รูปแบบแท่งเทียนพื้นฐานที่ควรรู้สำหรับผู้เริ่มต้น

การทำความเข้าใจรูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns) เป็นรากฐานสำคัญที่สุดสำหรับผู้ที่เริ่มต้นเข้าสู่โลกของการเทรด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเทรด Binary option ซึ่งการตัดสินใจซื้อขายมักขึ้นอยู่กับการคาดการณ์ทิศทางราคาในระยะเวลาอันสั้น รูปแบบแท่งเทียนช่วยให้เราสามารถ "อ่าน" อารมณ์และความต้องการของตลาด ณ ช่วงเวลาหนึ่งได้

บทความนี้จะเน้นไปที่การทำความเข้าใจองค์ประกอบพื้นฐานของแท่งเทียน และรูปแบบพื้นฐานที่สำคัญที่สุด 3-4 รูปแบบ เพื่อให้ผู้เริ่มต้นสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจเปิด Call option หรือ Put option ได้อย่างมีหลักการมากขึ้น

องค์ประกอบพื้นฐานของแท่งเทียน

แท่งเทียนเป็นเครื่องมือแสดงภาพราคาย้อนหลังที่พัฒนามาจากประเทศญี่ปุ่น โดยแต่ละแท่งจะแสดงข้อมูลราคา 4 อย่างในช่วงเวลาที่กำหนด (เช่น 1 นาที, 5 นาที, 1 ชั่วโมง) ข้อมูลสี่อย่างนี้คือ: ราคาเปิด (Open), ราคาสูงสุด (High), ราคาต่ำสุด (Low), และราคาปิด (Close)

1. ตัวแท่ง (Body)

ตัวแท่งคือส่วนที่หนาที่สุดของแท่งเทียน แสดงช่วงระหว่างราคาเปิดและราคาปิด

**แท่งเทียนขาขึ้น (Bullish/White Candle):** ราคาปิดอยู่สูงกว่าราคาเปิด ตัวแท่งมักแสดงเป็นสีขาวหรือสีเขียว (ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าแพลตฟอร์ม เช่น IQ Option หรือ Pocket Option) หมายความว่าราคามีแรงซื้อเข้ามามากกว่าแรงขายในช่วงเวลานั้น
**แท่งเทียนขาลง (Bearish/Black Candle):** ราคาปิดอยู่ต่ำกว่าราคาเปิด ตัวแท่งมักแสดงเป็นสีดำหรือสีแดง หมายความว่าราคามีแรงขายเข้ามามากกว่าแรงซื้อในช่วงเวลานั้น

2. ไส้เทียน (Wicks หรือ Shadows)

ไส้เทียนคือเส้นบางๆ ที่ยื่นออกมาจากตัวแท่งด้านบนและด้านล่าง

**ไส้เทียนด้านบน (Upper Shadow):** แสดงราคาสูงสุดที่ตลาดไปถึง (High) ในช่วงเวลานั้น
**ไส้เทียนด้านล่าง (Lower Shadow):** แสดงราคาต่ำสุดที่ตลาดลงไปถึง (Low) ในช่วงเวลานั้น

ความยาวของไส้เทียนมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันบ่งบอกถึงการปฏิเสธราคา (Price Rejection) หากไส้เทียนยาวมาก แสดงว่าราคาเคยพยายามไปถึงระดับนั้น แต่ถูกผลักดันกลับมาอย่างรุนแรง

3. กรอบเวลา (Time Frame)

สำหรับผู้เทรด Binary option กรอบเวลาที่ใช้ในการวิเคราะห์ (เช่น 1 นาที, 5 นาที) จะส่งผลโดยตรงต่อการกำหนด Expiry time (ระยะเวลาหมดอายุสัญญา) รูปแบบแท่งเทียนที่เราเห็นบนกราฟ 5 นาที จะมีน้ำหนักในการตัดสินใจมากกว่ารูปแบบที่เกิดขึ้นบนกราฟ 1 นาทีเพียงแท่งเดียว

รูปแบบแท่งเทียนพื้นฐานที่ต้องรู้จัก

รูปแบบแท่งเทียนสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มหลักๆ คือ รูปแบบที่บ่งบอกถึงการกลับตัว (Reversal) และรูปแบบที่บ่งบอกถึงการต่อเนื่อง (Continuation) สำหรับผู้เริ่มต้น เราจะเน้นที่รูปแบบพื้นฐานที่มักปรากฏบริเวณแนวรับหรือแนวต้าน ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการหาจังหวะเทรดตามหลัก การใช้แนวรับแนวต้านเพื่อหาจุดกลับตัวหรือทะลุผ่าน

