การใช้ Fibonacci Retracement ในการวิเคราะห์ราคาหุ้น
- การใช้ Fibonacci Retracement ในการวิเคราะห์ราคาหุ้น
Fibonacci Retracement เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่เทรดเดอร์ นักลงทุน และผู้ที่สนใจใน ตลาดการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน การซื้อขายไบนารี่ออปชั่น เครื่องมือนี้ใช้ลำดับ Fibonacci ซึ่งเป็นลำดับของตัวเลขที่ค้นพบโดย Leonardo Fibonacci นักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลี ในศตวรรษที่ 13 เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ในตลาด
บทความนี้จะอธิบายหลักการพื้นฐานของ Fibonacci Retracement วิธีการใช้งานในการวิเคราะห์ราคาหุ้น และกลยุทธ์การเทรดที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้อควรระวังในการใช้งาน
- ประวัติและความเป็นมาของ Fibonacci
ก่อนที่เราจะลงลึกในรายละเอียดการใช้งาน Fibonacci Retracement เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Fibonacci กันก่อน Leonardo Fibonacci ไม่ได้เป็นคนแรกที่ค้นพบลำดับตัวเลขนี้ แต่เขาได้นำเสนอแนวคิดนี้ให้กับโลกตะวันตกผ่านหนังสือ Liber Abaci ในปี 1202 ลำดับ Fibonacci เริ่มต้นด้วย 0 และ 1 และตัวเลขถัดไปในลำดับคือผลรวมของสองตัวเลขก่อนหน้า: 0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, 144 และอื่นๆ
สิ่งที่น่าสนใจคือลำดับ Fibonacci สามารถพบได้ในธรรมชาติในรูปแบบต่างๆ เช่น การจัดเรียงเกลียวของเมล็ดทานตะวัน การจัดเรียงใบไม้บนกิ่งไม้ และสัดส่วนของร่างกายมนุษย์ ความถี่ในการปรากฏตัวของลำดับนี้ในธรรมชาติทำให้เกิดความเชื่อว่าลำดับ Fibonacci มีความสัมพันธ์กับกฎเกณฑ์พื้นฐานของจักรวาล และสามารถนำมาใช้ในการทำนายปรากฏการณ์ต่างๆ ได้ รวมถึงการเคลื่อนไหวของราคาในตลาดการเงิน
- Fibonacci Retracement คืออะไร?
Fibonacci Retracement คือการใช้ระดับสัดส่วนที่ได้มาจากลำดับ Fibonacci เพื่อระบุแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ในกราฟราคาหุ้น ระดับสัดส่วนที่สำคัญที่สุดที่ใช้กันทั่วไปคือ:
- **23.6%:** ระดับ Retracement ที่ค่อนข้างเบา
- **38.2%:** ระดับ Retracement ที่นิยมใช้กันมาก
- **50%:** แม้จะไม่ใช่ระดับ Fibonacci โดยตรง แต่ก็มักถูกรวมไว้เนื่องจากเป็นจุดกึ่งกลางของการเคลื่อนไหวของราคา
- **61.8%:** หรือที่เรียกว่า "Golden Ratio" เป็นระดับ Retracement ที่สำคัญที่สุด
- **78.6%:** ระดับ Retracement ที่ใช้กันน้อยกว่า แต่ก็ยังสามารถให้ข้อมูลที่มีประโยชน์ได้
ในการสร้าง Fibonacci Retracement บนกราฟราคาหุ้น เราจะต้องระบุจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่สำคัญของการเคลื่อนไหวของราคา จากนั้นโปรแกรมวิเคราะห์ทางเทคนิคจะคำนวณและแสดงระดับ Retracement โดยอัตโนมัติ
- วิธีการใช้งาน Fibonacci Retracement
1. **ระบุแนวโน้ม:** ขั้นตอนแรกคือการระบุแนวโน้มของราคาหุ้น หากราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) ให้ระบุจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดล่าสุด หากราคาอยู่ในแนวโน้มขาลง (Downtrend) ให้ระบุจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดล่าสุด 2. **วาด Fibonacci Retracement:** ใช้เครื่องมือ Fibonacci Retracement ในโปรแกรมวิเคราะห์ทางเทคนิคของคุณ ลากเส้นจากจุดต่ำสุดไปยังจุดสูงสุด (สำหรับ Uptrend) หรือจากจุดสูงสุดไปยังจุดต่ำสุด (สำหรับ Downtrend) โปรแกรมจะแสดงระดับ Retracement โดยอัตโนมัติ 3. **ระบุแนวรับและแนวต้าน:** ระดับ Retracement จะทำหน้าที่เป็นแนวรับในแนวโน้มขาขึ้น และเป็นแนวต้านในแนวโน้มขาลง เทรดเดอร์มักจะมองหาการกลับตัวของราคาที่ระดับเหล่านี้ 4. **ยืนยันด้วยเครื่องมืออื่นๆ:** การใช้ Fibonacci Retracement เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการตัดสินใจเทรด ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Moving Average, Relative Strength Index (RSI), MACD หรือ Bollinger Bands เพื่อยืนยันสัญญาณ
- กลยุทธ์การเทรดโดยใช้ Fibonacci Retracement
- **การซื้อเมื่อราคา Retracement ไปที่ระดับ Fibonacci:** ในแนวโน้มขาขึ้น เมื่อราคาปรับตัวลงและแตะระดับ Fibonacci ที่สำคัญ (เช่น 38.2% หรือ 61.8%) เทรดเดอร์อาจพิจารณาเข้าซื้อ (Long) โดยคาดหวังว่าราคาจะกลับตัวขึ้นไปต่อ
