การใช้ Take Profit Order

การใช้ Take Profit Order ในไบนารี่ออปชั่น

บทนำ

ไบนารี่ออปชั่นเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยความเรียบง่ายและความสามารถในการทำกำไรอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นก็มีความเสี่ยงเช่นกัน และการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนทุกคน หนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการบริหารความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรคือ Take Profit Order บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับการใช้ Take Profit Order ในไบนารี่ออปชั่น สำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงข้อดี ข้อเสีย และวิธีการใช้งานอย่างเหมาะสม

Take Profit Order คืออะไร?

Take Profit Order หรือคำสั่งทำกำไร เป็นคำสั่งที่นักลงทุนตั้งไว้ล่วงหน้าเพื่อปิดการซื้อขายโดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับกำไรที่ต้องการ ซึ่งหมายความว่าเมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่คาดการณ์ไว้ และถึงระดับราคาที่กำหนดไว้ใน Take Profit Order ระบบจะทำการปิดการซื้อขายโดยอัตโนมัติ และบันทึกกำไรตามที่ตั้งไว้

ทำไมต้องใช้ Take Profit Order?

การใช้ Take Profit Order มีประโยชน์หลายประการ ดังนี้:

• ป้องกันการสูญเสียกำไร: ตลาดการเงินมีความผันผวนสูง และราคาอาจกลับตัวได้อย่างรวดเร็ว การตั้ง Take Profit Order ช่วยให้นักลงทุนสามารถล็อกกำไรได้เมื่อถึงระดับที่ต้องการ ป้องกันไม่ให้กำไรที่ได้มาจากการคาดการณ์ที่ถูกต้องหายไปเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของราคา
• ลดความเครียด: การเฝ้าดูกราฟราคาตลอดเวลาอาจเป็นเรื่องเครียดและเสียเวลา การตั้ง Take Profit Order ช่วยลดภาระในการเฝ้าตลาด และช่วยให้นักลงทุนสามารถใช้เวลาไปกับกิจกรรมอื่นๆ ได้
• เพิ่มประสิทธิภาพในการซื้อขาย: Take Profit Order ช่วยให้นักลงทุนสามารถวางแผนการซื้อขายได้อย่างมีระบบ และดำเนินการตามแผนได้อย่างเคร่งครัด ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการซื้อขายโดยรวม
• บริหารความเสี่ยง: แม้ว่า Take Profit Order จะเน้นที่การทำกำไร แต่ก็มีส่วนช่วยในการบริหารความเสี่ยงด้วย เนื่องจากช่วยจำกัดการเปิดรับความเสี่ยงหากราคาเคลื่อนที่ผิดทาง หลังจากที่ถึงจุด Take Profit แล้ว

วิธีการตั้ง Take Profit Order ในไบนารี่ออปชั่น

วิธีการตั้ง Take Profit Order อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นที่ใช้ แต่โดยทั่วไปแล้วขั้นตอนพื้นฐานมีดังนี้:

1. เลือกสินทรัพย์อ้างอิง: เลือกสินทรัพย์ที่คุณต้องการซื้อขาย เช่น สกุลเงิน (Forex), ดัชนีหุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์ 2. เลือกประเภทการซื้อขาย: เลือกประเภทการซื้อขายที่ต้องการ เช่น Call (ขึ้น) หรือ Put (ลง) 3. กำหนดระยะเวลาการซื้อขาย: กำหนดระยะเวลาการซื้อขายที่ต้องการ เช่น 60 วินาที, 5 นาที, 15 นาที 4. กำหนดจำนวนเงินลงทุน: กำหนดจำนวนเงินที่คุณต้องการลงทุนในการซื้อขายครั้งนี้ 5. ตั้งค่า Take Profit Order: ในหน้าต่างคำสั่งซื้อขาย จะมีช่องให้ตั้งค่า Take Profit Order โดยคุณจะต้องระบุระดับราคาที่ต้องการให้ระบบปิดการซื้อขายโดยอัตโนมัติ 6. ยืนยันคำสั่งซื้อขาย: ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดให้ถูกต้อง แล้วยืนยันคำสั่งซื้อขาย

การกำหนดระดับราคา Take Profit Order ที่เหมาะสม

การกำหนดระดับราคา Take Profit Order ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยง มีหลายปัจจัยที่ควรพิจารณา:

