อัตราการจ้างงานนอกภาคเกษตร
- อัตราการจ้างงานนอกภาคเกษตร: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับนักลงทุนไบนารี่ออปชั่น
อัตราการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm Payroll – NFP) เป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดและได้รับการจับตามองอย่างใกล้ชิดที่สุดในโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดการเงินและตลาดไบนารี่ออปชั่น การเข้าใจความหมายของ NFP, วิธีการคำนวณ, ปัจจัยที่มีผลต่อ และวิธีการนำไปใช้ในการวิเคราะห์ตลาดเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนที่ต้องการประสบความสำเร็จ บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ NFP อย่างละเอียดสำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงการเชื่อมโยงกับกลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นต่างๆ
- NFP คืออะไร?
อัตราการจ้างงานนอกภาคเกษตรคือจำนวนคนที่ได้รับการจ้างงานใหม่ในภาคส่วนต่างๆ ของเศรษฐกิจ ยกเว้นภาคเกษตรกรรม รัฐบาล และครัวเรือนส่วนตัว โดยจะถูกเผยแพร่โดยสำนักงานสถิติแรงงานของสหรัฐอเมริกา (Bureau of Labor Statistics – BLS) ในช่วงต้นเดือนของทุกเดือน ซึ่งจะรายงานข้อมูลการจ้างงานของเดือนก่อนหน้า ตัวอย่างเช่น รายงาน NFP ที่เผยแพร่ในวันที่ 7 กรกฎาคม จะแสดงข้อมูลการจ้างงานของเดือนมิถุนายน
NFP ไม่ได้นับรวมตำแหน่งงานในภาคเกษตรเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลอย่างมาก และไม่นับรวมงานในภาครัฐบาลเนื่องจากเป็นข้อมูลที่ถูกเปิดเผยแยกต่างหาก นอกจากนี้ งานในครัวเรือนส่วนตัว (เช่น แม่บ้าน) ก็ไม่ถูกรวมอยู่ด้วย
- ทำไม NFP ถึงมีความสำคัญ?
NFP เป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญเนื่องจากสะท้อนถึงสุขภาพของเศรษฐกิจโดยรวม การเพิ่มขึ้นของ NFP บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังเติบโตและธุรกิจกำลังจ้างงานมากขึ้น ในขณะที่การลดลงของ NFP บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวหรืออยู่ในภาวะถดถอย ข้อมูล NFP ถูกใช้โดยนักเศรษฐศาสตร์ นักลงทุน และผู้กำหนดนโยบายเพื่อประเมินสถานะของเศรษฐกิจและตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุนและนโยบายทางการเงิน
สำหรับนักลงทุนไบนารี่ออปชั่น NFP เป็นตัวกระตุ้นสำคัญ (market mover) ที่สามารถทำให้เกิดความผันผวนอย่างมากในตลาด การเคลื่อนไหวของราคาที่รวดเร็วและไม่คาดคิดหลังการประกาศ NFP ทำให้เป็นโอกาสในการทำกำไรสำหรับนักเทรดที่เตรียมพร้อม แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกันหากไม่มีการวิเคราะห์ที่รอบคอบ
- วิธีการคำนวณ NFP
BLS คำนวณ NFP โดยการสำรวจสถานประกอบการมากกว่า 144,000 แห่งทั่วประเทศ โดยข้อมูลที่รวบรวมได้จะรวมถึงจำนวนพนักงานทั้งหมด จำนวนพนักงานใหม่ และจำนวนพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง จากนั้น BLS จะปรับข้อมูลตามฤดูกาลเพื่อกำจัดผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล เช่น การจ้างงานชั่วคราวในช่วงเทศกาล
สูตรการคำนวณ NFP โดยทั่วไปคือ:
NFP = จำนวนพนักงานใหม่ – จำนวนพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง + การปรับปรุงตามฤดูกาล
- ปัจจัยที่มีผลต่อ NFP
มีหลายปัจจัยที่สามารถส่งผลกระทบต่อ NFP ได้แก่:
- **การเติบโตทางเศรษฐกิจ:** เมื่อเศรษฐกิจเติบโต ธุรกิจมักจะต้องการพนักงานมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น
- **อัตราดอกเบี้ย:** อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำสามารถกระตุ้นให้ธุรกิจลงทุนและจ้างงานมากขึ้น ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยที่สูงสามารถทำให้ธุรกิจชะลอการลงทุนและการจ้างงาน
- **นโยบายของรัฐบาล:** นโยบายของรัฐบาล เช่น การลดหย่อนภาษี หรือการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน สามารถส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน
- **เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน:** เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เช่น ภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือวิกฤตการณ์ทางการเงิน สามารถส่งผลกระทบต่อการจ้างงานได้
- การตีความรายงาน NFP
การตีความรายงาน NFP ไม่ได้ง่ายเหมือนกับการดูตัวเลขเพียงอย่างเดียว นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ เช่น:
- **อัตราการว่างงาน:** อัตราการว่างงานวัดสัดส่วนของแรงงานที่ว่างงานและกำลังมองหางาน หากอัตราการว่างงานลดลง แสดงว่าเศรษฐกิจกำลังดีขึ้น
- **การเติบโตของค่าจ้าง:** การเติบโตของค่าจ้างบ่งชี้ว่าธุรกิจกำลังแข่งขันกันเพื่อดึงดูดและรักษาพนักงาน ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อ
- **การมีส่วนร่วมของแรงงาน:** การมีส่วนร่วมของแรงงานวัดสัดส่วนของประชากรวัยทำงานที่อยู่ในกำลังแรงงาน หากการมีส่วนร่วมของแรงงานเพิ่มขึ้น แสดงว่าผู้คนมีความมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับโอกาสในการหางาน
- **การปรับปรุงตัวเลข NFP ของเดือนก่อนหน้า:** BLS มักจะปรับปรุงตัวเลข NFP ของเดือนก่อนหน้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการตีความข้อมูล
- NFP กับการเทรดไบนารี่ออปชั่น: กลยุทธ์และการวิเคราะห์
การประกาศ NFP สามารถสร้างโอกาสในการเทรดไบนารี่ออปชั่นมากมาย แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน นักเทรดควรใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมและมีการจัดการความเสี่ยงที่ดี
