การใช้ CFD Trading
- การใช้ CFD Trading
CFD หรือ Contracts for Difference คือตราสารอนุพันธ์ทางการเงินที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดการเงินทั่วโลก เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเก็งกำไรจากความผันผวนของราคาสินทรัพย์ต่างๆ ได้โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้นจริงๆ บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการซื้อขาย CFD สำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงข้อดี ข้อเสีย กลไกการทำงาน กลยุทธ์ และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง
CFD คืออะไร?
CFD คือข้อตกลงระหว่างเทรดเดอร์และโบรกเกอร์ โดยที่ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะแลกเปลี่ยนผลต่างของราคา (difference) ของสินทรัพย์อ้างอิง ณ จุดเริ่มต้นและสิ้นสุดของสัญญา เทรดเดอร์จะได้รับผลกำไรหากราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่คาดการณ์ไว้ และจะขาดทุนหากราคาเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้าม
สินทรัพย์อ้างอิงที่สามารถซื้อขายผ่าน CFD ได้แก่ หุ้น หุ้น ดัชนีหุ้น ดัชนีหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ สินค้าโภคภัณฑ์ คู่สกุลเงิน คู่สกุลเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย
ข้อดีของการซื้อขาย CFD
- **Leverage (การใช้เลเวอเรจ):** CFD ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถควบคุมตำแหน่งที่มีมูลค่าสูงกว่าเงินทุนที่มีอยู่ได้ด้วยการใช้เลเวอเรจ ตัวอย่างเช่น หากโบรกเกอร์เสนอเลเวอเรจ 1:10 เทรดเดอร์ที่มีเงินทุน 1,000 บาท สามารถเปิดตำแหน่งที่มีมูลค่า 10,000 บาทได้ อย่างไรก็ตาม การใช้เลเวอเรจสูงขึ้นก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นเช่นกัน
- **Short Selling (การขายชอร์ต):** CFD ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถทำกำไรได้จากทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง โดยสามารถเปิดสถานะขาย (short position) เพื่อทำกำไรจากการลดลงของราคา
- **ความหลากหลายของตลาด:** CFD ครอบคลุมสินทรัพย์หลากหลายประเภท ทำให้เทรดเดอร์สามารถกระจายความเสี่ยงและเลือกซื้อขายสินทรัพย์ที่ตนเองมีความเชี่ยวชาญได้
- **ต้นทุนที่ต่ำ:** โดยทั่วไปแล้ว ค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย CFD จะต่ำกว่าการซื้อขายสินทรัพย์โดยตรง
- **ความสะดวกในการเข้าถึง:** การซื้อขาย CFD สามารถทำได้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ทำให้เทรดเดอร์สามารถเข้าถึงตลาดได้จากทุกที่ทุกเวลา
ข้อเสียของการซื้อขาย CFD
- **ความเสี่ยงสูง:** เลเวอเรจที่สูงสามารถขยายทั้งกำไรและขาดทุนได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เทรดเดอร์อาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย
- **ค่าธรรมเนียมการถือครองตำแหน่ง (Overnight Funding):** หากถือครองตำแหน่ง CFD ข้ามคืน อาจมีค่าธรรมเนียมการถือครองตำแหน่งเกิดขึ้น
- **ความผันผวนของตลาด:** ตลาด CFD มีความผันผวนสูง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของราคาอย่างรวดเร็ว
- **ความซับซ้อน:** การทำความเข้าใจกลไกการทำงานของ CFD และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอาจมีความซับซ้อนสำหรับผู้เริ่มต้น
กลไกการทำงานของ CFD
เมื่อเทรดเดอร์เปิดตำแหน่ง CFD จะไม่ได้เป็นการซื้อขายสินทรัพย์อ้างอิงโดยตรง แต่เป็นการทำสัญญาว่าจะแลกเปลี่ยนผลต่างของราคาในอนาคต
- **Buy (Long):** หากเทรดเดอร์คาดการณ์ว่าราคาสินทรัพย์จะสูงขึ้น จะเปิดสถานะซื้อ (long position) หากราคาเป็นไปตามที่คาดการณ์ เทรดเดอร์จะได้รับผลกำไรเท่ากับผลต่างของราคา
- **Sell (Short):** หากเทรดเดอร์คาดการณ์ว่าราคาสินทรัพย์จะลดลง จะเปิดสถานะขาย (short position) หากราคาเป็นไปตามที่คาดการณ์ เทรดเดอร์จะได้รับผลกำไรเท่ากับผลต่างของราคา
ตัวอย่าง:
สมมติว่าเทรดเดอร์เปิดสถานะซื้อ (long) หุ้น ABC ที่ราคา 100 บาท โดยใช้เลเวอเรจ 1:10
- เงินทุนที่ใช้: 1,000 บาท
- มูลค่าตำแหน่ง: 10,000 บาท
หากราคาหุ้น ABC เพิ่มขึ้นเป็น 105 บาท เทรดเดอร์จะได้รับผลกำไรดังนี้:
- ผลต่างของราคา: 5 บาท
- กำไรรวม: 5 บาท x 10 = 50 บาท
ในทางกลับกัน หากราคาหุ้น ABC ลดลงเป็น 95 บาท เทรดเดอร์จะขาดทุนดังนี้:
- ผลต่างของราคา: 5 บาท
- ขาดทุนรวม: 5 บาท x 10 = 50 บาท
กลยุทธ์การซื้อขาย CFD
มีกลยุทธ์การซื้อขาย CFD มากมายที่เทรดเดอร์สามารถนำไปใช้ได้ ขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรด ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และความเข้าใจในตลาด
- **Scalping:** Scalping เป็นกลยุทธ์การเทรดระยะสั้นที่มุ่งเน้นการทำกำไรจากความผันผวนของราคาเล็กน้อย
- **Day Trading:** Day Trading เป็นกลยุทธ์การเทรดที่เปิดและปิดตำแหน่งภายในวันเดียวกัน
- **Swing Trading:** Swing Trading เป็นกลยุทธ์การเทรดที่ถือครองตำแหน่งเป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ เพื่อจับการเคลื่อนไหวของราคาในระยะกลาง
- **Position Trading:** Position Trading เป็นกลยุทธ์การเทรดระยะยาวที่ถือครองตำแหน่งเป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี เพื่อจับแนวโน้มของราคาในระยะยาว
- **Breakout Trading:** Breakout Trading เป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการซื้อขายเมื่อราคาทะลุแนวต้านหรือแนวรับสำคัญ
- **Trend Following:** Trend Following เป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการซื้อขายตามแนวโน้มของราคา
- **Mean Reversion:** Mean Reversion เป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการซื้อขายเมื่อราคาเบี่ยงเบนไปจากค่าเฉลี่ย
- **Fibonacci Retracement:** ใช้ระดับ Fibonacci เพื่อคาดการณ์จุดกลับตัวของราคา Fibonacci Retracement
- **Elliott Wave:** วิเคราะห์รูปแบบคลื่นของราคาเพื่อคาดการณ์ทิศทางในอนาคต Elliott Wave
- **Bollinger Bands:** ใช้ Bollinger Bands เพื่อวัดความผันผวนและระบุโอกาสในการซื้อขาย Bollinger Bands
- **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** ใช้ MACD เพื่อระบุแนวโน้มและสัญญาณการซื้อขาย MACD
- **RSI (Relative Strength Index):** ใช้ RSI เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มและระบุภาวะซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป RSI
- **Ichimoku Cloud:** ใช้ Ichimoku Cloud เพื่อระบุแนวโน้ม ระดับแนวรับแนวต้าน และสัญญาณการซื้อขาย Ichimoku Cloud
- **Price Action:** วิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียนและรูปแบบราคาเพื่อคาดการณ์ทิศทางในอนาคต Price Action
- **Harmonic Patterns:** ใช้รูปแบบ Harmonic เพื่อระบุโอกาสในการซื้อขายที่มีความแม่นยำสูง Harmonic Patterns
การวิเคราะห์ตลาดสำหรับการซื้อขาย CFD
การวิเคราะห์ตลาดเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจซื้อขาย CFD ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก:
- **การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis):** การวิเคราะห์ทางเทคนิค เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลราคาและปริมาณการซื้อขายในอดีตเพื่อคาดการณ์ทิศทางของราคาในอนาคต เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ได้แก่ กราฟแท่งเทียน กราฟแท่งเทียน แนวรับแนวต้าน แนวรับแนวต้าน ตัวชี้วัดทางเทคนิค ตัวชี้วัดทางเทคนิค และรูปแบบราคา รูปแบบราคา
