การซื้อขายฟอเร็กซ์
- การซื้อขาย ฟอเร็กซ์ สำหรับผู้เริ่มต้น
การซื้อขายฟอเร็กซ์ (Foreign Exchange) หรือตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดและมีสภาพคล่องมากที่สุดในโลก เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ ทำให้เป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนทั่วโลก บทความนี้จะอธิบายพื้นฐานของการซื้อขายฟอเร็กซ์สำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงแนวคิดสำคัญ กลยุทธ์เบื้องต้น และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง
ฟอเร็กซ์คืออะไร?
ฟอเร็กซ์คือการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำกำไรจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน เงินตราแต่ละสกุลจะมีรหัสประจำตัว เช่น USD (ดอลลาร์สหรัฐฯ), EUR (ยูโร), JPY (เยนญี่ปุ่น) และ GBP (ปอนด์สเตอร์ลิง) การซื้อขายฟอเร็กซ์เกี่ยวข้องกับการซื้อสกุลเงินหนึ่งและขายอีกสกุลเงินหนึ่งพร้อมกัน
ตัวอย่างเช่น หากคุณเชื่อว่าค่าเงินยูโร (EUR) จะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) คุณอาจจะ *ซื้อ* EUR/USD ซึ่งหมายความว่าคุณกำลังซื้อยูโรและขายดอลลาร์สหรัฐฯ หากค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นจริง คุณจะสามารถขาย EUR/USD ในราคาที่สูงขึ้นและทำกำไรได้
คู่สกุลเงิน
การซื้อขายฟอเร็กซ์มักจะแสดงในรูปแบบของคู่สกุลเงิน ซึ่งประกอบด้วยสกุลเงินหลัก (base currency) และสกุลเงินรอง (quote currency) ตัวอย่างเช่น EUR/USD หมายความว่าคุณกำลังซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างยูโรและดอลลาร์สหรัฐฯ
- **สกุลเงินหลัก:** สกุลเงินแรกในคู่สกุลเงิน เป็นสกุลเงินที่คุณกำลังซื้อหรือขาย
- **สกุลเงินรอง:** สกุลเงินที่สองในคู่สกุลเงิน เป็นสกุลเงินที่คุณกำลังใช้เพื่อซื้อหรือขายสกุลเงินหลัก
คู่สกุลเงินสามารถแบ่งออกเป็นสามประเภทหลัก:
- **คู่เงินหลัก (Major Pairs):** คู่สกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับดอลลาร์สหรัฐฯ เช่น EUR/USD, USD/JPY, GBP/USD, USD/CHF, AUD/USD, และ USD/CAD คู่เงินเหล่านี้มักจะมีสภาพคล่องสูงและค่า spread ต่ำ
- **คู่เงินรอง (Minor Pairs):** คู่สกุลเงินที่ไม่เกี่ยวข้องกับดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ยังคงมีสภาพคล่องค่อนข้างสูง เช่น EUR/GBP, EUR/JPY, และ GBP/JPY
- **คู่เงินแปลก (Exotic Pairs):** คู่สกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินของประเทศกำลังพัฒนาหรือสกุลเงินที่ไม่ค่อยมีการซื้อขาย เช่น USD/TRY (ดอลลาร์สหรัฐฯ/ลีราตุรกี) คู่เงินเหล่านี้มักจะมีสภาพคล่องต่ำและค่า spread สูง
การทำงานของตลาดฟอเร็กซ์
ตลาดฟอเร็กซ์ไม่มีสถานที่ตั้งที่แน่นอน เป็นตลาดแบบกระจายศูนย์ (decentralized market) ซึ่งการซื้อขายเกิดขึ้นผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วโลก โดยมีผู้เข้าร่วมตลาดหลักดังนี้:
- **ธนาคารกลาง:** ธนาคารกลางของแต่ละประเทศมีบทบาทสำคัญในการควบคุมและดูแลเสถียรภาพของค่าเงิน
- **ธนาคารพาณิชย์:** ธนาคารขนาดใหญ่เป็นผู้เล่นหลักในตลาดฟอเร็กซ์ โดยทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการซื้อขายเงินตรา
- **สถาบันการเงิน:** กองทุนเฮดจ์ฟันด์ (hedge funds), บริษัทจัดการสินทรัพย์ (asset management companies) และบริษัทประกันภัย (insurance companies) เป็นสถาบันการเงินที่เข้าร่วมซื้อขายฟอเร็กซ์
