(Approx. 7800 tokens)

ประวัติศาสตร์ ของ Apple

Apple Inc. เป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก มีประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยนวัตกรรม ความเสี่ยง และการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นในโรงรถเล็กๆ ในแคลิฟอร์เนีย ไปจนถึงการเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดแห่งหนึ่งในโลก เรื่องราวของ Apple เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการและนักเทคโนโลยีทั่วโลก บทความนี้จะเจาะลึกถึงประวัติศาสตร์ของ Apple อย่างละเอียด โดยแบ่งออกเป็นช่วงเวลาสำคัญต่างๆ

จุดเริ่มต้นและการก่อตั้ง (1976-1980)

จุดเริ่มต้นของ Apple เริ่มต้นในปี 1976 เมื่อ สตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) และ สตีฟ วอซเนียก (Steve Wozniak) สองเพื่อนที่หลงใหลในเทคโนโลยี ได้ร่วมกันก่อตั้ง Apple Computer Company ในโรงรถของบ้านจ็อบส์ในลอสอัลโตส รัฐแคลิฟอร์เนีย วอซเนียกเป็นผู้สร้าง Apple I ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเครื่องแรกของ Apple แต่จ็อบส์เป็นผู้มองเห็นศักยภาพในการนำคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลไปสู่ตลาดมวลชน

Apple I เปิดตัวในปี 1976 และขายได้ประมาณ 200 เครื่อง แต่เป็น Apple II ในปี 1977 ที่ทำให้ Apple ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง Apple II เป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเครื่องแรกที่มีกราฟิกสีและเสียง ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้งานทั่วไปและในสถานศึกษา การออกแบบที่ใช้งานง่ายและความสามารถในการใช้งานที่หลากหลายของ Apple II ทำให้มันกลายเป็นมาตรฐานสำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในยุคแรกๆ

ในช่วงต้นทศวรรษ 1980 Apple ได้เข้าสู่ตลาด หุ้น IPO (Initial Public Offering) ในปี 1980 ซึ่งเป็นหนึ่งในการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนครั้งแรกที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ทำให้ Apple กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามหาศาล และเปิดโอกาสให้บริษัทขยายธุรกิจและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ

ยุคของ Macintosh (1984-1997)

ในปี 1984 Apple ได้เปิดตัว Macintosh ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ที่ปฏิวัติวงการด้วยอินเทอร์เฟซผู้ใช้แบบกราฟิก (GUI) และเมาส์ Macintosh ทำให้การใช้งานคอมพิวเตอร์ง่ายขึ้นสำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับภาษาโปรแกรม และเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของการคำนวณส่วนบุคคล

แม้ว่า Macintosh จะเป็นนวัตกรรมที่สำคัญ แต่ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ในทันที เนื่องจากราคาที่สูงและข้อจำกัดด้านซอฟต์แวร์ นอกจากนี้ สตีฟ จ็อบส์ยังถูกไล่ออกจาก Apple ในปี 1985 เนื่องจากความขัดแย้งกับผู้บริหารคนอื่นๆ

ในช่วงทศวรรษ 1990 Apple ประสบปัญหาทางการเงินและส่วนแบ่งการตลาดลดลงอย่างต่อเนื่อง บริษัทพยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น Newton MessagePad ซึ่งเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ PDA (Personal Digital Assistant) เครื่องแรกๆ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

การกลับมาของสตีฟ จ็อบส์ และยุคแห่งนวัตกรรม (1997-2011)

ในปี 1997 สตีฟ จ็อบส์ได้กลับมายัง Apple ในฐานะ CEO ชั่วคราว และเริ่มแผนการพลิกฟื้นบริษัท จ็อบส์ได้ตัดลดผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำกำไรและมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมและใช้งานง่าย

ในปี 1998 Apple ได้เปิดตัว iMac ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ all-in-one ที่มีดีไซน์ที่สวยงามและใช้งานง่าย iMac ประสบความสำเร็จอย่างมากและช่วยให้ Apple กลับมามีกำไรอีกครั้ง

ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 Apple ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่นิยมอย่างมาก เช่น iPod ซึ่งเป็นเครื่องเล่นเพลงดิจิทัลแบบพกพาที่ปฏิวัติวงการ และ iTunes Store ซึ่งเป็นร้านค้าออนไลน์สำหรับเพลงและสื่อดิจิทัลอื่นๆ iPod และ iTunes ช่วยให้ Apple สร้างระบบนิเวศของผลิตภัณฑ์และบริการที่แข็งแกร่ง

ในปี 2007 Apple ได้เปิดตัว iPhone ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนที่ปฏิวัติวงการ iPhone เป็นอุปกรณ์อเนกประสงค์ที่รวมเอาโทรศัพท์มือถือ เครื่องเล่นเพลง และอินเทอร์เน็ตเข้าไว้ด้วยกัน iPhone ประสบความสำเร็จอย่างมากและทำให้ Apple กลายเป็นผู้นำตลาดสมาร์ทโฟน

ในปี 2010 Apple ได้เปิดตัว iPad ซึ่งเป็นแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ที่สร้างตลาดใหม่ iPad เป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานง่ายและพกพาได้ ซึ่งเหมาะสำหรับการท่องอินเทอร์เน็ต ดูวิดีโอ และอ่านหนังสือ

ยุคหลังสตีฟ จ็อบส์ และการเติบโตอย่างต่อเนื่อง (2011-ปัจจุบัน)

ในปี 2011 สตีฟ จ็อบส์เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับ ทิม คุก (Tim Cook) ผู้บริหารระดับสูงของ Apple ได้รับแต่งตั้งให้เป็น CEO แทน