• การวิเคราะห์ทางเทคนิค: ใช้เครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น แนวรับแนวต้าน (Support and Resistance), เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages), หรือรูปแบบกราฟ (Chart Patterns) เพื่อระบุระดับราคาที่เหมาะสมในการตั้ง Take Profit Order ตัวอย่างเช่น หากคุณคาดการณ์ว่าราคาจะขึ้น และราคาเข้าใกล้แนวต้านที่แข็งแกร่ง คุณอาจตั้ง Take Profit Order ไว้ที่ระดับราคานั้น
• การวิเคราะห์พื้นฐาน: พิจารณาปัจจัยพื้นฐานที่อาจมีผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์อ้างอิง เช่น ข่าวเศรษฐกิจ, เหตุการณ์ทางการเมือง, หรือรายงานผลประกอบการของบริษัท
• ความผันผวนของราคา: สินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงอาจต้องการ Take Profit Order ที่กว้างกว่าเพื่อให้มีโอกาสทำกำไรมากขึ้น ในขณะที่สินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำอาจต้องการ Take Profit Order ที่แคบกว่า
• อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk-Reward Ratio): พยายามตั้ง Take Profit Order ให้อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนเป็นไปตามที่คุณต้องการ โดยทั่วไปแล้ว นักลงทุนส่วนใหญ่มักจะตั้งเป้าหมายให้อัตราส่วนนี้อยู่ที่ 1:2 หรือ 1:3 ซึ่งหมายความว่าคุณพร้อมที่จะเสี่ยง 1 หน่วยเพื่อที่จะได้รับผลตอบแทน 2 หรือ 3 หน่วยตามลำดับ การบริหารความเสี่ยง
• กลยุทธ์การซื้อขาย: กลยุทธ์การซื้อขายที่คุณใช้ก็มีผลต่อการกำหนด Take Profit Order ด้วย ตัวอย่างเช่น หากคุณใช้กลยุทธ์ Scalping คุณอาจตั้ง Take Profit Order ที่แคบกว่ากลยุทธ์ Swing Trading

ข้อดีและข้อเสียของ Take Profit Order

| ข้อดี | ข้อเสีย | | ---------------------------------- | ---------------------------------- | | ป้องกันการสูญเสียกำไร | อาจพลาดโอกาสทำกำไรที่มากกว่า | | ลดความเครียด | อาจถูกเรียกใช้งานก่อนเวลาอันควร (slippage) | | เพิ่มประสิทธิภาพในการซื้อขาย | ต้องมีการวิเคราะห์และวางแผนอย่างรอบคอบ | | บริหารความเสี่ยง | ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้หลังจากตั้งค่าแล้ว |