- **นักลงทุนรายย่อย:** นักลงทุนทั่วไปสามารถเข้าถึงตลาดฟอเร็กซ์ผ่านโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ (forex brokers)
คำศัพท์สำคัญในการซื้อขายฟอเร็กซ์
- **Pip (Percentage in Point):** หน่วยวัดการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนที่เล็กที่สุด โดยทั่วไปคือ 0.0001 สำหรับคู่สกุลเงินส่วนใหญ่
- **Spread:** ความแตกต่างระหว่างราคาเสนอขาย (ask price) และราคาเสนอซื้อ (bid price) เป็นค่าธรรมเนียมที่โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์เรียกเก็บ
- **Leverage (อัตราทด):** การใช้เงินทุนกู้ยืมเพื่อเพิ่มขนาดของการซื้อขาย ช่วยให้คุณสามารถควบคุมตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้นได้ด้วยเงินทุนที่น้อยลง แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนด้วยเช่นกัน
- **Margin (เงินทุน):** จำนวนเงินที่คุณต้องมีในบัญชีของคุณเพื่อเปิดและรักษาสถานะการซื้อขาย
- **Long Position (สถานะซื้อ):** การซื้อสกุลเงินโดยคาดหวังว่าราคาจะสูงขึ้น
- **Short Position (สถานะขาย):** การขายสกุลเงินโดยคาดหวังว่าราคาจะลดลง
- **Stop-Loss Order (คำสั่งหยุดการขาดทุน):** คำสั่งที่จะปิดสถานะการซื้อขายโดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้ เพื่อจำกัดการขาดทุน
- **Take-Profit Order (คำสั่งทำกำไร):** คำสั่งที่จะปิดสถานะการซื้อขายโดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้ เพื่อทำกำไร
กลยุทธ์การซื้อขายฟอเร็กซ์เบื้องต้น
- **Trend Following (การติดตามแนวโน้ม):** กลยุทธ์ที่ใช้ประโยชน์จากแนวโน้มของราคา โดยซื้อเมื่อราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นและขายเมื่อราคาอยู่ในแนวโน้มขาลง การวิเคราะห์แนวโน้ม
- **Breakout Trading (การซื้อขายการทะลุแนวต้าน/แนวรับ):** กลยุทธ์ที่ซื้อเมื่อราคาทะลุแนวต้าน (resistance) หรือขายเมื่อราคาทะลุแนวรับ (support) แนวรับแนวต้าน
- **Range Trading (การซื้อขายในกรอบราคา):** กลยุทธ์ที่ซื้อเมื่อราคาเข้าใกล้แนวรับและขายเมื่อราคาเข้าใกล้แนวต้าน ในช่วงที่ราคาเคลื่อนที่อยู่ในกรอบราคาที่ชัดเจน การซื้อขายในกรอบ
- **Scalping (การเก็งกำไรระยะสั้น):** กลยุทธ์ที่ทำกำไรจากความผันผวนของราคาเล็กน้อย โดยเปิดและปิดสถานะการซื้อขายอย่างรวดเร็ว กลยุทธ์ Scalping
- **Day Trading (การซื้อขายรายวัน):** กลยุทธ์ที่เปิดและปิดสถานะการซื้อขายทั้งหมดภายในวันเดียวกัน กลยุทธ์ Day Trading
การวิเคราะห์ตลาดฟอเร็กซ์
การวิเคราะห์ตลาดฟอเร็กซ์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจซื้อขาย มีสองประเภทหลักของการวิเคราะห์:
- **การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis):** การวิเคราะห์ราคาและปริมาณการซื้อขายในอดีตเพื่อคาดการณ์แนวโน้มของราคาในอนาคต ใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น Moving Averages, MACD, RSI, Fibonacci Retracements, และ Bollinger Bands
- **การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis):** การวิเคราะห์ปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมืองที่อาจมีผลกระทบต่อค่าเงิน เช่น อัตราดอกเบี้ย, อัตราเงินเฟ้อ, การเติบโตทางเศรษฐกิจ, และความมั่นคงทางการเมือง การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
การบริหารความเสี่ยง
การซื้อขายฟอเร็กซ์มีความเสี่ยงสูง การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องเงินทุนของคุณ:
