กำหนดขนาด Position
- กำหนด ขนาด Position ใน ไบนารี่ ออปชั่น
การซื้อขาย ไบนารี่ ออปชั่น เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็สามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจได้หากมีการบริหารความเสี่ยงที่ดี หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของการบริหารความเสี่ยงคือการ **กำหนดขนาด Position** หรือที่เรียกว่า Position Sizing ซึ่งหมายถึงการตัดสินใจว่าคุณจะลงทุนเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ในแต่ละการซื้อขาย บทความนี้จะอธิบายถึงความสำคัญของ Position Sizing, ปัจจัยที่ต้องพิจารณา, และวิธีการคำนวณขนาด Position ที่เหมาะสมสำหรับผู้เริ่มต้น
- ความสำคัญของ การกำหนดขนาด Position
การกำหนดขนาด Position ที่เหมาะสมไม่ใช่เรื่องที่ควรละเลย เพราะมีผลกระทบโดยตรงต่อเงินทุนของคุณ หากคุณลงทุนมากเกินไปในการซื้อขายครั้งเดียว และการซื้อขายนั้นไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง คุณอาจสูญเสียเงินทุนจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว ในทางกลับกัน หากคุณลงทุนน้อยเกินไป แม้ว่าการซื้อขายนั้นจะประสบความสำเร็จ ผลตอบแทนที่ได้รับก็อาจไม่คุ้มค่ากับเวลาและความพยายามที่เสียไป
การกำหนดขนาด Position ที่ดีจะช่วยให้คุณ:
- **ควบคุมความเสี่ยง:** จำกัดจำนวนเงินที่คุณสามารถสูญเสียได้ในการซื้อขายแต่ละครั้ง
- **รักษาเงินทุน:** ป้องกันไม่ให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมดจากการซื้อขายเพียงไม่กี่ครั้ง
- **เพิ่มโอกาสในการทำกำไรระยะยาว:** ช่วยให้คุณสามารถซื้อขายได้อย่างสม่ำเสมอและมีวินัย
- ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการกำหนดขนาด Position
ก่อนที่คุณจะเริ่มคำนวณขนาด Position คุณต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้:
1. **เงินทุนทั้งหมด:** จำนวนเงินที่คุณมีสำหรับซื้อขายไบนารี่ ออปชั่น 2. **ความเสี่ยงที่คุณรับได้:** เปอร์เซ็นต์ของเงินทุนที่คุณยินดีที่จะเสี่ยงในการซื้อขายแต่ละครั้ง โดยทั่วไปแล้ว ผู้เริ่มต้นควรเริ่มต้นด้วยการเสี่ยงไม่เกิน 1-2% ของเงินทุนทั้งหมด 3. **อัตราผลตอบแทนที่คาดหวัง:** ผลตอบแทนที่คุณคาดหวังว่าจะได้รับจากการซื้อขายครั้งนั้นๆ 4. **ความน่าจะเป็นในการชนะ:** การประเมินโอกาสที่การซื้อขายของคุณจะประสบความสำเร็จ ซึ่งอาจอิงจาก การวิเคราะห์ทางเทคนิค หรือ การวิเคราะห์พื้นฐาน 5. **กลยุทธ์การซื้อขาย:** กลยุทธ์ที่คุณใช้ในการซื้อขายมีผลต่อความเสี่ยงและผลตอบแทนที่คาดหวัง ตัวอย่างเช่น กลยุทธ์ Straddle มีความเสี่ยงสูงกว่ากลยุทธ์ Covered Call
- วิธีการคำนวณขนาด Position
มีหลายวิธีในการคำนวณขนาด Position แต่สูตรที่ง่ายและนิยมใช้กันคือ:
- ขนาด Position = (เงินทุนทั้งหมด * เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยง) / ผลตอบแทนที่คาดหวัง**
ตัวอย่าง:
- เงินทุนทั้งหมด: 10,000 บาท
- เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยง: 2%
- ผลตอบแทนที่คาดหวัง: 80% (สำหรับไบนารี่ ออปชั่นที่จ่าย 80% เมื่อชนะ)
ขนาด Position = (10,000 * 0.02) / 0.80 = 250 บาท
ดังนั้น คุณควรลงทุน 250 บาทในการซื้อขายครั้งนี้
- ข้อควรระวัง:** สูตรนี้เป็นเพียงแนวทางเบื้องต้น คุณอาจต้องปรับเปลี่ยนสูตรตามความเหมาะสมกับสถานการณ์และกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ
- ตัวอย่างการคำนวณขนาด Position ในสถานการณ์ต่างๆ
| สถานการณ์ | เงินทุนทั้งหมด (บาท) | เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยง (%) | ผลตอบแทนที่คาดหวัง (%) | ขนาด Position (บาท) | |---|---|---|---|---| | 1 | 5,000 | 1 | 70 | 71.43 | | 2 | 10,000 | 2 | 80 | 250 | | 3 | 20,000 | 1.5 | 75 | 400 | | 4 | 50,000 | 0.5 | 90 | 277.78 |