1. แท่งเทียนแบบมีกำลัง (Strong Candlesticks)

นี่คือแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงความชัดเจนของทิศทางในกรอบเวลานั้นๆ

**Marubozu (มารุโบซุ):**

   *   **ลักษณะ:** เป็นแท่งเทียนที่มีตัว Body ยาวมาก และแทบไม่มีไส้เทียนเลย (หรือมีน้อยมากทั้งบนและล่าง)
   *   **ความหมาย:**
       *   Marubozu ขาขึ้น (สีขาว/เขียว): ผู้ซื้อควบคุมตลาดได้อย่างสมบูรณ์ ราคาเปิดคือราคาต่ำสุด และราคาปิดคือราคาสูงสุด
       *   Marubozu ขาลง (สีดำ/แดง): ผู้ขายควบคุมตลาดได้อย่างสมบูรณ์ ราคาเปิดคือราคาสูงสุด และราคาปิดคือราคาต่ำสุด
   *   **การใช้งาน:** หากเกิด Marubozu ที่แข็งแกร่งในช่วงที่มี Trend ชัดเจน มักบ่งบอกว่าแนวโน้มนั้นจะดำเนินต่อไป

2. รูปแบบการกลับตัวพื้นฐาน (Basic Reversal Patterns)

รูปแบบเหล่านี้สำคัญมากในการหาจุดเข้าเทรดเมื่อราคามาถึงระดับที่มีนัยสำคัญ เช่น แนวรับหรือแนวต้าน

2.1. ค้อน (Hammer) และ คนแขวนคอ (Hanging Man)

สองรูปแบบนี้มีโครงสร้างทางกายภาพเหมือนกัน แต่มีความหมายต่างกันขึ้นอยู่กับบริบทที่เกิด

**ลักษณะทางกายภาพ:** มีตัว Body เล็กๆ อยู่ด้านบน และมีไส้เทียนด้านล่างยาวอย่างน้อย 2-3 เท่าของความยาวตัว Body ส่วนไส้เทียนด้านบนสั้นมากหรือไม่มีเลย
**Hammer (ค้อน):**

   *   **บริบท:** เกิดขึ้นหลังจากการปรับตัวลง (Downtrend)
   *   **ความหมาย:** บ่งชี้ถึงการกลับตัวเป็นขาขึ้น (Bullish Reversal) แม้ว่าผู้ขายจะพยายามกดราคาลงไปต่ำมาก (ไส้เทียนล่างยาว) แต่ผู้ซื้อสามารถผลักดันราคากลับขึ้นมาปิดใกล้ราคาเปิดได้ นี่คือสัญญาณว่าแรงขายเริ่มอ่อนแอ
   *   **การเข้าเทรด (Call Option):** หากเกิด Hammer ที่แนวรับที่แข็งแกร่ง ให้รอแท่งเทียนถัดไปยืนยัน หากแท่งถัดไปเป็นขาขึ้น ให้เข้า Call

**Hanging Man (คนแขวนคอ):**

   *   **บริบท:** เกิดขึ้นหลังจากการปรับตัวขึ้น (Uptrend)
   *   **ความหมาย:** บ่งชี้ถึงการกลับตัวเป็นขาลง (Bearish Reversal) แม้ว่าผู้ซื้อจะพยายามดันราคาขึ้น แต่ผู้ขายสามารถกดราคาลงมาได้มากในช่วงท้ายของช่วงเวลานั้น เป็นสัญญาณเตือนว่าแรงซื้อเริ่มหมดกำลัง
   *   **การเข้าเทรด (Put Option):** หากเกิด Hanging Man ที่แนวต้าน ให้รอแท่งเทียนถัดไปยืนยัน หากแท่งถัดไปเป็นขาลง ให้เข้า Put

2.2. ดาวตก (Shooting Star) และ หัวค้อนคว่ำ (Inverted Hammer)

สองรูปแบบนี้ก็มีโครงสร้างทางกายภาพเหมือนกัน แต่ความหมายต่างกันตามบริบท

**ลักษณะทางกายภาพ:** มีตัว Body เล็กๆ อยู่ด้านล่าง และมีไส้เทียนด้านบนยาวอย่างน้อย 2-3 เท่าของความยาวตัว Body ส่วนไส้เทียนด้านล่างสั้นมากหรือไม่มีเลย
**Shooting Star (ดาวตก):**

