคาและทำการซื้อขายตามแนวโน้มนั้น หากราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น เทรดเดอร์จะซื้อ Call Option หากราคาอยู่ในแนวโน้มขาลง เทรดเดอร์จะซื้อ Put Option Trend Following 2. **Support and Resistance:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการระบุระดับ Support และ Resistance และทำการซื้อขายเมื่อราคาเข้าใกล้ระดับเหล่านี้ เมื่อราคาเข้าใกล้ระดับ Support เทรดเดอร์จะซื้อ Call Option เมื่อราคาเข้าใกล้ระดับ Resistance เทรดเดอร์จะซื้อ Put Option Support and Resistance 3. **Breakout Trading:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการระบุช่วงราคาที่แคบ (Consolidation) และทำการซื้อขายเมื่อราคา Breakout จากช่วงราคานั้น หากราคา Breakout เหนือระดับ Resistance เทรดเดอร์จะซื้อ Call Option หากราคา Breakout ใต้ระดับ Support เทรดเดอร์จะซื้อ Put Option Breakout Trading 4. **Pin Bar Strategy:** กลยุทธ์นี้ใช้รูปแบบแท่งเทียน Pin Bar เพื่อระบุการกลับตัวของแนวโน้มราคา Pin Bar Strategy 5. **Bollinger Bands Strategy:** กลยุทธ์นี้ใช้ Bollinger Bands เพื่อระบุสภาวะ Overbought และ Oversold ในตลาด Bollinger Bands Strategy 6. **Straddle Strategy:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อทั้ง Call และ Put Option พร้อมกัน โดยคาดการณ์ว่าราคาจะมีความผันผวนสูง Straddle Strategy 7. **Strangle Strategy:** คล้ายกับ Straddle แต่ใช้ Strike Price ที่แตกต่างกัน Strangle Strategy 8. **Hedging Strategy:** ใช้เพื่อลดความเสี่ยงโดยการเปิดสถานะที่ตรงข้ามกันในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง Hedging Strategy 9. **News Trading:** การซื้อขายโดยอิงจากข่าวสารเศรษฐกิจและการเมืองที่อาจส่งผลกระทบต่อราคา News Trading 10. **Scalping:** การทำกำไรจากความผันผวนของราคาเล็กน้อยในระยะเวลาสั้นๆ Scalping 11. **Martingale Strategy:** การเพิ่มขนาดการเดิมพันหลังจากขาดทุนเพื่อหวังว่าจะทำกำไรคืนมา (มีความเสี่ยงสูง) Martingale Strategy 12. **Anti-Martingale Strategy:** การลดขนาดการเดิมพันหลังจากขาดทุน และเพิ่มขนาดการเดิมพันหลังจากทำกำไร (มีความเสี่ยง) Anti-Martingale Strategy 13. **Fibonacci Retracement Strategy:** ใช้ระดับ Fibonacci เพื่อระบุจุดเข้าซื้อขายที่อาจเกิดขึ้น Fibonacci Retracement Strategy 14. **Elliott Wave Theory:** การวิเคราะห์รูปแบบคลื่นราคาเพื่อคาดการณ์ทิศทางของตลาด Elliott Wave Theory 15. **Ichimoku Cloud Strategy:** ใช้ Ichimoku Cloud เพื่อระบุแนวโน้มและระดับ Support/Resistance Ichimoku Cloud Strategy

1. 1. 1. การจัดการความเสี่ยงในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

การ

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น