- การปรับขนาด Position ตามความผันผวนของตลาด
ความผันผวนของตลาดมีผลต่อความเสี่ยงของการซื้อขาย หากตลาดมีความผันผวนสูง คุณควรลดขนาด Position เพื่อลดความเสี่ยง ในทางกลับกัน หากตลาดมีความผันผวนต่ำ คุณอาจเพิ่มขนาด Position ได้เล็กน้อย
คุณสามารถวัดความผันผวนของตลาดได้โดยใช้ตัวชี้วัดต่างๆ เช่น:
- **Average True Range (ATR):** ตัวชี้วัดที่วัดช่วงราคาเฉลี่ยของสินทรัพย์ในช่วงเวลาที่กำหนด
- **Bollinger Bands:** แถบที่แสดงความผันผวนของราคา
- **Volatility Index (VIX):** ดัชนีที่วัดความคาดหวังของความผันผวนของตลาดหุ้น
- การใช้ Stop Loss และ Take Profit เพื่อควบคุมความเสี่ยง
นอกจากการกำหนดขนาด Position แล้ว คุณควรใช้เครื่องมือ Stop Loss และ Take Profit เพื่อควบคุมความเสี่ยงและล็อคผลกำไร
- **Stop Loss:** คำสั่งที่จะปิดการซื้อขายโดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้ล่วงหน้า เพื่อจำกัดการสูญเสีย
- **Take Profit:** คำสั่งที่จะปิดการซื้อขายโดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้ล่วงหน้า เพื่อล็อคผลกำไร
- กลยุทธ์การกำหนดขนาด Position ที่น่าสนใจ
1. **Fixed Fractional Position Sizing:** เป็นวิธีการที่นิยมใช้กันมากที่สุด โดยคุณจะกำหนดเปอร์เซ็นต์ของเงินทุนที่คุณจะเสี่ยงในการซื้อขายแต่ละครั้ง 2. **Kelly Criterion:** เป็นสูตรที่ซับซ้อนกว่า ซึ่งคำนึงถึงความน่าจะเป็นในการชนะและอัตราผลตอบแทนที่คาดหวัง เพื่อคำนวณขนาด Position ที่เหมาะสมที่สุด 3. **Martingale System:** เป็นกลยุทธ์ที่เพิ่มขนาด Position ขึ้นเป็นสองเท่าทุกครั้งที่การซื้อขายไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงสูงมาก และไม่แนะนำสำหรับผู้เริ่มต้น 4. **Anti-Martingale System:** เป็นกลยุทธ์ที่ลดขนาด Position ลงทุกครั้งที่การซื้อขายไม่ประสบความสำเร็จ และเพิ่มขนาด Position ขึ้นเมื่อการซื้อขายประสบความสำเร็จ 5. **Fixed Ratio Position Sizing:** เป็นการกำหนดขนาด Position ตามอัตราส่วนคงที่ของเงินทุน
- ความผิดพลาดที่พบบ่อยในการกำหนดขนาด Position
- **การลงทุนมากเกินไป:** การเสี่ยงเงินทุนมากเกินไปในการซื้อขายครั้งเดียว
- **การลงทุนน้อยเกินไป:** การลงทุนน้อยเกินไป ทำให้ผลตอบแทนที่ได้รับไม่คุ้มค่า
- **การไม่ปรับขนาด Position ตามความผันผวนของตลาด:** การไม่ลดขนาด Position เมื่อตลาดมีความผันผวนสูง
- **การละเลยการใช้ Stop Loss และ Take Profit:** การไม่ใช้เครื่องมือควบคุมความเสี่ยง
- สรุป
การกำหนดขนาด Position เป็นส่วนสำคัญของการบริหารความเสี่ยงในการซื้อขาย ไบนารี่ ออปชั่น การทำความเข้าใจปัจจัยที่ต้องพิจารณาและวิธีการคำนวณขนาด Position ที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมความเสี่ยง รักษาเงินทุน และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรระยะยาว อย่าลืมว่าการซื้อขายไบนารี่ ออปชั่น มีความเสี่ยงสูง ดังนั้นคุณควรเริ่มต้นด้วยการเสี่ยงน้อยๆ และเรียนรู้จากประสบการณ์ของคุณ
- ลิงก์ภายในที่เกี่ยวข้อง
- การวิเคราะห์ทางเทคนิค
- การวิเคราะห์พื้นฐาน
- การจัดการความเสี่ยง
- Stop Loss
- Take Profit
- กลยุทธ์ Straddle
- กลยุทธ์ Covered Call
- Average True Range (ATR)
- Bollinger Bands
- Volatility Index (VIX)
- การซื้อขายด้วยแนวโน้ม
- การซื้อขาย Breakout
- การซื้อขาย Range
- การซื้อขายตามข่าว
- การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย
- การจัดการเงินทุน
- จิตวิทยาการเทรด
- การเลือกโบรกเกอร์ไบนารี่ออปชั่น
- การทำความเข้าใจสัญญาไบนารี่ออปชั่น
- การวิเคราะห์ความเสี่ยงในการเทรดไบนารี่ออปชั่น
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