ภายใต้การนำของทิม คุก Apple ได้เติบโตอย่างต่อเนื่องและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น Apple Watch ซึ่งเป็นสมาร์ทวอทช์ที่เน้นด้านสุขภาพและการออกกำลังกาย และ AirPods ซึ่งเป็นหูฟังไร้สายที่ได้รับความนิยมอย่างมาก

Apple ยังได้ขยายบริการของตน เช่น Apple Music ซึ่งเป็นบริการสตรีมมิ่งเพลง และ Apple TV+ ซึ่งเป็นบริการสตรีมมิ่งวิดีโอ

ปัจจุบัน Apple เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดในโลก และยังคงเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี

ตารางสรุปช่วงเวลาสำคัญ

ช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์ของ Apple
ปี	เหตุการณ์สำคัญ
1976	ก่อตั้ง Apple Computer Company
1977	เปิดตัว Apple II
1980	Apple เข้าสู่ตลาดหุ้น IPO
1984	เปิดตัว Macintosh
1985	สตีฟ จ็อบส์ถูกไล่ออกจาก Apple
1997	สตีฟ จ็อบส์กลับมา Apple
1998	เปิดตัว iMac
2001	เปิดตัว iPod
2007	เปิดตัว iPhone
2010	เปิดตัว iPad
2011	สตีฟ จ็อบส์เสียชีวิต, ทิม คุกเป็น CEO
ปัจจุบัน	Apple ยังคงเติบโตและเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม

การวิเคราะห์ทางเทคนิคและกลยุทธ์การลงทุน

การวิเคราะห์หุ้น Apple (AAPL) สามารถทำได้โดยใช้หลายวิธี ทั้งการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การวิเคราะห์ทางเทคนิค และการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย

**การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน:** พิจารณาผลประกอบการของบริษัท อัตราการเติบโตของรายได้ และความสามารถในการแข่งขัน
**การวิเคราะห์ทางเทคนิค:** ใช้กราฟราคาและ ตัวชี้วัดทางเทคนิค (Technical Indicators) เช่น Moving Averages (ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่) MACD (Moving Average Convergence Divergence) และ RSI (Relative Strength Index) เพื่อระบุแนวโน้มและสัญญาณซื้อขาย
**การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย:** ตรวจสอบปริมาณการซื้อขายเพื่อยืนยันแนวโน้มและสัญญาณที่ได้จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค
**กลยุทธ์การลงทุน:**

   *   **Trend Following:** ซื้อเมื่อราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น และขายเมื่อราคาอยู่ในแนวโน้มขาลง Trend Following Strategy
   *   **Breakout Trading:** ซื้อเมื่อราคาทะลุระดับแนวต้านสำคัญ Breakout Strategy
   *   **Support and Resistance:** ซื้อเมื่อราคาแตะระดับแนวรับ และขายเมื่อราคาแตะระดับแนวต้าน Support and Resistance Trading
   *   **Binary Options:** ใช้ Binary Options เพื่อทำกำไรจากความผันผวนของราคาหุ้น Apple Binary Options Trading
   *   **Straddle Strategy:** ใช้ Binary Options ในรูปแบบ Straddle เพื่อทำกำไรจากความผันผวนของราคาที่คาดว่าจะเกิดขึ้น Straddle Strategy
   *   **Heikin Ashi Strategy:** ใช้ Heikin Ashi Charts เพื่อระบุแนวโน้มและสัญญาณการกลับตัว Heikin Ashi Strategy
   *   **Fibonacci Retracement:** ใช้ Fibonacci Retracement เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ Fibonacci Strategy
   *   **Ichimoku Cloud:** ใช้ Ichimoku Cloud เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มและสัญญาณการซื้อขาย Ichimoku Strategy
   *   **Bollinger Bands:** ใช้ Bollinger Bands เพื่อวัดความผันผวนของราคาและระบุสัญญาณการซื้อขาย Bollinger Bands Strategy
   *   **Elliott Wave Theory:** ใช้ Elliott Wave Theory เพื่อทำนายการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น Apple Elliott Wave Strategy
   *   **Volume Spread Analysis (VSA):** วิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายและความสัมพันธ์กับช่วงราคาเพื่อประเมินแรงซื้อขาย VSA Strategy
   *   **Candlestick Patterns:** ใช้รูปแบบแท่งเทียนเพื่อระบุสัญญาณการกลับตัวหรือการต่อเนื่องของแนวโน้ม Candlestick Pattern Strategy
   *   **Parabolic SAR:** ใช้ Parabolic SAR เพื่อระบุจุดเข้าและออกจากการซื้อขาย Parabolic SAR Strategy
   *   **Pivot Points:** ใช้ Pivot Points เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ Pivot Points Strategy
   *   **Donchian Channels:** ใช้ Donchian Channels เพื่อระบุแนวโน้มและสัญญาณการซื้อขาย Donchian Channels Strategy

อ้างอิง

สตีฟ จ็อบส์ สตีฟ วอซเนียก Apple I Apple II หุ้น IPO Macintosh Newton MessagePad iMac iPod iTunes Store iPhone iPad ทิม คุก Apple Watch AirPods Apple Music Apple TV+ ตัวชี้วัดทางเทคนิค Moving Averages MACD RSI Trend Following Strategy Breakout Strategy Support and Resistance Trading Binary Options Trading Straddle Strategy Heikin Ashi Strategy Fibonacci Strategy Ichimoku Strategy Bollinger Bands Strategy Elliott Wave Strategy VSA Strategy Candlestick Pattern Strategy Parabolic SAR Strategy Pivot Points Strategy Donchian Channels Strategy

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

ประวัติศาสตร์ของ Apple

Contents