- **การขายเมื่อราคา Retracement ไปที่ระดับ Fibonacci:** ในแนวโน้มขาลง เมื่อราคาปรับตัวขึ้นและแตะระดับ Fibonacci ที่สำคัญ (เช่น 38.2% หรือ 61.8%) เทรดเดอร์อาจพิจารณาเข้าขาย (Short) โดยคาดหวังว่าราคาจะกลับตัวลงต่อไป
- **การใช้ Fibonacci Extension:** Fibonacci Extension เป็นเครื่องมือที่ใช้เพื่อระบุเป้าหมายราคาที่เป็นไปได้หลังจากที่ราคาได้ทะลุระดับ Retracement ไปแล้ว ระดับ Extension ที่สำคัญคือ 161.8%, 261.8% และ 423.6%
- **การรวมกับรูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns):** การรวม Fibonacci Retracement กับรูปแบบแท่งเทียน เช่น Doji, Engulfing Pattern หรือ Hammer สามารถช่วยยืนยันสัญญาณการกลับตัวของราคาได้
- **Fibonacci ในการเทรด Binary Options:** ในการเทรด Binary Options Fibonacci Retracement สามารถใช้เพื่อกำหนด expiry time และ strike price ที่เหมาะสมได้ ตัวอย่างเช่น หากราคาทองคำอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นและ Retracement มาที่ระดับ 61.8% เทรดเดอร์อาจเลือก Call option ที่มี expiry time สั้นๆ (เช่น 5 นาที หรือ 15 นาที)
- ข้อควรระวังในการใช้งาน Fibonacci Retracement
- **ไม่ใช่เครื่องมือที่แม่นยำ 100%:** Fibonacci Retracement เป็นเครื่องมือที่ช่วยระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าราคาจะกลับตัวที่ระดับเหล่านี้เสมอไป
- **การเลือกจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่สำคัญ:** การเลือกจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่สำคัญอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ หากเลือกผิดพลาด ระดับ Retracement ที่ได้อาจไม่แม่นยำ
- **การใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ:** ควรใช้ Fibonacci Retracement ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณและลดความเสี่ยง
- **การบริหารความเสี่ยง:** ไม่ว่าคุณจะใช้เครื่องมือใดในการวิเคราะห์ตลาด การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญเสมอ กำหนดขนาด position ที่เหมาะสม และตั้ง Stop-loss เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
- ตัวอย่างการใช้งาน Fibonacci Retracement
สมมติว่าหุ้น XYZ อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ราคาปรับตัวขึ้นจาก 100 บาท เป็น 150 บาท จากนั้นราคาปรับตัวลงเล็กน้อย เทรดเดอร์ใช้ Fibonacci Retracement โดยลากเส้นจาก 100 บาท ไปยัง 150 บาท
| ระดับ Fibonacci | ราคา | |---|---| | 23.6% | 126.40 บาท | | 38.2% | 118.20 บาท | | 50% | 110.00 บาท | | 61.8% | 101.80 บาท | | 78.6% | 92.20 บาท |
หากราคาปรับตัวลงและแตะระดับ 38.2% ที่ 118.20 บาท เทรดเดอร์อาจพิจารณาเข้าซื้อ โดยคาดหวังว่าราคาจะกลับตัวขึ้นไปต่อ เป้าหมายราคาอาจอยู่ที่ระดับ Fibonacci Extension 161.8% ที่ 183.60 บาท
- สรุป
Fibonacci Retracement เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์และนักลงทุนทุกระดับ การทำความเข้าใจหลักการพื้นฐานและการใช้งานอย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณสามารถระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในตลาดหุ้นและตลาด Forex อย่าลืมว่าการเทรดมีความเสี่ยง และการบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญเสมอ
- ลิงก์เพิ่มเติม
- การวิเคราะห์ทางเทคนิค
- แนวโน้ม (Trend)
- แนวรับและแนวต้าน
- Moving Average
- Relative Strength Index (RSI)
- MACD
- Bollinger Bands
- รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns)
- Doji
- Engulfing Pattern
- Hammer
- Fibonacci Extension
- การเทรด Binary Options
- การบริหารความเสี่ยงในการเทรด
- กลยุทธ์การเทรดแบบ Scalping
- กลยุทธ์การเทรดแบบ Day Trading
- กลยุทธ์การเทรดแบบ Swing Trading
- การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis)
- Price Action Trading
- การวิเคราะห์ตลาดด้วย Elliott Wave (Category:Technical Analysis) - เป็นหมวดหมู่หลักที่ครอบคลุมหัวข้อนี้
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

