ตำแหน่งการซื้อขาย

1. ตำแหน่ง การซื้อขาย ใน ไบนารี่ ออปชั่น สำหรับ ผู้เริ่มต้น

บทความนี้จะอธิบายถึงความสำคัญของ “ตำแหน่งการซื้อขาย” (Position Sizing) ในการซื้อขาย ไบนารี่ ออปชั่น สำหรับผู้เริ่มต้น การจัดการเงินทุนอย่างเหมาะสม และการกำหนดขนาดของตำแหน่งการซื้อขายที่ถูกต้อง เป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในระยะยาว การละเลยเรื่องนี้อาจนำไปสู่การสูญเสียเงินทุนทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าคุณจะมี กลยุทธ์การซื้อขาย ที่ดีก็ตาม

1. 1. ความหมายของ ตำแหน่ง การซื้อขาย

ตำแหน่งการซื้อขาย หมายถึง จำนวนเงินที่คุณเสี่ยงในแต่ละการซื้อขาย หรือสัดส่วนของเงินทุนทั้งหมดที่คุณใช้ในการเปิด ออปชั่น แต่ละครั้ง การกำหนดตำแหน่งการซื้อขายที่เหมาะสม ไม่ใช่การคาดเดา แต่เป็นการคำนวณอย่างรอบคอบโดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น เงินทุนที่มี ความเสี่ยงที่คุณรับได้ และความน่าจะเป็นในการชนะของการซื้อขายแต่ละครั้ง

1. 1. ทำไม ตำแหน่ง การซื้อขาย จึงสำคัญ?

**การควบคุมความเสี่ยง (Risk Management):** ตำแหน่งการซื้อขายที่เหมาะสม ช่วยให้คุณควบคุมความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณเสี่ยงมากเกินไปในการซื้อขายแต่ละครั้ง การสูญเสียเพียงไม่กี่ครั้งก็อาจทำให้เงินทุนของคุณลดลงอย่างมาก
**การรักษาเงินทุน (Capital Preservation):** การจัดการเงินทุนที่ดี ช่วยให้คุณรักษาเงินทุนของคุณไว้ได้นานพอที่จะเรียนรู้และปรับปรุง กลยุทธ์การซื้อขาย ของคุณ
**ผลตอบแทนที่ยั่งยืน (Sustainable Returns):** การซื้อขายอย่างมีวินัยด้วยตำแหน่งการซื้อขายที่เหมาะสม ช่วยให้คุณสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนในระยะยาว แทนที่จะพึ่งโชคเพียงอย่างเดียว
**จิตวิทยาการซื้อขาย (Trading Psychology):** เมื่อคุณรู้ว่าคุณกำลังเสี่ยงเพียงเท่าที่รับได้ คุณจะสามารถตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผลมากขึ้น และหลีกเลี่ยงการตัดสินใจที่ผิดพลาดเนื่องจากความกลัวหรือความโลภ

1. 1. ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการกำหนด ตำแหน่ง การซื้อขาย

1. **เงินทุนเริ่มต้น (Initial Capital):** จำนวนเงินที่คุณมีเพื่อใช้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น เป็นปัจจัยพื้นฐานที่สุดในการกำหนดขนาดของตำแหน่งการซื้อขาย ยิ่งคุณมีเงินทุนมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งสามารถเสี่ยงได้มากขึ้นในแต่ละการซื้อขาย (แต่ต้องอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม) 2. **ความเสี่ยงที่คุณรับได้ (Risk Tolerance):** แต่ละคนมีความสามารถในการรับความเสี่ยงที่แตกต่างกัน บางคนอาจรู้สึกสบายใจที่จะเสี่ยง 5% ของเงินทุนในการซื้อขายแต่ละครั้ง ในขณะที่บางคนอาจรู้สึกสบายใจเพียง 1% การประเมินความเสี่ยงที่คุณรับได้เป็นสิ่งสำคัญ 3. **อัตราผลตอบแทนที่คาดหวัง (Expected Return):** หากคุณคาดว่าการซื้อขายของคุณมีโอกาสชนะสูง (เช่น 70%) คุณอาจสามารถเสี่ยงได้มากขึ้นเล็กน้อย แต่หากคุณคาดว่าการซื้อขายของคุณมีความเสี่ยงสูง (เช่น 50%) คุณควรเสี่ยงน้อยลง 4. **อัตราผลตอบแทนของไบนารี่ออปชั่น (Payout Ratio):** ไบนารี่ออปชั่นส่วนใหญ่มีอัตราผลตอบแทนคงที่ (เช่น 70% หรือ 80%) ซึ่งหมายความว่าหากคุณชนะ คุณจะได้รับผลตอบแทน 70% หรือ 80% ของเงินลงทุนของคุณ แต่หากคุณแพ้ คุณจะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด การพิจารณาอัตราผลตอบแทนนี้เป็นสิ่งสำคัญในการคำนวณขนาดของตำแหน่งการซื้อขาย 5. **ความผันผวนของสินทรัพย์ (Asset Volatility):** สินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง (เช่น สกุลเงินบางคู่ หรือสินค้าโภคภัณฑ์) อาจมีโอกาสทำกำไรสูง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน คุณควรปรับขนาดของตำแหน่งการซื้อขายของคุณให้เหมาะสมกับความผันผวนของสินทรัพย์

