ธนาคารกลางนิวซีแลนด์

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. ธนาคารกลางนิวซีแลนด์

ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (อังกฤษ: Reserve Bank of New Zealand หรือ RBNZ, มาโอรี: Te Pūtea Matua) เป็นธนาคารกลางของประเทศนิวซีแลนด์ มีหน้าที่หลักในการรักษาระดับเสถียรภาพของราคา (ควบคุมอัตราเงินเฟ้อ) และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน บทความนี้จะอธิบายถึงบทบาท โครงสร้าง นโยบาย และความสำคัญของธนาคารกลางนิวซีแลนด์ต่อตลาดการเงิน รวมถึงผลกระทบต่อการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น

ประวัติและความเป็นมา

ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1936 ภายใต้ชื่อ Reserve Bank of New Zealand Act 1936 เดิมทีมีวัตถุประสงค์หลักในการเป็นธนาคารของรัฐบาลและควบคุมระบบการเงิน ในช่วงแรก ธนาคารกลางมีส่วนร่วมในการให้สินเชื่อแก่รัฐบาลและควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน

ต่อมา ในช่วงทศวรรษที่ 1980 นิวซีแลนด์ได้ดำเนินนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง ซึ่งรวมถึงการทำให้เอกชนมีส่วนร่วมในระบบการเงินมากขึ้น และการให้ธนาคารกลางมีความเป็นอิสระมากขึ้น ในปี 1989 ได้มีการแก้ไขกฎหมาย Reserve Bank of New Zealand Act เพื่อกำหนดเป้าหมายหลักของธนาคารกลางคือการรักษาระดับเสถียรภาพของราคา โดยมีเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ 1-3%

โครงสร้างและการกำกับดูแล

ธนาคารกลางนิวซีแลนด์มีโครงสร้างที่เป็นอิสระจากรัฐบาล โดยมีองค์ประกอบหลักดังนี้:

  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน (Monetary Policy Committee - MPC): เป็นคณะกรรมการที่รับผิดชอบในการกำหนดนโยบายการเงิน รวมถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Official Cash Rate - OCR) สมาชิก MPC ประกอบด้วยผู้ว่าการธนาคารกลาง ผู้ช่วยผู้ว่าการ และผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์จากภายนอก
  • ผู้ว่าการ (Governor): เป็นผู้บริหารสูงสุดของธนาคารกลาง ทำหน้าที่กำกับดูแลการดำเนินงานของธนาคารกลาง และเป็นตัวแทนของธนาคารกลางต่อสาธารณชน
  • ผู้ช่วยผู้ว่าการ (Deputy Governors): มีหน้าที่รับผิดชอบในด้านต่างๆ เช่น การเงิน การดำเนินงาน และการกำกับดูแล
  • หน่วยงานต่างๆ ภายในธนาคารกลาง: มีหน่วยงานต่างๆ ที่ทำหน้าที่สนับสนุนการดำเนินงานของธนาคารกลาง เช่น หน่วยงานด้านเศรษฐกิจ หน่วยงานด้านการเงิน และหน่วยงานด้านการกำกับดูแล

การกำกับดูแลของธนาคารกลางนิวซีแลนด์มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ โดยมีการเผยแพร่มติการประชุม MPC รายงานเศรษฐกิจ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อสาธารณชนเป็นประจำ

นโยบายการเงิน

เครื่องมือหลักที่ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ใช้ในการดำเนินนโยบายการเงินคือ:

  • อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Official Cash Rate - OCR): เป็นอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกลางใช้ในการกู้ยืมเงินจากธนาคารพาณิชย์ การปรับ OCR มีผลต่ออัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากในระบบเศรษฐกิจ
  • การดำเนินงานตลาดเปิด (Open Market Operations): เป็นการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลในตลาดเปิดเพื่อเพิ่มหรือลดปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ
  • การกำหนดสัดส่วนเงินสำรอง (Reserve Requirements): เป็นการกำหนดสัดส่วนของเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ต้องเก็บไว้เป็นเงินสำรองกับธนาคารกลาง
  • Quantitative Easing (QE): เป็นการซื้อสินทรัพย์ทางการเงินระยะยาว เช่น พันธบัตรรัฐบาล เพื่อเพิ่มปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจและลดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว (ใช้ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ)
  • Forward Guidance: การสื่อสารแนวโน้มของนโยบายการเงินในอนาคต เพื่อชี้นำความคาดหวังของตลาด

ธนาคารกลางนิวซีแลนด์มุ่งเน้นการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยจะปรับนโยบายการเงินเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว หากอัตราเงินเฟ้อสูงเกินไป ธนาคารกลางจะขึ้น OCR เพื่อลดอุปสงค์และควบคุมเงินเฟ้อ หากอัตราเงินเฟ้อต่ำเกินไป ธนาคารกลางจะลด OCR เพื่อกระตุ้นอุปสงค์และเพิ่มเงินเฟ้อ

ผลกระทบต่อตลาดการเงินและไบนารี่ออปชั่น

การตัดสินใจของธนาคารกลางนิวซีแลนด์มีผลกระทบอย่างมากต่อตลาดการเงิน รวมถึงตลาด ค่าเงิน ตลาดพันธบัตร และตลาดหุ้น การเปลี่ยนแปลง OCR หรือการประกาศนโยบายการเงินอื่นๆ สามารถทำให้ค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) ผันผวนได้

สำหรับนักเทรด ไบนารี่ออปชั่น ข้อมูลและข่าวสารจากธนาคารกลางนิวซีแลนด์เป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจเทรด เนื่องจาก:

  • ความผันผวนของค่าเงิน: การประกาศนโยบายการเงินของ RBNZ มักจะนำไปสู่ความผันผวนของค่าเงิน NZD ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับนักเทรดไบนารี่ออปชั่นที่เทรดคู่เงิน เช่น NZD/USD หรือ NZD/JPY กลยุทธ์การเทรดช่วงข่าว
  • การคาดการณ์แนวโน้ม: การวิเคราะห์นโยบายและคำแถลงของ RBNZ สามารถช่วยให้นักเทรดคาดการณ์แนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยและค่าเงินในอนาคตได้ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
  • การใช้ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ: RBNZ จะติดตามตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจต่างๆ เช่น อัตราการว่างงาน อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) นักเทรดสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด การวิเคราะห์ทางเทคนิค
  • การใช้เครื่องมือทางเทคนิค: นักเทรดสามารถใช้เครื่องมือทางเทคนิค เช่น แนวรับแนวต้าน เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ และ RSI เพื่อวิเคราะห์กราฟราคาและคาดการณ์ทิศทางของราคา รูปแบบแท่งเทียน
  • การจัดการความเสี่ยง: การติดตามข่าวสารและนโยบายของ RBNZ ช่วยให้นักเทรดสามารถจัดการความเสี่ยงในการเทรดได้ดียิ่งขึ้น การบริหารความเสี่ยง

ตัวอย่างผลกระทบของการตัดสินใจของ RBNZ ต่อไบนารี่ออปชั่น

สมมติว่าธนาคารกลางนิวซีแลนด์ประกาศขึ้น OCR อย่างไม่คาดคิด ข่าวนี้อาจทำให้ค่าเงิน NZD แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว นักเทรดไบนารี่ออปชั่นที่คาดการณ์ว่าค่าเงิน NZD จะแข็งค่าขึ้น สามารถทำกำไรได้จากการเทรดออปชั่น "Call" (ซื้อ) บนคู่เงิน NZD/USD หรือ NZD/JPY ในขณะที่นักเทรดที่คาดการณ์ว่าค่าเงิน NZD จะอ่อนค่าลง อาจขาดทุนจากการเทรดออปชั่น "Put" (ขาย)

เครื่องมือและการวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้อง

  • Economic Calendar: ปฏิทินเศรษฐกิจที่แสดงกำหนดการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจและข่าวสารสำคัญจาก RBNZ และแหล่งอื่นๆ Forex Factory
  • RBNZ Website: เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของธนาคารกลางนิวซีแลนด์ ซึ่งมีการเผยแพร่มติการประชุม MPC รายงานเศรษฐกิจ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง [[1]]
  • Trading Volume Analysis: การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มราคา Volume Spread Analysis (VSA)
  • Fibonacci Retracements: เครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้ระบุแนวรับแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น Fibonacci
  • Bollinger Bands: เครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้วัดความผันผวนของราคา Bollinger Bands
  • MACD (Moving Average Convergence Divergence): เครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้ระบุแนวโน้มและโมเมนตัมของราคา MACD
  • Ichimoku Cloud: เครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้ระบุแนวโน้ม แนวรับแนวต้าน และจุดเข้าออกที่อาจเกิดขึ้น Ichimoku Kinko Hyo
  • Elliott Wave Theory: ทฤษฎีทางเทคนิคที่ใช้ระบุรูปแบบราคาที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของคลื่น Elliott Wave
  • Price Action Trading: การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาเพื่อคาดการณ์ทิศทางของราคาในอนาคต Price Action
  • Scalping: กลยุทธ์การเทรดระยะสั้นที่มุ่งเน้นการทำกำไรจากความผันผวนของราคาเล็กน้อย Scalping Strategy
  • Trend Following: กลยุทธ์การเทรดที่มุ่งเน้นการทำกำไรจากการเทรดตามแนวโน้มราคา Trend Following Strategy
  • Breakout Trading: กลยุทธ์การเทรดที่มุ่งเน้นการทำกำไรจากการทะลุแนวรับหรือแนวต้าน Breakout Strategy
  • Reversal Trading: กลยุทธ์การเทรดที่มุ่งเน้นการทำกำไรจากการกลับตัวของแนวโน้มราคา Reversal Trading Strategy
  • News Trading: กลยุทธ์การเทรดที่มุ่งเน้นการทำกำไรจากข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญ News Trading Strategy

บทสรุป

ธนาคารกลางนิวซีแลนด์มีบทบาทสำคัญในการรักษาระดับเสถียรภาพของราคาและสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ การตัดสินใจของธนาคารกลางมีผลกระทบอย่างมากต่อตลาดการเงิน รวมถึงตลาดไบนารี่ออปชั่น นักเทรดที่เข้าใจนโยบายและแนวทางการดำเนินงานของธนาคารกลาง จะสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการตัดสินใจเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลง OCR ต่อค่าเงิน NZD
ผลกระทบต่อค่าเงิน NZD | ผลกระทบต่อการเทรดไบนารี่ออปชั่น |
ค่าเงิน NZD แข็งค่าขึ้น | โอกาสในการเทรดออปชั่น "Call" (ซื้อ) |
ค่าเงิน NZD อ่อนค่าลง | โอกาสในการเทรดออปชั่น "Put" (ขาย) |
ความผันผวนของค่าเงิน NZD อาจลดลง | โอกาสในการเทรดในช่วงราคาแคบ |

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер