ดัชนี FTSE 100
- ดัชนี FTSE 100: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับนักลงทุนไบนารี่ออปชั่น
ดัชนี FTSE 100 (Financial Times Stock Exchange 100 index) เป็นดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยรวบรวมบริษัทขนาดใหญ่ 100 บริษัทที่จดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (London Stock Exchange - LSE) บทความนี้จะให้ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับ FTSE 100 สำหรับนักลงทุน ไบนารี่ออปชั่น (Binary Options) โดยจะครอบคลุมถึงประวัติ, วิธีการคำนวณ, ปัจจัยที่มีผลกระทบ, การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นที่อิงกับ FTSE 100, และกลยุทธ์การเทรดที่เกี่ยวข้อง
ประวัติความเป็นมาของ FTSE 100
FTSE 100 เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 3 มกราคม 1984 โดยมีค่าเริ่มต้นที่ 1,000 จุด ก่อนหน้านี้ ตลาดหุ้นลอนดอนใช้ดัชนีที่เรียกว่า Financial Times All-Shares Index แต่ดัชนีนี้ครอบคลุมบริษัทจำนวนมากเกินไป และไม่สะท้อนภาพรวมของบริษัทขนาดใหญ่ที่สำคัญได้อย่างชัดเจน FTSE 100 จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหานี้ และกลายเป็นมาตรฐานในการวัดประสิทธิภาพของตลาดหุ้นสหราชอาณาจักร
การก่อตั้ง FTSE 100 มีส่วนสำคัญในการทำให้ตลาดหุ้นลอนดอนมีความทันสมัยและน่าสนใจยิ่งขึ้นในช่วงทศวรรษ 1980 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและการเงินครั้งใหญ่ในโลก การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ (Privatisation) ในสหราชอาณาจักรก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทจำนวนมากเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ และมีส่วนในการเติบโตของ FTSE 100
วิธีการคำนวณ FTSE 100
FTSE 100 เป็นดัชนีที่คำนวณโดยใช้ การถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตามราคาตลาด (Market Capitalization-Weighted) ซึ่งหมายความว่าบริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงกว่าจะมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีมากกว่า
ขั้นตอนการคำนวณ FTSE 100 มีดังนี้:
1. คำนวณมูลค่าตามราคาตลาดของแต่ละบริษัท: มูลค่าตามราคาตลาด = ราคาหุ้น x จำนวนหุ้นที่จดทะเบียน 2. รวมมูลค่าตามราคาตลาดของบริษัททั้งหมดในดัชนี 3. หารผลรวมที่ได้ด้วยตัวหาร (divisor) ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับเปลี่ยนอยู่เสมอเพื่อให้แน่ใจว่าดัชนีมีความต่อเนื่องและไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในจำนวนหุ้นที่จดทะเบียน (เช่น การเพิ่มหรือลดจำนวนหุ้นจากเหตุการณ์ต่างๆ เช่น การจ่ายเงินปันผล)
สูตรการคำนวณ FTSE 100:
FTSE 100 = (ผลรวมของมูลค่าตามราคาตลาดของบริษัททั้งหมด) / ตัวหาร
การปรับตัวหารเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างของดัชนี เช่น การควบรวมกิจการ หรือการเปลี่ยนแปลงจำนวนหุ้นที่จดทะเบียน ไม่ส่งผลกระทบต่อค่าดัชนีมากเกินไป
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อ FTSE 100
FTSE 100 ได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลากหลาย ทั้งปัจจัยภายในประเทศและปัจจัยภายนอกประเทศ:
- **เศรษฐกิจสหราชอาณาจักร:** อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ, อัตราเงินเฟ้อ, อัตราดอกเบี้ย, และอัตราการว่างงานล้วนมีผลต่อ FTSE 100 เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งมักจะส่งผลให้ดัชนีปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่เศรษฐกิจที่อ่อนแออาจทำให้ดัชนีปรับตัวลดลง
- **นโยบายการเงินและการคลัง:** การตัดสินใจของ ธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England) เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย และนโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับภาษีและการใช้จ่ายภาครัฐ ล้วนมีผลต่อ FTSE 100
- **สถานการณ์ทางการเมือง:** ความไม่แน่นอนทางการเมือง, การเลือกตั้ง, และการเปลี่ยนแปลงนโยบาย ล้วนสามารถสร้างความผันผวนให้กับ FTSE 100 ได้
- **เหตุการณ์ระดับโลก:** วิกฤตเศรษฐกิจโลก, สงคราม, การเปลี่ยนแปลงราคาน้ำมัน, และการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน ล้วนมีผลต่อ FTSE 100 โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในระดับนานาชาติ
- **ผลประกอบการของบริษัท:** ผลประกอบการของบริษัทที่อยู่ใน FTSE 100 มีผลโดยตรงต่อราคาหุ้นของบริษัทเหล่านั้น และส่งผลต่อดัชนีโดยรวม
- **ความเชื่อมั่นของนักลงทุน:** ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ล้วนมีผลต่อการตัดสินใจซื้อขายหุ้น และส่งผลต่อ FTSE 100
การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นที่อิงกับ FTSE 100
การซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น ที่อิงกับ FTSE 100 เป็นการคาดการณ์ว่าดัชนี FTSE 100 จะปรับตัวขึ้นหรือลงภายในระยะเวลาที่กำหนด หากการคาดการณ์ถูกต้อง ผู้เทรดจะได้รับผลตอบแทนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า แต่หากการคาดการณ์ผิดพลาด ผู้เทรดจะเสียเงินลงทุนทั้งหมด
ตัวอย่างเช่น:
- **Call Option:** ผู้เทรดคาดการณ์ว่า FTSE 100 จะปรับตัวสูงขึ้นภายใน 1 ชั่วโมง หาก FTSE 100 ปรับตัวสูงขึ้นจริง ผู้เทรดจะได้รับผลตอบแทน 80% ของเงินลงทุน แต่หาก FTSE 100 ปรับตัวลง ผู้เทรดจะเสียเงินลงทุนทั้งหมด
- **Put Option:** ผู้เทรดคาดการณ์ว่า FTSE 100 จะปรับตัวลงภายใน 30 นาที หาก FTSE 100 ปรับตัวลงจริง ผู้เทรดจะได้รับผลตอบแทน 75% ของเงินลงทุน แต่หาก FTSE 100 ปรับตัวขึ้น ผู้เทรดจะเสียเงินลงทุนทั้งหมด
การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นที่อิงกับ FTSE 100 มีความเสี่ยงสูง และผู้เทรดควรมีความเข้าใจในตลาดและเครื่องมือที่ใช้เป็นอย่างดี
กลยุทธ์การเทรด FTSE 100 ด้วยไบนารี่ออปชั่น
มีกลยุทธ์การเทรดมากมายที่สามารถใช้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นที่อิงกับ FTSE 100:
- **Trend Following:** เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการระบุแนวโน้มของ FTSE 100 และทำการซื้อขายตามแนวโน้มนั้น หาก FTSE 100 มีแนวโน้มขาขึ้น ผู้เทรดจะเปิด Call Option และหาก FTSE 100 มีแนวโน้มขาลง ผู้เทรดจะเปิด Put Option
- **Range Trading:** เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการซื้อขายเมื่อ FTSE 100 เคลื่อนที่อยู่ในช่วงราคาที่จำกัด ผู้เทรดจะซื้อ Call Option เมื่อ FTSE 100 เข้าใกล้ขอบล่างของช่วงราคา และขาย Put Option เมื่อ FTSE 100 เข้าใกล้ขอบบนของช่วงราคา
- **Breakout Trading:** เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการซื้อขายเมื่อ FTSE 100 ทะลุระดับแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ ผู้เทรดจะซื้อ Call Option เมื่อ FTSE 100 ทะลุระดับแนวต้าน และขาย Put Option เมื่อ FTSE 100 ทะลุระดับแนวรับ
- **News Trading:** เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการซื้อขายตามข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญที่อาจมีผลต่อ FTSE 100 เช่น การประกาศผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่ หรือการประกาศนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล
- **Pin Bar Strategy:** ใช้รูปแบบแท่งเทียน Pin Bar เพื่อระบุจุดกลับตัวของราคา
- **Engulfing Pattern Strategy:** ใช้รูปแบบแท่งเทียน Engulfing Pattern เพื่อยืนยันแนวโน้ม
- **Bollinger Bands Strategy:** ใช้ Bollinger Bands เพื่อวัดความผันผวนและระบุโอกาสในการซื้อขาย
- **Moving Average Crossover Strategy:** ใช้การตัดกันของ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) เพื่อระบุสัญญาณซื้อขาย
- **Fibonacci Retracement Strategy:** ใช้ระดับ Fibonacci Retracement เพื่อคาดการณ์จุดกลับตัวของราคา
- **RSI Divergence Strategy:** ใช้ความแตกต่างระหว่าง ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (Relative Strength Index - RSI) และราคาเพื่อระบุสัญญาณการกลับตัว
- **MACD Crossover Strategy:** ใช้การตัดกันของ MACD (Moving Average Convergence Divergence) เพื่อระบุสัญญาณซื้อขาย
- **Stochastic Oscillator Strategy:** ใช้ Stochastic Oscillator เพื่อระบุสภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold)
- **Volume Spread Analysis (VSA):** วิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายและความผันผวนของราคาเพื่อทำนายทิศทางของตลาด
- **Elliott Wave Theory:** วิเคราะห์รูปแบบของคลื่นราคาเพื่อคาดการณ์การเคลื่อนที่ของตลาด
- **Ichimoku Cloud Strategy:** ใช้ Ichimoku Cloud เพื่อระบุแนวโน้ม, ระดับแนวรับแนวต้าน, และสัญญาณซื้อขาย
การวิเคราะห์ทางเทคนิคและปริมาณการซื้อขาย
การวิเคราะห์ ทางเทคนิค (Technical Analysis) และ ปริมาณการซื้อขาย (Trading Volume Analysis) เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจซื้อขาย FTSE 100 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การวิเคราะห์ทางเทคนิคเกี่ยวข้องกับการศึกษาแผนภูมิราคาและตัวชี้วัดทางเทคนิคต่างๆ เพื่อระบุแนวโน้มและรูปแบบของราคา ในขณะที่การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเกี่ยวข้องกับการศึกษาปริมาณการซื้อขายหุ้นเพื่อยืนยันแนวโน้มและรูปแบบของราคา
การใช้เครื่องมือเหล่านี้ร่วมกันจะช่วยให้นักลงทุนสามารถประเมินความเสี่ยงและโอกาสในการซื้อขายได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
คำเตือนความเสี่ยง
การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นที่อิงกับ FTSE 100 มีความเสี่ยงสูง ผู้เทรดควรมีความเข้าใจในตลาดและเครื่องมือที่ใช้เป็นอย่างดี และควรลงทุนเฉพาะเงินที่สามารถรับความสูญเสียได้เท่านั้น นอกจากนี้ ผู้เทรดควรใช้กลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินลงทุน
| กลยุทธ์ | คำอธิบาย | ตัวบ่งชี้ที่ใช้ | ระดับความเสี่ยง |
|---|---|---|---|
| Trend Following | ซื้อขายตามแนวโน้มของตลาด | เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่, MACD | ปานกลาง |
| Range Trading | ซื้อขายเมื่อราคาอยู่ในช่วงที่จำกัด | Bollinger Bands, RSI | ปานกลาง |
| Breakout Trading | ซื้อขายเมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้าน | แนวรับ, แนวต้าน, Volume | สูง |
| News Trading | ซื้อขายตามข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญ | ปฏิทินเศรษฐกิจ, ข่าวสาร | สูง |
| Pin Bar Strategy | ใช้ Pin Bar เพื่อระบุจุดกลับตัวของราคา | แท่งเทียน Pin Bar | ปานกลาง |
สรุป
ดัชนี FTSE 100 เป็นดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับนักลงทุน การลงทุน (Investment) ในตลาดหุ้นสหราชอาณาจักร การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นที่อิงกับ FTSE 100 สามารถเป็นโอกาสในการทำกำไรที่น่าสนใจ แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน ผู้เทรดควรมีความเข้าใจในตลาดและเครื่องมือที่ใช้เป็นอย่างดี และควรใช้กลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินลงทุน
ตลาดหุ้น การลงทุนในตลาดหุ้น การวิเคราะห์ตลาดหุ้น การบริหารความเสี่ยง การซื้อขายระยะสั้น การเทรด Forex การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การวิเคราะห์ทางเทคนิค Candlestick Patterns Support and Resistance Market Sentiment Volatility Risk Management
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
