Trend following strategy
- Trend Following Strategy
- Trend Following Strategy** คือ กลยุทธ์การซื้อขายที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในตลาดการเงิน รวมถึงตลาด ไบนารี่ออปชั่น ด้วย หลักการพื้นฐานของกลยุทธ์นี้คือ การระบุแนวโน้ม (Trend) ของราคา และทำการซื้อขายตามทิศทางของแนวโน้มนั้นๆ โดยเชื่อว่าแนวโน้มที่มีอยู่จะดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่ง กลยุทธ์นี้ไม่ได้พยายามคาดการณ์จุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดของราคา แต่เน้นการเข้าซื้อขายตามทิศทางของแนวโน้มที่เกิดขึ้นแล้ว
- ทำความเข้าใจเกี่ยวกับแนวโน้ม (Trend)
แนวโน้มคือ ทิศทางโดยรวมของการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงเวลาหนึ่ง สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ คือ
- **แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend):** ราคาเคลื่อนที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีจุดต่ำสุด (Low) และจุดสูงสุด (High) ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
- **แนวโน้มขาลง (Downtrend):** ราคาเคลื่อนที่ต่ำลงอย่างต่อเนื่อง โดยมีจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่ต่ำลงเรื่อยๆ
- **แนวโน้ม Sideways (Sideways Trend):** ราคาเคลื่อนที่ในกรอบแคบๆ ไม่สามารถระบุทิศทางที่ชัดเจนได้
การระบุแนวโน้มที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการใช้กลยุทธ์ Trend Following Strategy ซึ่งสามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือและเทคนิคต่างๆ ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น เส้นแนวโน้ม (Trend Lines), ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages), MACD (Moving Average Convergence Divergence) และ RSI (Relative Strength Index)
- หลักการทำงานของ Trend Following Strategy ในไบนารี่ออปชั่น
ในตลาดไบนารี่ออปชั่น กลยุทธ์ Trend Following Strategy จะถูกนำมาประยุกต์ใช้โดยการตัดสินใจว่าจะ “Call” (ซื้อ) หรือ “Put” (ขาย) ตามทิศทางของแนวโน้มที่ระบุได้
- **แนวโน้มขาขึ้น:** หากระบุได้ว่าราคามีแนวโน้มขาขึ้น นักเทรดจะเลือก “Call” โดยคาดการณ์ว่าราคาจะสูงขึ้นเมื่อถึงเวลาหมดอายุของออปชั่น
- **แนวโน้มขาลง:** หากระบุได้ว่าราคามีแนวโน้มขาลง นักเทรดจะเลือก “Put” โดยคาดการณ์ว่าราคาจะต่ำลงเมื่อถึงเวลาหมดอายุของออปชั่น
- **แนวโน้ม Sideways:** ในกรณีที่ราคามีแนวโน้ม Sideways การใช้กลยุทธ์ Trend Following Strategy อาจไม่เหมาะสม หรืออาจต้องใช้ร่วมกับกลยุทธ์อื่นๆ เช่น Range Trading
- เครื่องมือและตัวชี้วัดที่ใช้ในการระบุแนวโน้ม
มีเครื่องมือและตัวชี้วัดมากมายที่สามารถนำมาใช้ในการระบุแนวโน้มได้ แต่ที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปมีดังนี้
- **เส้นแนวโน้ม (Trend Lines):** เป็นเส้นที่เชื่อมต่อจุดต่ำสุด (Low) ในแนวโน้มขาขึ้น หรือจุดสูงสุด (High) ในแนวโน้มขาลง การทะลุเส้นแนวโน้มอาจบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม
- **ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages):** เป็นค่าเฉลี่ยของราคาในช่วงเวลาที่กำหนด ช่วยให้เห็นทิศทางของแนวโน้มได้ชัดเจนขึ้น เช่น Simple Moving Average (SMA) และ Exponential Moving Average (EMA)
- **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** เป็นตัวชี้วัดโมเมนตัมที่ช่วยระบุการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มและความแข็งแกร่งของแนวโน้ม
- **RSI (Relative Strength Index):** เป็นตัวชี้วัดโมเมนตัมที่ช่วยวัดความเร็วและขนาดของการเปลี่ยนแปลงของราคา สามารถใช้ในการระบุภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) และขายมากเกินไป (Oversold)
- **Bollinger Bands:** เป็นเครื่องมือที่แสดงความผันผวนของราคา โดยประกอบด้วยเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่และเส้นขอบบนและล่าง
- **Ichimoku Cloud:** เป็นระบบการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ครอบคลุม ประกอบด้วยหลายองค์ประกอบที่ช่วยในการระบุแนวโน้มและระดับแนวรับแนวต้าน
- การตั้งค่าเวลาหมดอายุ (Expiry Time) ของออปชั่น
การเลือกเวลาหมดอายุของออปชั่นที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการใช้กลยุทธ์ Trend Following Strategy โดยทั่วไปแล้ว เวลาหมดอายุควรสอดคล้องกับกรอบเวลาที่ใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้ม