   *   **บริบท:** เกิดขึ้นหลังจากการปรับตัวขึ้น (Uptrend)
   *   **ความหมาย:** บ่งชี้ถึงการกลับตัวเป็นขาลง (Bearish Reversal) ผู้ซื้อพยายามดันราคาขึ้นไปสูงมาก (ไส้เทียนบนยาว) แต่สุดท้ายผู้ขายก็เข้ามาผลักดันให้ราคาปิดใกล้ราคาเปิด นี่คือสัญญาณเตือนแรงซื้อ
   *   **การเข้าเทรด (Put Option):** หากเกิด Shooting Star ที่แนวต้านที่ชัดเจน ให้จับตาดูแท่งเทียนถัดไปเพื่อยืนยันการลง

**Inverted Hammer (หัวค้อนคว่ำ):**

   *   **บริบท:** เกิดขึ้นหลังจากการปรับตัวลง (Downtrend)
   *   **ความหมาย:** บ่งชี้ถึงการกลับตัวเป็นขาขึ้น (Bullish Reversal) ผู้ซื้อพยายามดันราคาขึ้นไปสูงเพื่อทดสอบแนวต้าน แต่ราคาถูกปฏิเสธลงมาบ้าง แต่การที่ราคาพยายามขึ้นไปได้สูงนั้นเป็นสัญญาณบวก
   *   **การเข้าเทรด (Call Option):** หากเกิด Inverted Hammer ที่แนวรับ ให้รอแท่งเทียนถัดไปยืนยันการขึ้น

3. รูปแบบแท่งเทียนคู่ (Two-Candle Patterns)

รูปแบบเหล่านี้ต้องอาศัยแท่งเทียนสองแท่งมาประกอบกันเพื่อยืนยันสัญญาณ

3.1. แท่งเทียนกลืนกิน (Engulfing Pattern)

เป็นรูปแบบการกลับตัวที่ทรงพลังมากรูปแบบหนึ่ง

**Bullish Engulfing (กลืนกินขาขึ้น):**

   *   **ลักษณะ:** แท่งเทียนขาลง (แท่งที่ 1) ตามมาด้วยแท่งเทียนขาขึ้น (แท่งที่ 2) ที่มี Body ใหญ่พอที่จะ "กลืนกิน" Body ของแท่งที่ 1 ทั้งหมด
   *   **ความหมาย:** แสดงถึงการพลิกผันของโมเมนตัมอย่างรุนแรง แรงซื้อเข้ามาเอาชนะแรงขายที่เคยมีอยู่ทั้งหมด
   *   **การใช้งาน:** มักเกิดที่แนวรับ หากเกิดรูปแบบนี้หลังตลาดลงมานาน ถือเป็นสัญญาณแรงสำหรับการเปิด Call option

**Bearish Engulfing (กลืนกินขาลง):**

   *   **ลักษณะ:** แท่งเทียนขาขึ้น (แท่งที่ 1) ตามมาด้วยแท่งเทียนขาลง (แท่งที่ 2) ที่มี Body ใหญ่พอที่จะ "กลืนกิน" Body ของแท่งที่ 1 ทั้งหมด
   *   **ความหมาย:** แสดงถึงการพลิกผันของโมเมนตัมอย่างรุนแรง แรงขายเข้ามาเอาชนะแรงซื้อที่เคยมีอยู่ทั้งหมด
   *   **การใช้งาน:** มักเกิดที่แนวต้าน หากเกิดรูปแบบนี้หลังตลาดขึ้นมานาน ถือเป็นสัญญาณแรงสำหรับการเปิด Put option

3.2. เข็มหมุด (Pin Bar) หรือ รูปแบบค้อน/ดาวตก แบบสุดโต่ง

แม้ว่า Hammer และ Shooting Star จะเป็นแท่งเทียนเดี่ยว แต่เมื่อไส้เทียนยาวมากจนเกินกว่า 2 ใน 3 ของความยาวแท่งทั้งหมด มันจะถูกเรียกว่า Pin Bar ซึ่งเน้นย้ำถึงการปฏิเสธราคาที่รุนแรง