1. 1. กลยุทธ์การกำหนด ตำแหน่ง การซื้อขาย

มีหลายกลยุทธ์ที่คุณสามารถใช้ในการกำหนดขนาดของตำแหน่งการซื้อขายได้ ต่อไปนี้เป็นกลยุทธ์ที่นิยมใช้กัน:

- 1. กลยุทธ์เปอร์เซ็นต์คงที่ (Fixed Percentage Strategy):**

นี่เป็นกลยุทธ์ที่ง่ายที่สุดและเป็นที่นิยมมากที่สุด คุณกำหนดเปอร์เซ็นต์คงที่ของเงินทุนของคุณที่คุณจะเสี่ยงในการซื้อขายแต่ละครั้ง ตัวอย่างเช่น หากคุณมีเงินทุน 10,000 บาท และคุณตัดสินใจที่จะเสี่ยง 2% ในแต่ละการซื้อขาย ตำแหน่งการซื้อขายของคุณจะเป็น 200 บาท

**ข้อดี:** ง่ายต่อการเข้าใจและใช้งาน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
**ข้อเสีย:** ไม่คำนึงถึงความน่าจะเป็นในการชนะของการซื้อขายแต่ละครั้ง หรือความผันผวนของสินทรัพย์

- 2. กลยุทธ์ Kelly Criterion (เคลลี่ คริเทอเรียน):**

Kelly Criterion เป็นสูตรทางคณิตศาสตร์ที่ช่วยคำนวณขนาดของตำแหน่งการซื้อขายที่เหมาะสม โดยพิจารณาจากความน่าจะเป็นในการชนะ (p) และอัตราผลตอบแทน (R) สูตรคือ:

f* = (bp - q) / b

โดยที่:

f* คือ สัดส่วนของเงินทุนที่คุณควรเสี่ยง
b คือ อัตราผลตอบแทน (เช่น ถ้าคุณชนะ 1 หน่วย คุณจะได้รับ 1 หน่วย)
p คือ ความน่าจะเป็นในการชนะ
q คือ ความน่าจะเป็นในการแพ้ (1 - p)

**ข้อดี:** ช่วยเพิ่มผลตอบแทนสูงสุดในระยะยาว
**ข้อเสีย:** จำเป็นต้องประมาณค่า p และ R อย่างแม่นยำ อาจมีความซับซ้อนสำหรับผู้เริ่มต้น และอาจนำไปสู่การเสี่ยงที่สูงเกินไปหากประมาณค่าผิดพลาด

- 3. กลยุทธ์ Fixed Ratio (อัตราส่วนคงที่):**

กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการกำหนดอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลกำไรที่คุณต้องการ ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลกำไร 1:2 (หมายความว่าคุณเต็มใจที่จะเสี่ยง 1 หน่วยเพื่อที่จะได้รับผลกำไร 2 หน่วย) คุณจะต้องคำนวณขนาดของตำแหน่งการซื้อขายของคุณเพื่อให้เป็นไปตามอัตราส่วนนี้