กลยุทธ์การซื้อขายที่ใช้ร่วมกับ Take Profit Order

• Trend Following: เมื่อคุณระบุแนวโน้ม (Trend) ที่ชัดเจนแล้ว คุณสามารถใช้ Take Profit Order เพื่อล็อกกำไรเมื่อราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางของแนวโน้มนั้น การวิเคราะห์แนวโน้ม
• Breakout Trading: เมื่อราคา Breakout จากระดับแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ คุณสามารถใช้ Take Profit Order เพื่อล็อกกำไรเมื่อราคาเคลื่อนที่ต่อไปในทิศทางของการ Breakout การซื้อขาย Breakout
• Range Trading: เมื่อราคามีการเคลื่อนที่อยู่ในช่วงแคบๆ (Range) คุณสามารถใช้ Take Profit Order เพื่อล็อกกำไรเมื่อราคาแตะแนวรับหรือแนวต้านของ Range การซื้อขาย Range
• Fibonacci Retracement: ใช้ระดับ Fibonacci Retracement เพื่อระบุระดับราคาที่เหมาะสมในการตั้ง Take Profit Order Fibonacci Retracement
• Bollinger Bands: ใช้ Bollinger Bands เพื่อระบุระดับราคาที่อาจเกิดการกลับตัวของราคา และใช้เป็นจุดตั้ง Take Profit Order Bollinger Bands
• MACD: ใช้ MACD เพื่อระบุสัญญาณการซื้อขาย และใช้ Take Profit Order เพื่อล็อกกำไรเมื่อ MACD ส่งสัญญาณขาย MACD
• RSI: ใช้ RSI เพื่อระบุสภาวะการซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือการขายมากเกินไป (Oversold) และใช้ Take Profit Order เพื่อล็อกกำไรเมื่อ RSI กลับสู่ระดับปกติ RSI
• Ichimoku Cloud: ใช้ Ichimoku Cloud เพื่อระบุแนวโน้มและระดับแนวรับแนวต้าน และใช้ Take Profit Order เพื่อล็อกกำไรเมื่อราคาเคลื่อนที่ไปตามแนวโน้ม Ichimoku Cloud
• Elliott Wave: ใช้ Elliott Wave เพื่อระบุรูปแบบของคลื่นราคา และใช้ Take Profit Order เพื่อล็อกกำไรเมื่อคลื่นราคาเสร็จสมบูรณ์ Elliott Wave
• Harmonic Patterns: ใช้ Harmonic Patterns เพื่อระบุรูปแบบราคาที่ซับซ้อน และใช้ Take Profit Order เพื่อล็อกกำไรเมื่อรูปแบบราคาเสร็จสมบูรณ์ Harmonic Patterns
• Price Action: วิเคราะห์การเคลื่อนที่ของราคาโดยตรง โดยไม่ต้องใช้ Indicator และใช้ Take Profit Order เพื่อล็อกกำไรเมื่อราคาแสดงสัญญาณการกลับตัว Price Action
• Candlestick Patterns: วิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียนเพื่อระบุสัญญาณการซื้อขาย และใช้ Take Profit Order เพื่อล็อกกำไรเมื่อรูปแบบแท่งเทียนสิ้นสุด Candlestick Patterns
• Volume Spread Analysis: วิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายและ Spread เพื่อระบุความแข็งแกร่งของแนวโน้ม และใช้ Take Profit Order เพื่อล็อกกำไรเมื่อแนวโน้มอ่อนแอลง Volume Spread Analysis
• Order Flow Analysis: วิเคราะห์การไหลของคำสั่งซื้อขายเพื่อระบุความต้องการของตลาด และใช้ Take Profit Order เพื่อล็อกกำไรเมื่อความต้องการของตลาดเปลี่ยนไป Order Flow Analysis
• Seasonal Patterns: วิเคราะห์รูปแบบราคาตามฤดูกาล และใช้ Take Profit Order เพื่อล็อกกำไรเมื่อราคาเคลื่อนที่ตามรูปแบบตามฤดูกาล Seasonal Patterns

ข้อควรระวังในการใช้ Take Profit Order

• Slippage: ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง อาจเกิด Slippage ซึ่งหมายความว่าคำสั่ง Take Profit Order ของคุณอาจถูกดำเนินการในราคาที่แตกต่างจากที่คุณตั้งไว้
• ข่าวสำคัญ: ในช่วงที่มีข่าวสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์อ้างอิง อาจเกิดการเคลื่อนไหวของราคาที่รวดเร็วและรุนแรง ซึ่งอาจทำให้ Take Profit Order ของคุณถูกเรียกใช้งานก่อนเวลาอันควร
• การปรับเปลี่ยน: เมื่อคุณตั้ง Take Profit Order แล้ว คุณจะไม่สามารถปรับเปลี่ยนระดับราคาได้ ดังนั้น คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนที่จะตั้งค่า Take Profit Order

สรุป

Take Profit Order เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับนักลงทุนไบนารี่ออปชั่น ช่วยให้คุณสามารถป้องกันการสูญเสียกำไร ลดความเครียด และเพิ่มประสิทธิภาพในการซื้อขาย อย่างไรก็ตาม การใช้ Take Profit Order อย่างมีประสิทธิภาพต้องอาศัยการวิเคราะห์และการวางแผนอย่างรอบคอบ รวมถึงความเข้าใจในปัจจัยต่างๆ ที่อาจมีผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์อ้างอิง

การบริหารความเสี่ยง การวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์พื้นฐาน แนวรับแนวต้าน เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ รูปแบบกราฟ กลยุทธ์ Scalping กลยุทธ์ Swing Trading การวิเคราะห์แนวโน้ม การซื้อขาย Breakout การซื้อขาย Range Fibonacci Retracement Bollinger Bands MACD RSI Ichimoku Cloud Elliott Wave Harmonic Patterns Price Action Candlestick Patterns Volume Spread Analysis Order Flow Analysis Seasonal Patterns

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น