การเทรด Forex

1. 1. การเทรด Forex

การเทรด Forex หรือ การซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Foreign Exchange) คือการซื้อขายเงินตราต่างประเทศหนึ่งเพื่อแลกกับอีกเงินตราหนึ่ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำกำไรจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดและมีสภาพคล่องสูงที่สุดในโลก มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันมากกว่า 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการเทรด Forex สำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงแนวคิดสำคัญ กลไกการทำงาน ความเสี่ยง และกลยุทธ์ต่างๆ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้

Forex คืออะไร?

Forex ย่อมาจาก Foreign Exchange ซึ่งหมายถึงการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เงินตราแต่ละสกุลจะมีรหัสย่อที่เรียกว่า Currency Pair (คู่สกุลเงิน) เช่น EUR/USD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐฯ) GBP/USD (ปอนด์สเตอร์ลิง/ดอลลาร์สหรัฐฯ) USD/JPY (ดอลลาร์สหรัฐฯ/เยนญี่ปุ่น) และอื่นๆ อีกมากมาย

การเทรด Forex ไม่ได้เป็นการซื้อขายเงินตราจริงโดยตรง แต่เป็นการคาดการณ์ทิศทางของราคาของคู่สกุลเงินนั้นๆ หากคาดการณ์ว่าเงินตราหนึ่งจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับอีกเงินตราหนึ่ง ก็จะทำการซื้อ (Buy หรือ Long) และหากคาดการณ์ว่าเงินตราหนึ่งจะอ่อนค่าลง ก็จะทำการขาย (Sell หรือ Short)

กลไกการทำงานของตลาด Forex

ตลาด Forex ไม่ได้มีสถานที่ตั้งที่แน่นอนเหมือนตลาดหุ้น แต่เป็นการซื้อขายแบบ Over-the-Counter (OTC) ซึ่งหมายถึงการซื้อขายโดยตรงระหว่างผู้เข้าร่วมตลาดผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

ผู้เข้าร่วมตลาด Forex หลักๆ ได้แก่:

• ธนาคารกลาง (Central Banks): มีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายการเงินและสามารถแทรกแซงตลาดเพื่อควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนได้
• ธนาคารพาณิชย์ (Commercial Banks): เป็นผู้ให้บริการหลักในการซื้อขาย Forex ให้กับลูกค้า
• สถาบันการเงิน (Financial Institutions): เช่น กองทุนเฮดจ์ฟันด์ บริษัทประกันภัย และกองทุนบำเหน็จบำนาญ
• บริษัทตัวแทนซื้อขาย Forex (Forex Brokers): เป็นตัวกลางที่ช่วยให้ผู้ค้าปลีก (Retail Traders) สามารถเข้าถึงตลาด Forex ได้
• ผู้ค้าปลีก (Retail Traders): คือนักลงทุนรายย่อยที่ทำการซื้อขาย Forex เพื่อเก็งกำไร

ราคาในตลาด Forex กำหนดโดยอุปสงค์และอุปทาน (Supply and Demand) ปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์และอุปทานของเงินตราต่างประเทศ ได้แก่:

• ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ (Economic Indicators): เช่น อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ อัตราการว่างงาน และดุลการค้า
• นโยบายการเงิน (Monetary Policy): เช่น อัตราดอกเบี้ย และมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing)
• เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical Events): เช่น สงคราม การเลือกตั้ง และความขัดแย้งทางการเมือง
• ความเชื่อมั่นของตลาด (Market Sentiment): เช่น ความเชื่อมั่นของนักลงทุน และข่าวสารต่างๆ