**ข้อดี:** ช่วยให้คุณควบคุมความเสี่ยงและผลตอบแทนได้อย่างชัดเจน
**ข้อเสีย:** อาจต้องใช้การคำนวณที่ซับซ้อนเล็กน้อย

- 4. กลยุทธ์ Martingale (มาร์ติงเกล):**

- คำเตือน:** กลยุทธ์นี้มีความเสี่ยงสูงมาก และไม่แนะนำสำหรับผู้เริ่มต้น

Martingale เป็นกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มขนาดของตำแหน่งการซื้อขายของคุณเป็นสองเท่าหลังจากที่คุณแพ้การซื้อขายแต่ละครั้ง จุดประสงค์คือการกู้คืนการสูญเสียทั้งหมดของคุณด้วยการชนะครั้งเดียว อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้อาจนำไปสู่การสูญเสียเงินทุนทั้งหมดของคุณได้อย่างรวดเร็ว หากคุณแพ้ติดต่อกันหลายครั้ง

**ข้อดี:** อาจช่วยกู้คืนการสูญเสียได้หากชนะการซื้อขายครั้งต่อไป
**ข้อเสีย:** มีความเสี่ยงสูงมาก และอาจนำไปสู่การสูญเสียเงินทุนทั้งหมดของคุณได้อย่างรวดเร็ว

1. 1. ตัวอย่างการคำนวณ ตำแหน่ง การซื้อขาย

สมมติว่าคุณมีเงินทุน 10,000 บาท และคุณตัดสินใจที่จะใช้กลยุทธ์เปอร์เซ็นต์คงที่ โดยเสี่ยง 2% ในแต่ละการซื้อขาย ตำแหน่งการซื้อขายของคุณจะเป็น 200 บาท

หากคุณใช้กลยุทธ์ Kelly Criterion และคุณประมาณว่าคุณมีโอกาสชนะ 60% (p = 0.6) และอัตราผลตอบแทนคือ 0.8 (ได้รับ 0.8 หน่วยสำหรับทุก 1 หน่วยที่ลงทุน) สูตรจะเป็น:

f* = (0.8 * 0.6 - (1 - 0.6)) / 0.8 = (0.48 - 0.4) / 0.8 = 0.08 / 0.8 = 0.1

ซึ่งหมายความว่าคุณควรเสี่ยง 10% ของเงินทุนของคุณในการซื้อขายแต่ละครั้ง หรือ 1,000 บาท

1. 1. ตารางสรุปกลยุทธ์ ตำแหน่ง การซื้อขาย

กลยุทธ์ ตำแหน่ง การซื้อขาย
! กลยุทธ์	! ความซับซ้อน	! ข้อดี	! ข้อเสีย
เปอร์เซ็นต์คงที่	ง่าย	ง่ายต่อการใช้งาน, เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น	ไม่คำนึงถึงความน่าจะเป็นหรือความผันผวน
Kelly Criterion	ปานกลาง	เพิ่มผลตอบแทนสูงสุดในระยะยาว	ต้องการการประมาณค่าที่แม่นยำ, อาจซับซ้อน
Fixed Ratio	ปานกลาง	ควบคุมความเสี่ยงและผลตอบแทน	ต้องการการคำนวณ
Martingale	ง่าย (แต่เสี่ยง)	อาจกู้คืนการสูญเสียได้	ความเสี่ยงสูงมาก, อาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมด

1. 1. การปรับปรุง ตำแหน่ง การซื้อขาย อย่างต่อเนื่อง

การกำหนดขนาดของตำแหน่งการซื้อขายไม่ใช่สิ่งที่ตายตัว คุณควรปรับปรุงกลยุทธ์ของคุณอย่างต่อเนื่อง โดยพิจารณาจากผลการซื้อขายของคุณ และสถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป คุณอาจต้องลดขนาดของตำแหน่งการซื้อขายของคุณในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูง หรือเพิ่มขนาดของตำแหน่งการซื้อขายของคุณในช่วงเวลาที่ตลาดมีความสงบ

1. 1. ลิงก์ไปยังหัวข้อที่เกี่ยวข้อง

1. 1. ลิงก์ไปยังกลยุทธ์ และเครื่องมือ

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

ตำแหน่งการซื้อขาย

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

เข้าร่วมชุมชนของเรา

Navigation menu