- **การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis):** การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เป็นการวิเคราะห์ปัจจัยทางเศรษฐกิจ การเมือง และธุรกิจ ที่มีผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์
การจัดการความเสี่ยงในการซื้อขาย CFD
การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการซื้อขาย CFD เนื่องจากเลเวอเรจที่สูงสามารถขยายความเสี่ยงได้อย่างรวดเร็ว
- **Stop-Loss Order:** Stop-Loss Order เป็นคำสั่งให้โบรกเกอร์ปิดตำแหน่งโดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้ เพื่อจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
- **Take-Profit Order:** Take-Profit Order เป็นคำสั่งให้โบรกเกอร์ปิดตำแหน่งโดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้ เพื่อล็อคผลกำไร
- **Position Sizing:** Position Sizing เป็นการกำหนดขนาดของตำแหน่งที่เหมาะสมกับเงินทุนและความเสี่ยงที่ยอมรับได้
- **Diversification:** Diversification เป็นการกระจายความเสี่ยงโดยการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย
- **Risk/Reward Ratio:** Risk/Reward Ratio เป็นการประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทนที่คาดหวังจากการซื้อขายแต่ละครั้ง
การเลือกโบรกเกอร์ CFD
การเลือกโบรกเกอร์ CFD ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้:
- **Regulation (การกำกับดูแล):** เลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ
- **Spreads (ส่วนต่างราคา):** เลือกโบรกเกอร์ที่มีส่วนต่างราคาที่แข่งขันได้
- **Leverage (เลเวอเรจ):** เลือกโบรกเกอร์ที่เสนอเลเวอเรจที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
- **Platform (แพลตฟอร์ม):** เลือกโบรกเกอร์ที่มีแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ
- **Customer Support (การสนับสนุนลูกค้า):** เลือกโบรกเกอร์ที่มีการสนับสนุนลูกค้าที่ดี
ข้อควรระวังในการซื้อขาย CFD
- **ทำความเข้าใจความเสี่ยง:** ตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย CFD ก่อนที่จะเริ่มซื้อขาย
- **เริ่มต้นด้วยเงินทุนน้อย:** เริ่มต้นด้วยเงินทุนที่คุณสามารถเสียได้โดยไม่กระทบต่อการเงินส่วนตัว
- **ฝึกฝนด้วยบัญชีทดลอง:** ใช้บัญชีทดลองเพื่อฝึกฝนกลยุทธ์การซื้อขายก่อนที่จะลงทุนด้วยเงินจริง
- **อย่าซื้อขายด้วยอารมณ์:** ตัดสินใจซื้อขายโดยใช้เหตุผลและแผนการซื้อขายที่ชัดเจน
- **ติดตามข่าวสาร:** ติดตามข่าวสารและเหตุการณ์ที่อาจมีผลกระทบต่อตลาด
สรุป
การซื้อขาย CFD เป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเก็งกำไรจากความผันผวนของราคาสินทรัพย์ต่างๆ อย่างไรก็ตาม การซื้อขาย CFD ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เทรดเดอร์จะต้องมีความรู้ความเข้าใจในกลไกการทำงาน กลยุทธ์ และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสมก่อนที่จะเริ่มซื้อขาย
| Header 1 | Header 2 | |||||||||||||
| สถานการณ์ | ความเสี่ยง | ราคาขึ้นตามที่คาดการณ์ | ขาดทุนจำกัด (Stop-Loss) | ราคาลงไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ | ขาดทุนสูงจาก Leverage | ตลาดผันผวนสูง | Slippage (ราคาที่ไม่ตรงกับที่คาดหวัง) | การถือครองข้ามคืน | ค่าธรรมเนียม Overnight Funding |
การซื้อขายฟอเร็กซ์ | การลงทุนในหุ้น | การบริหารเงินทุน | การวิเคราะห์กราฟ | การซื้อขายระยะสั้น
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
