Credit Score

Credit Score

Credit Score หรือ คะแนนเครดิต คือ ตัวเลขที่แสดงถึงความน่าเชื่อถือทางการเงินของคุณ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการอนุมัติสินเชื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น บัตรเครดิต สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ หรือแม้กระทั่งการเช่าที่อยู่อาศัย คะแนนเครดิตที่สูงแสดงให้เห็นว่าคุณมีความรับผิดชอบในการชำระหนี้ และมีความเสี่ยงต่ำที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะขาดทุนจากการปล่อยสินเชื่อให้คุณ ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกถึงความสำคัญของ Credit Score, ปัจจัยที่มีผลต่อการคำนวณ, วิธีการตรวจสอบ, และแนวทางการปรับปรุง Credit Score ของคุณ เพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ ได้อย่างสะดวกและมีเงื่อนไขที่ดีที่สุด

ความสำคัญของ Credit Score

Credit Score ไม่ได้มีความสำคัญแค่ตอนที่คุณต้องการยื่นขอสินเชื่อเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของคุณในหลายด้าน ดังนี้:

อัตราดอกเบี้ย : ยิ่ง Credit Score สูง คุณจะได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าเมื่อกู้เงิน ซึ่งส่งผลให้คุณประหยัดเงินได้มากในระยะยาว
วงเงินอนุมัติ : Credit Score ที่ดีจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับการอนุมัติวงเงินกู้ที่สูงขึ้น
การเช่าที่อยู่อาศัย : เจ้าของที่ดินหรือบริษัทเช่าบ้านมักจะตรวจสอบ Credit Score ของผู้เช่าก่อนตัดสินใจปล่อยเช่า
การสมัครงาน : ในบางตำแหน่งงาน โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการเงิน หรือความน่าเชื่อถือสูง บริษัทอาจตรวจสอบ Credit Score ของผู้สมัคร
ค่าประกันภัย : บริษัทประกันภัยบางแห่งอาจพิจารณา Credit Score ในการกำหนดเบี้ยประกันภัย

ดังนั้น การดูแลรักษา Credit Score ให้อยู่ในระดับที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

ปัจจัยที่มีผลต่อการคำนวณ Credit Score

Credit Score ไม่ได้ถูกคำนวณจากปัจจัยเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการประเมินจากข้อมูลหลายด้าน โดยแต่ละสถาบันอาจมีวิธีการคำนวณที่แตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปแล้ว ปัจจัยหลักที่มีผลต่อการคำนวณ Credit Score มีดังนี้:

ประวัติการชำระหนี้ (Payment History) (35%): เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการคำนวณ Credit Score การชำระหนี้ตรงเวลาและครบถ้วนจำนวน จะช่วยสร้างประวัติที่ดี และส่งผลให้ Credit Score สูงขึ้น ในทางกลับกัน การผิดนัดชำระหนี้ หรือชำระล่าช้า จะส่งผลเสียต่อ Credit Score อย่างมาก
ยอดหนี้คงเหลือ (Amounts Owed) (30%): ปริมาณหนี้ที่คุณมีอยู่เมื่อเทียบกับวงเงินสินเชื่อทั้งหมด (Credit Utilization Ratio) เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ หากคุณมียอดหนี้สูงเมื่อเทียบกับวงเงินสินเชื่อ จะแสดงให้เห็นว่าคุณมีความเสี่ยงสูงที่จะไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด
ระยะเวลาประวัติเครดิต (Length of Credit History) (15%): ยิ่งคุณมีประวัติเครดิตที่ยาวนานและสม่ำเสมอเท่าไหร่ จะยิ่งเป็นผลดีต่อ Credit Score ของคุณ
ประเภทของสินเชื่อ (Credit Mix) (10%): การมีสินเชื่อที่หลากหลาย เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบ้าน จะแสดงให้เห็นว่าคุณสามารถบริหารจัดการหนี้สินได้ดี
การเปิดขอสินเชื่อใหม่ (New Credit) (10%): การเปิดขอสินเชื่อใหม่หลายครั้งในระยะเวลาอันสั้น อาจส่งผลเสียต่อ Credit Score เนื่องจากอาจแสดงให้เห็นว่าคุณกำลังประสบปัญหาทางการเงิน

วิธีการตรวจสอบ Credit Score

ในปัจจุบัน มีหลายช่องทางที่คุณสามารถตรวจสอบ Credit Score ของคุณได้:

National Credit Bureau (NCB) : เป็นสถาบันที่รวบรวมข้อมูลเครดิตของบุคคลในประเทศไทย คุณสามารถขอรายงานเครดิตจาก NCB ได้โดยตรง
Credit Bureau (CBC) : เป็นอีกหนึ่งสถาบันที่ให้บริการรายงานเครดิตในประเทศไทย
แอปพลิเคชันธนาคาร : ธนาคารหลายแห่งในประเทศไทยได้ร่วมมือกับสถาบันเครดิต เพื่อให้บริการตรวจสอบ Credit Score ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ
เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัทที่ให้บริการตรวจสอบ Credit Score : มีบริษัทหลายแห่งที่ให้บริการตรวจสอบ Credit Score โดยมีค่าบริการ

การตรวจสอบ Credit Score เป็นประจำจะช่วยให้คุณทราบถึงสถานะทางการเงินของคุณ และสามารถแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ทันท่วงที

แนวทางการปรับปรุง Credit Score

หาก Credit Score ของคุณอยู่ในระดับที่ไม่น่าพอใจ ไม่ต้องกังวล คุณสามารถปรับปรุง Credit Score ของคุณได้ด้วยแนวทางดังต่อไปนี้:

ชำระหนี้ตรงเวลาและครบถ้วนจำนวน : เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการปรับปรุง Credit Score
ลดยอดหนี้คงเหลือ : พยายามชำระหนี้ให้ได้มากที่สุด เพื่อลด Credit Utilization Ratio
หลีกเลี่ยงการเปิดขอสินเชื่อใหม่หลายครั้งในระยะเวลาอันสั้น
ตรวจสอบรายงานเครดิตเป็นประจำ : เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล และแก้ไขข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น
รักษาสินเชื่อที่มีอยู่ให้ดี : อย่าปิดบัญชีสินเชื่อเก่า แม้ว่าคุณจะไม่ได้ใช้งานแล้ว เพราะจะทำให้ประวัติเครดิตของคุณสั้นลง
พิจารณาการใช้บัตรเครดิตอย่างมีความรับผิดชอบ : ใช้บัตรเครดิตในการซื้อสินค้าหรือบริการที่คุณจำเป็นต้องใช้ และชำระหนี้เต็มจำนวนในแต่ละเดือน เพื่อหลีกเลี่ยงดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม

Credit Score กับการลงทุนและการเทรด

แม้ว่า Credit Score จะไม่ได้มีผลโดยตรงต่อการลงทุนและการเทรด Binary Options หรือตลาดทุนอื่นๆ แต่การมี Credit Score ที่ดีก็สามารถช่วยให้คุณเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อการลงทุนได้ง่ายขึ้น และมีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลง นอกจากนี้ การบริหารจัดการหนี้สินที่ดี ยังช่วยให้คุณมีเงินทุนเหลือสำหรับการลงทุนมากขึ้นอีกด้วย

การเทรด Binary Options เองก็มีความเสี่ยงสูง และต้องใช้ความรู้ความเข้าใจในเรื่อง การวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์พื้นฐาน การบริหารความเสี่ยง และ กลยุทธ์การเทรด ต่างๆ เช่น กลยุทธ์ Straddle กลยุทธ์ Butterfly กลยุทธ์ Call Spread กลยุทธ์ Put Spread หรือแม้แต่การใช้ Indicator ต่างๆ เช่น Moving Average MACD RSI Bollinger Bands การทำความเข้าใจ แนวโน้มของตลาด และ ปริมาณการซื้อขาย ก็เป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจเทรด

การมีวินัยทางการเงินที่ดี ซึ่งสะท้อนออกมาจาก Credit Score ที่ดี จะช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงในการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการเทรด

สรุป

Credit Score เป็นตัวเลขที่สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือทางการเงินของคุณ และมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของคุณในหลายด้าน การดูแลรักษา Credit Score ให้อยู่ในระดับที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง การทำความเข้าใจปัจจัยที่มีผลต่อการคำนวณ Credit Score การตรวจสอบ Credit Score เป็นประจำ และการปรับปรุง Credit Score ด้วยแนวทางที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ ได้อย่างสะดวก และมีเงื่อนไขที่ดีที่สุด รวมถึงช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการการเงินและการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างช่วงคะแนนเครดิต และความหมาย
! คะแนนเครดิต !! ความหมาย !! โอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ !! อัตราดอกเบี้ย !!
780-850	ยอดเยี่ยม	สูงมาก	ต่ำมาก
740-779	ดีมาก	สูง	ต่ำ
670-739	ดี	ปานกลางถึงสูง	ปานกลาง
580-669	พอใช้	ปานกลาง	สูง
300-579	แย่	ต่ำ	สูงมาก

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น