- กลยุทธ์ที่ใช้กันทั่วไป:**
1. **Straddle:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อทั้ง Call และ Put options ที่มีราคา Strike เดียวกันและวันหมดอายุเดียวกัน เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่คาดว่าราคาจะผันผวนอย่างมากแต่ไม่แน่ใจทิศทาง Straddle strategy 2. **Strangle:** คล้ายกับ Straddle แต่ใช้ราคา Strike ที่แตกต่างกัน (Call option มีราคา Strike ที่สูงกว่า และ Put option มีราคา Strike ที่ต่ำกว่า) เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่คาดว่าราคาจะผันผวนอย่างมากและมีช่วงกว้าง Strangle strategy 3. **Hedging:** ใช้ NFP เพื่อลดความเสี่ยงในตำแหน่งที่มีอยู่ Hedging strategies 4. **Breakout Trading:** คาดการณ์ว่าราคาจะทะลุแนวต้านหรือแนวรับหลังจากประกาศ NFP Breakout trading 5. **Trend Following:** เทรดตามทิศทางของแนวโน้มก่อนและหลังการประกาศ NFP Trend following strategy
- การวิเคราะห์ที่ควรใช้:**
- **การวิเคราะห์ทางเทคนิค:** ใช้เครื่องมือทางเทคนิค เช่น แนวรับ แนวต้าน เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) และ MACD เพื่อระบุโอกาสในการเทรด Technical analysis
- **การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน:** พิจารณาปัจจัยพื้นฐานอื่นๆ เช่น อัตราดอกเบี้ย นโยบายของรัฐบาล และสถานการณ์เศรษฐกิจโลก Fundamental analysis
- **การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis):** สังเกตปริมาณการซื้อขายเพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มหรือการกลับตัวของราคา Volume analysis
- **Bollinger Bands:** ใช้ Bollinger Bands เพื่อวัดความผันผวนและระบุโอกาสในการซื้อหรือขาย Bollinger Bands
- **Fibonacci Retracement:** ใช้ Fibonacci Retracement เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น Fibonacci Retracement
- **Ichimoku Cloud:** ใช้ Ichimoku Cloud เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มและโมเมนตัม Ichimoku Cloud
- **Pivot Points:** ใช้ Pivot Points เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ Pivot Points
- **Relative Strength Index (RSI):** ใช้ RSI เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มและระบุภาวะซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป RSI indicator
- **Moving Average Convergence Divergence (MACD):** ใช้ MACD เพื่อระบุการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตัม MACD indicator
- **Average True Range (ATR):** ใช้ ATR เพื่อวัดความผันผวนของราคา ATR indicator
- **Elliott Wave Theory:** ใช้ Elliott Wave Theory เพื่อวิเคราะห์รูปแบบของราคา Elliott Wave Theory
- **Candlestick Patterns:** ใช้รูปแบบแท่งเทียนเพื่อระบุสัญญาณการกลับตัวของราคา Candlestick patterns
- **Support and Resistance Levels:** ระบุแนวรับและแนวต้านเพื่อตัดสินใจในการเข้าและออกจากการเทรด Support and resistance
- **Chart Patterns:** ใช้รูปแบบกราฟเพื่อทำนายการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต Chart patterns
- ข้อควรระวังในการเทรด NFP
- **ความผันผวนสูง:** ตลาดมักจะผันผวนอย่างมากหลังการประกาศ NFP ซึ่งอาจนำไปสู่การขาดทุนอย่างรวดเร็ว
- **Spread ที่กว้างขึ้น:** Broker บางรายอาจเพิ่ม Spread ก่อนและหลังการประกาศ NFP เพื่อลดความเสี่ยงของตนเอง
- **Slippage:** การ Slippage อาจเกิดขึ้นเมื่อราคาที่ได้รับจริงแตกต่างจากราคาที่คาดหวัง
- **ข่าวปลอม:** ระวังข่าวปลอมหรือข้อมูลที่ไม่ถูกต้องที่อาจแพร่กระจายในตลาด
- สรุป
อัตราการจ้างงานนอกภาคเกษตรเป็นตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดการเงินและตลาดไบนารี่ออปชั่น การเข้าใจความหมาย วิธีการคำนวณ ปัจจัยที่มีผลต่อ และวิธีการนำไปใช้ในการวิเคราะห์ตลาดเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักลงทุนที่ต้องการประสบความสำเร็จ การใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสม การวิเคราะห์อย่างรอบคอบ และการจัดการความเสี่ยงที่ดี จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจาก NFP ได้
| เดือน | ตัวเลข NFP | อัตราการว่างงาน | ผลกระทบต่อตลาด |
| มิถุนายน 2023 | +209,000 | 3.6% | ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้น, ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น |
| พฤษภาคม 2023 | +306,000 | 3.7% | ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้น, ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น |
| เมษายน 2023 | +263,000 | 3.4% | ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้น, ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น |
Bureau of Labor Statistics Binary options trading Market volatility Risk management Economic calendar Forex trading Stock market Interest rates Government policies Global economy Technical indicators Trading strategies Financial markets Trading psychology Position sizing Money management Candlestick analysis Chart analysis Trading platform (Category:Economic indicators)
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