คำศัพท์พื้นฐานที่ควรรู้

• Pip (Percentage in Point) คือหน่วยวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาในตลาด Forex โดยทั่วไปแล้ว Pip จะเท่ากับ 0.0001 สำหรับคู่สกุลเงินที่มี USD เป็นตัวกำหนด และเท่ากับ 0.01 สำหรับคู่สกุลเงินที่ไม่ใช่ USD
• Spread คือความแตกต่างระหว่างราคาเสนอขาย (Ask Price) และราคาเสนอซื้อ (Bid Price) ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมที่โบรกเกอร์เรียกเก็บ
• Leverage คือการยืมเงินจากโบรกเกอร์เพื่อเพิ่มขนาดของการซื้อขาย Leverage สามารถเพิ่มกำไรได้ แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนด้วย
• Margin คือจำนวนเงินที่จำเป็นในการเปิดสถานะการซื้อขาย (Trade)
• Lot คือหน่วยขนาดของการซื้อขาย Forex โดยทั่วไปแล้วมี 3 ขนาด คือ Standard Lot (100,000 หน่วย), Mini Lot (10,000 หน่วย) และ Micro Lot (1,000 หน่วย)
• Stop Loss คือคำสั่งให้ปิดสถานะการซื้อขายโดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนด เพื่อจำกัดการขาดทุน
• Take Profit คือคำสั่งให้ปิดสถานะการซื้อขายโดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนด เพื่อล็อคกำไร

ความเสี่ยงในการเทรด Forex

การเทรด Forex มีความเสี่ยงหลายประการที่นักลงทุนควรตระหนักถึง:

• ความเสี่ยงจาก Leverage (Leverage Risk): Leverage สามารถเพิ่มกำไรได้ แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนอย่างรวดเร็ว
• ความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด (Market Volatility Risk): ตลาด Forex มีความผันผวนสูง ราคาอาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและคาดเดาได้ยาก
• ความเสี่ยงจากความล้มเหลวของโบรกเกอร์ (Broker Risk): โบรกเกอร์บางรายอาจไม่มีความน่าเชื่อถือ หรืออาจประสบปัญหาทางการเงิน
• ความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน (Black Swan Events): เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เช่น วิกฤตเศรษฐกิจ หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ สามารถส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อตลาด Forex

กลยุทธ์การเทรด Forex

มีกลยุทธ์การเทรด Forex มากมายที่นักลงทุนสามารถเลือกใช้ได้ กลยุทธ์เหล่านี้สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ:

• การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis): เป็นการศึกษาข้อมูลในอดีตของราคาและปริมาณการซื้อขาย เพื่อคาดการณ์ทิศทางของราคาในอนาคต เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ได้แก่:

   *   Chart Patterns (รูปแบบกราฟ): เช่น Head and Shoulders, Double Top, Double Bottom
   *   Technical Indicators (ตัวชี้วัดทางเทคนิค): เช่น Moving Averages, RSI (Relative Strength Index), MACD (Moving Average Convergence Divergence), Fibonacci Retracements, Bollinger Bands, Ichimoku Cloud
   *   Support and Resistance Levels (แนวรับและแนวต้าน)
   *   Trend Lines (เส้นแนวโน้ม)

• การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis): เป็นการศึกษาปัจจัยทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ที่มีผลกระทบต่อค่าเงินตราต่างประเทศ

นอกจากนี้ยังมีกลยุทธ์อื่นๆ อีกมากมาย เช่น:

• Scalping (การเทรดระยะสั้นมาก): เป็นการเปิดและปิดสถานะการซื้อขายภายในไม่กี่วินาทีหรือนาที เพื่อทำกำไรจากความผันผวนเล็กน้อยของราคา Scalping Strategy
• Day Trading (การเทรดรายวัน): เป็นการเปิดและปิดสถานะการซื้อขายภายในวันเดียว เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจาก Overnight Risk
• Swing Trading (การเทรดระยะกลาง): เป็นการถือสถานะการซื้อขายไว้หลายวันหรือหลายสัปดาห์ เพื่อทำกำไรจาก Swing หรือการแกว่งตัวของราคา Swing Trading Techniques
• Position Trading (การเทรดระยะยาว): เป็นการถือสถานะการซื้อขายไว้หลายเดือนหรือหลายปี เพื่อทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงระยะยาวของค่าเงินตราต่างประเทศ

การจัดการความเสี่ยง (Risk Management)

การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเทรด Forex นักลงทุนควรปฏิบัติตามหลักการดังต่อไปนี้:

• กำหนดขนาด Lot ที่เหมาะสม (Appropriate Lot Sizing): ไม่ควรเปิดสถานะการซื้อขายด้วยขนาด Lot ที่ใหญ่เกินไป
• ใช้ Stop Loss เสมอ (Always Use Stop Loss): เพื่อจำกัดการขาดทุน
• ใช้ Take Profit (Use Take Profit): เพื่อล็อคกำไร
• ไม่เทรดด้วยอารมณ์ (Don't Trade with Emotions): ตัดสินใจซื้อขายตามแผนที่วางไว้ ไม่ใช่ตามความรู้สึก
• กระจายความเสี่ยง (Diversification): ไม่ควรลงทุนในคู่สกุลเงินเพียงคู่เดียว
• เรียนรู้และปรับปรุงกลยุทธ์ (Learn and Improve Strategy): ศึกษาและพัฒนาทักษะการเทรดอย่างต่อเนื่อง Forex Education Resources

การเลือกโบรกเกอร์ Forex

การเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือและมีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญ ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้:

• การกำกับดูแล (Regulation): เลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินที่น่าเชื่อถือ เช่น FCA (Financial Conduct Authority) ในสหราชอาณาจักร หรือ CySEC (Cyprus Securities and Exchange Commission) ในไซปรัส
• Spread และค่าธรรมเนียม (Spread and Fees): เปรียบเทียบ Spread และค่าธรรมเนียมของโบรกเกอร์ต่างๆ
• Leverage (Leverage): เลือก Leverage ที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่รับได้
• แพลตฟอร์มการเทรด (Trading Platform): เลือกแพลตฟอร์มการเทรดที่ใช้งานง่ายและมีเครื่องมือที่จำเป็น
• การบริการลูกค้า (Customer Support): เลือกโบรกเกอร์ที่มีการบริการลูกค้าที่ดีและรวดเร็ว

การเริ่มต้นเทรด Forex

1. ศึกษาข้อมูล (Learn): ทำความเข้าใจเกี่ยวกับตลาด Forex กลไกการทำงาน และความเสี่ยงต่างๆ 2. เปิดบัญชี Demo (Open a Demo Account): ฝึกฝนการเทรดด้วยบัญชี Demo เพื่อทำความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มการเทรดและทดสอบกลยุทธ์ต่างๆ Forex Demo Account Benefits 3. พัฒนากลยุทธ์ (Develop a Strategy): กำหนดกลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรดและระดับความเสี่ยงที่รับได้ 4. เปิดบัญชีจริง (Open a Live Account): เมื่อมีความมั่นใจแล้ว จึงค่อยเปิดบัญชีจริงและเริ่มทำการซื้อขาย 5. ติดตามผลการเทรด (Track Your Trades): บันทึกผลการเทรดเพื่อวิเคราะห์และปรับปรุงกลยุทธ์

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

• Babypips ([1](https://www.babypips.com/))
• Investopedia ([2](https://www.investopedia.com/forex))
• DailyFX ([3](https://www.dailyfx.com/))

กลยุทธ์เพิ่มเติม

• Price Action Trading – การเทรดโดยดูจากรูปแบบราคา Price Action Trading Guide
• Elliott Wave Theory – ทฤษฎีคลื่นเอลเลียตต์ Understanding Elliott Waves
• Harmonic Patterns – รูปแบบฮาร์มอนิก Harmonic Trading Patterns
• News Trading – การเทรดตามข่าวสาร News Trading Strategies
• Carry Trade – การเทรดโดยใช้ประโยชน์จากความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ย Carry Trade Explained

การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพิ่มเติม

• Volume Spread Analysis (VSA) – การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายและความผันผวนของราคา VSA Trading Principles
• Renko Charts – กราฟ Renko Renko Chart Trading
• Heikin Ashi Charts – กราฟ Heikin Ashi Heikin Ashi Chart Analysis

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเพิ่มเติม

• Order Flow Analysis – การวิเคราะห์การไหลของคำสั่งซื้อขาย Order Flow Trading
• Time and Sales Data – ข้อมูลการซื้อขายตามเวลา Time and Sales Data Interpretation

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น