- **กำหนดขนาดตำแหน่ง (Position Sizing):** กำหนดจำนวนเงินที่คุณจะเสี่ยงในการซื้อขายแต่ละครั้ง โดยทั่วไปไม่ควรเสี่ยงเกิน 1-2% ของเงินทุนทั้งหมดของคุณ
- **ใช้ Stop-Loss Orders:** ตั้งค่า Stop-Loss Orders เพื่อจำกัดการขาดทุนของคุณ
- **ใช้ Leverage อย่างระมัดระวัง:** Leverage สามารถเพิ่มผลกำไรของคุณ แต่ก็สามารถเพิ่มการขาดทุนของคุณได้เช่นกัน ใช้ Leverage ในระดับที่คุณเข้าใจและสามารถรับความเสี่ยงได้
- **กระจายความเสี่ยง (Diversification):** อย่าลงทุนทั้งหมดของคุณในคู่สกุลเงินเพียงคู่เดียว
- **ควบคุมอารมณ์:** อย่าปล่อยให้อารมณ์เข้ามามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อขายของคุณ
โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์
การเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น:
- **Regulation (การกำกับดูแล):** เลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ
- **Spread and Commission (ค่า Spread และค่าธรรมเนียม):** เปรียบเทียบค่า Spread และค่าธรรมเนียมของโบรกเกอร์ต่างๆ
- **Trading Platform (แพลตฟอร์มการซื้อขาย):** เลือกแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ใช้งานง่ายและมีเครื่องมือที่จำเป็น
- **Customer Support (การสนับสนุนลูกค้า):** ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโบรกเกอร์มีการสนับสนุนลูกค้าที่ดี
การซื้อขายฟอเร็กซ์กับไบนารี่ออปชั่น
แม้ว่าบทความนี้จะเน้นที่ฟอเร็กซ์ แต่ผู้ที่คุ้นเคยกับ ไบนารี่ออปชั่น อาจสังเกตเห็นความแตกต่างบางประการ ไบนารี่ออปชั่นเป็นการคาดการณ์ว่าราคาจะขึ้นหรือลงภายในระยะเวลาที่กำหนด ในขณะที่ฟอเร็กซ์เป็นการซื้อขายคู่สกุลเงินโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำกำไรจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งสองรูปแบบมีความเสี่ยงและต้องการความเข้าใจในตลาดการเงิน
สรุป
การซื้อขายฟอเร็กซ์เป็นโอกาสที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการทำกำไรจากตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก อย่างไรก็ตาม การซื้อขายฟอเร็กซ์มีความเสี่ยงสูง จำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และการบริหารความเสี่ยงที่ดี ก่อนที่จะเริ่มซื้อขายจริง ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและฝึกฝนด้วยบัญชีทดลอง (demo account) ก่อน
| ! คู่สกุลเงิน !! คำอธิบาย !! | |
| EUR/USD | ยูโรเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ |
| USD/JPY | ดอลลาร์สหรัฐฯเทียบกับเยนญี่ปุ่น |
| GBP/USD | ปอนด์สเตอร์ลิงเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ |
| AUD/USD | ดอลลาร์ออสเตรเลียเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ |
| USD/CHF | ดอลลาร์สหรัฐฯเทียบกับฟรังก์สวิส |
| USD/CAD | ดอลลาร์สหรัฐฯเทียบกับดอลลาร์แคนาดา |
การบริหารเงินทุน การวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quantitative Analysis) Elliott Wave Theory Harmonic Patterns Ichimoku Cloud Parabolic SAR Average True Range (ATR) Stochastic Oscillator Three Moving Average (TMA) Donchian Channels Pivot Points Candlestick Patterns Chart Patterns Gap Trading News Trading Correlation Trading
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