- **กรอบเวลาสั้น:** หากใช้การวิเคราะห์แนวโน้มในกรอบเวลาสั้น (เช่น 5 นาที, 15 นาที) เวลาหมดอายุของออปชั่นควรสั้นตามไปด้วย (เช่น 15 นาที, 30 นาที)
- **กรอบเวลานาน:** หากใช้การวิเคราะห์แนวโน้มในกรอบเวลานาน (เช่น 1 ชั่วโมง, 4 ชั่วโมง) เวลาหมดอายุของออปชั่นควรนานตามไปด้วย (เช่น 1 ชั่วโมง, 2 ชั่วโมง)
การตั้งค่าเวลาหมดอายุที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร และลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ไม่คาดคิด
- การบริหารความเสี่ยง (Risk Management)
การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น รวมถึงการใช้กลยุทธ์ Trend Following Strategy ด้วย
- **การกำหนดขนาดการลงทุน (Position Sizing):** ไม่ควรลงทุนเกินกว่า 2-5% ของเงินทุนทั้งหมดในการซื้อขายแต่ละครั้ง
- **การตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss):** แม้ว่ากลยุทธ์ Trend Following Strategy จะเน้นการติดตามแนวโน้ม แต่การตั้งจุดตัดขาดทุนจะช่วยจำกัดความเสี่ยงในกรณีที่แนวโน้มเปลี่ยนแปลง
- **การใช้บัญชีทดลอง (Demo Account):** ก่อนที่จะเริ่มซื้อขายด้วยเงินจริง ควรทดลองใช้กลยุทธ์ Trend Following Strategy ในบัญชีทดลองก่อน เพื่อทำความเข้าใจและปรับปรุงกลยุทธ์ให้เหมาะสม
- ข้อดีและข้อเสียของ Trend Following Strategy
- ข้อดี:**
- **ง่ายต่อการเข้าใจ:** กลยุทธ์นี้มีหลักการที่ไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
- **มีโอกาสทำกำไรสูง:** หากระบุแนวโน้มที่แข็งแกร่งได้ถูกต้อง กลยุทธ์นี้สามารถสร้างผลกำไรได้อย่างต่อเนื่อง
- **สามารถใช้ได้กับตลาดหลากหลาย:** กลยุทธ์นี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับตลาดการเงินต่างๆ
- ข้อเสีย:**
- **อาจพลาดโอกาสในการทำกำไรในช่วง Sideways:** ในช่วงที่ราคามีแนวโน้ม Sideways กลยุทธ์นี้อาจไม่สามารถสร้างผลกำไรได้
- **อาจเกิดสัญญาณหลอก (False Signals):** เครื่องมือและตัวชี้วัดที่ใช้ในการระบุแนวโน้มอาจให้สัญญาณหลอกได้
- **ต้องมีความอดทน:** การรอคอยการเกิดแนวโน้มที่ชัดเจนอาจต้องใช้ความอดทน
- กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง
- Breakout Trading: การซื้อขายเมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้าน
- Range Trading: การซื้อขายในช่วงที่ราคามีแนวโน้ม Sideways
- Scalping: การซื้อขายระยะสั้นเพื่อทำกำไรเล็กน้อย
- Swing Trading: การซื้อขายเพื่อทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในระยะกลาง
- Fibonacci Retracement: การใช้ระดับ Fibonacci เพื่อระบุแนวรับแนวต้าน
- Elliott Wave Theory: การวิเคราะห์รูปแบบของคลื่นราคาเพื่อคาดการณ์แนวโน้ม
- Price Action: การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาโดยไม่ใช้ตัวชี้วัด
- Candlestick Patterns: การวิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียนเพื่อคาดการณ์แนวโน้ม
- Support and Resistance: การระบุระดับแนวรับและแนวต้าน
- Head and Shoulders Pattern: รูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม
- Double Top/Bottom: รูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม
- Triangles: รูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการพักตัวของแนวโน้ม
- Harmonic Patterns: รูปแบบแท่งเทียนที่ซับซ้อนซึ่งใช้ในการคาดการณ์แนวโน้ม
- Ichimoku Kinko Hyo: ระบบการวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบครบวงจร
- Three Line Break: กลยุทธ์การซื้อขายที่ใช้การทะลุสามเส้น
- การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis)
การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายควบคู่ไปกับการวิเคราะห์แนวโน้มสามารถช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจซื้อขายได้ ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นในทิศทางของแนวโน้มจะช่วยยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มนั้นๆ
- สรุป
Trend Following Strategy เป็นกลยุทธ์การซื้อขายที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นในการทำความเข้าใจหลักการพื้นฐานของการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น อย่างไรก็ตาม การประสบความสำเร็จในการใช้กลยุทธ์นี้ต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับแนวโน้ม การใช้เครื่องมือและตัวชี้วัดที่เหมาะสม การบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ และการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ (Category:Trading strategies)
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