**Pin Bar (ขาขึ้น):** ไส้บนสั้นมาก ไส้ล่างยาวมาก เกิดที่แนวรับ = สัญญาณกลับตัวขึ้นแรง
**Pin Bar (ขาลง):** ไส้ล่างสั้นมาก ไส้บนยาวมาก เกิดที่แนวต้าน = สัญญาณกลับตัวลงแรง

การยืนยันและการนำไปใช้ใน Binary Option

ในตลาด Binary option เราต้องการความแม่นยำสูงเพราะเรามีเวลาจำกัด (จำกัด Expiry time) ดังนั้น การเห็นรูปแบบแท่งเทียนเพียงอย่างเดียวจึงไม่เพียงพอ เราต้องมีกฎการยืนยันเสมอ

กฎการยืนยันสัญญาณ (Validation Rules)

**บริบทของตลาด:** รูปแบบการกลับตัว (เช่น Hammer, Engulfing) จะมีความน่าเชื่อถือสูงเมื่อเกิดขึ้นที่แนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ หรือเมื่อเกิดที่จุดสิ้นสุดของ Trend ที่ยาวนาน
**แท่งเทียนยืนยัน (Confirmation Candle):** ห้ามเข้าเทรดทันทีที่รูปแบบจบลง ต้องรอให้แท่งเทียนถัดไปยืนยันทิศทางนั้นๆ

   *   หากคาดหวังการกลับตัวขึ้น (Bullish Reversal) แท่งเทียนยืนยันควรเป็นแท่งขาขึ้นที่ปิดเหนือราคาเปิดของแท่งสัญญาณ
   *   หากคาดหวังการกลับตัวลง (Bearish Reversal) แท่งเทียนยืนยันควรเป็นแท่งขาลงที่ปิดต่ำกว่าราคาเปิดของแท่งสัญญาณ

**ขนาดของ Body:** ยิ่ง Body ของแท่งเทียนยืนยันมีขนาดใหญ่เท่าไหร่ สัญญาณก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น

การกำหนด Expiry Time สำหรับรูปแบบพื้นฐาน

เนื่องจากรูปแบบเหล่านี้มักใช้ในการจับการกลับตัวในระยะสั้นถึงกลาง การเลือก Expiry time จึงสัมพันธ์กับกรอบเวลาที่คุณใช้ดูรูปแบบ:

หากดูรูปแบบบนกราฟ 1 นาที: อาจเลือก Expiry Time 2-3 นาที
หากดูรูปแบบบนกราฟ 5 นาที: อาจเลือก Expiry Time 10-15 นาที

การเลือก Expiry Time ที่เหมาะสมเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนการเทรดทั้งหมด และต้องสอดคล้องกับหลัก Risk management เสมอ

การตั้งค่าความเสี่ยง (Realistic Expectations and Risks)

รูปแบบแท่งเทียนไม่ใช่เครื่องมือวิเศษที่จะทำนายอนาคตได้อย่างสมบูรณ์ 100%

**ความเสี่ยงหลัก:** รูปแบบอาจไม่สมบูรณ์ หรือตลาดอาจทะลุแนวรับ/แนวต้านไปได้แม้จะมีสัญญาณกลับตัวก็ตาม สิ่งนี้เรียกว่า "False Signal"
**การจัดการความเสี่ยง:** ห้ามลงทุนเกินกว่าที่กำหนดไว้ในแผน Position sizing ของคุณ แม้สัญญาณจะดูดีเพียงใดก็ตาม นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จจะยอมรับว่าการเทรดทุกครั้งมีความเสี่ยงที่จะเป็น Out-of-the-money เสมอ หากคุณคาดหวังอัตราความสำเร็จที่ 80% จากการใช้รูปแบบแท่งเทียน คุณจะต้องมีวินัยในการยอมรับความผิดพลาด 20% นั้นด้วย นี่คือหัวใจสำคัญของ การควบคุมอารมณ์และความมีวินัยในการเทรด

ตารางสรุปรูปแบบกลับตัวพื้นฐาน

รูปแบบ	บริบทที่เกิด	สัญญาณหลัก	การเข้าเทรดเบื้องต้น
Hammer	หลัง Downtrend (ที่แนวรับ)	แรงซื้อเริ่มกลับมา	Call Option (รอแท่งยืนยัน)
Inverted Hammer	หลัง Downtrend (ที่แนวรับ)	ความพยายามของแรงซื้อ	Call Option (รอแท่งยืนยัน)
Hanging Man	หลัง Uptrend (ที่แนวต้าน)	แรงขายเริ่มกดดัน	Put Option (รอแท่งยืนยัน)
Shooting Star	หลัง Uptrend (ที่แนวต้าน)	แรงขายเข้ามาอย่างรวดเร็ว	Put Option (รอแท่งยืนยัน)
Bullish Engulfing	ที่แนวรับสำคัญ	การพลิกกลับของโมเมนตัมแรง	Call Option

ข้อผิดพลาดทั่วไปของผู้เริ่มต้นในการใช้แท่งเทียน

ผู้เริ่มต้นมักทำผิดพลาดซ้ำๆ เมื่อพยายามใช้รูปแบบแท่งเทียนในการเทรด Binary option

**การซื้อขายตามรูปแบบที่โดดเดี่ยว:** การเห็น Hammer เกิดขึ้นกลางตลาดที่ไม่มี Trend หรือไม่มีแนวรับ/แนวต้านรองรับ มักนำไปสู่การขาดทุน
**การละเลยการยืนยัน:** เข้าเทรดทันทีที่แท่งสัญญาณจบ โดยไม่รอแท่งถัดไปยืนยันทิศทาง
**การใช้กรอบเวลาสั้นเกินไป:** การดูรูปแบบบนกราฟ 15 วินาที หรือ 30 วินาที มักให้สัญญาณรบกวน (Noise) มากเกินไป ทำให้การตัดสินใจขาดความน่าเชื่อถือ
**การไม่บันทึกผล:** ไม่มีการบันทึกผลการเทรดที่ใช้รูปแบบแท่งเทียนเพื่อนำไปปรับปรุงใน Trading journal ทำให้ไม่ทราบว่ารูปแบบใดใช้ได้ผลดีกับสินทรัพย์ใด

แนวทางปฏิบัติและการทดสอบย้อนหลังอย่างง่าย (Backtesting Idea) =

ก่อนนำเงินจริงไปเสี่ยงในการเทรด Binary option คุณควรทดสอบรูปแบบที่คุณเรียนรู้

**เลือกสินทรัพย์:** เลือกคู่สกุลเงินหรือสินทรัพย์ที่คุณสนใจ (เช่น EUR/USD) และกำหนดกรอบเวลา (เช่น 5 นาที)
**กำหนดกฎ:** ตัดสินใจว่าจะเทรดเฉพาะรูปแบบ Bullish Engulfing และ Bearish Engulfing เท่านั้น เมื่อเกิดขึ้นที่แนวรับ/แนวต้านที่ชัดเจน
**ย้อนดูข้อมูล:** เลื่อนดูกราฟย้อนหลังไป 50-100 ครั้ง
**บันทึกผล:** สำหรับทุกครั้งที่รูปแบบเกิดขึ้น ให้บันทึก:

   *   รูปแบบที่เกิดขึ้น (เช่น Bearish Engulfing)
   *   ตำแหน่ง (แนวรับ/แนวต้าน)
   *   ผลลัพธ์ของการเทรด (In-the-money หรือ Out-of-the-money)
   *   Expiry time ที่ใช้ (เช่น 3 เท่าของกรอบเวลา)

**วิเคราะห์:** คำนวณอัตราความสำเร็จ หากอัตราความสำเร็จสูงกว่าอัตราที่คุณต้องการเพื่อให้ครอบคลุมการขาดทุน (เช่น 60-70%) คุณจึงค่อยพิจารณาใช้ในบัญชีจริงภายใต้การควบคุม Risk management ที่เข้มงวด

การทำความเข้าใจรูปแบบแท่งเทียนเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ เทคนิคการอ่านกราฟและสัญญาณสำหรับ Options แบบ Binary ที่ควรรู้คืออะไร? แต่เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดในการสร้างความได้เปรียบในการเทรด

ดูเพิ่มเติม (บนไซต์นี้)

บทความแนะนำ

Recommended Binary Options Platforms

Platform	Why beginners choose it	Register / Offer
IQ Option	Simple interface, popular asset list, quick order entry	IQ Option Registration
Pocket Option	Fast execution, tournaments, multiple expiration choices	Pocket Option Registration

Join Our Community

Subscribe to our Telegram channel @copytradingall for analytics, free signals, and much more!

รูปแบบแท่งเทียนพื้นฐานที่ควรรู้สำหรับผู้เริ่มต้น

Contents