การเทรด Options

1. 1. การเทรด Options สำหรับผู้เริ่มต้น

1. 1. 1. บทนำ

การเทรด ออปชั่น (Options) เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถเก็งกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาในตลาดได้ โดยออปชั่นเป็นสัญญาที่ให้สิทธิ แต่ไม่บังคับให้ผู้ถือสัญญาซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิงในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (ราคาใช้สิทธิ) ภายในระยะเวลาที่กำหนด (วันหมดอายุ) บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจพื้นฐานของการเทรดออปชั่น รวมถึงประเภทของออปชั่น กลไกการทำงาน และกลยุทธ์เบื้องต้นที่นักลงทุนมือใหม่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้

1. 1. 1. ออปชั่นคืออะไร?

ออปชั่นเป็นตราสารอนุพันธ์ (Derivative) ซึ่งมูลค่าของมันมาจากสินทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset) เช่น หุ้น, ดัชนีหุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์, หรือสกุลเงิน ออปชั่นมีสองประเภทหลักคือ:

• **Call Option:** ให้สิทธิแก่ผู้ถือสัญญาในการ *ซื้อ* สินทรัพย์อ้างอิงในราคาใช้สิทธิ
• **Put Option:** ให้สิทธิแก่ผู้ถือสัญญาในการ *ขาย* สินทรัพย์อ้างอิงในราคาใช้สิทธิ

ผู้ขายออปชั่น (Writer) จะได้รับค่าพรีเมียม (Premium) จากผู้ซื้อออปชั่น (Holder) เป็นค่าตอบแทนสำหรับความเสี่ยงที่ต้องรับ หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเคลื่อนไหวในทิศทางที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้ซื้อออปชั่น สัญญาออปชั่นก็จะหมดมูลค่า และผู้ซื้อจะสูญเสียค่าพรีเมียมที่จ่ายไป

1. 1. 1. ส่วนประกอบสำคัญของออปชั่น

• **สินทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset):** สินทรัพย์ที่ออปชั่นอ้างอิงมูลค่า เช่น หุ้น Apple (AAPL)
• **ราคาใช้สิทธิ (Strike Price):** ราคาที่ผู้ถือสัญญาออปชั่นสามารถซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิงได้
• **วันหมดอายุ (Expiration Date):** วันที่สัญญาออปชั่นหมดอายุ และไม่สามารถใช้สิทธิได้อีกต่อไป
• **ค่าพรีเมียม (Premium):** ราคาที่ผู้ซื้อออปชั่นจ่ายให้ผู้ขายออปชั่นเพื่อแลกกับสิทธิในการซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิง
• **รูปแบบออปชั่น (Option Style):** โดยทั่วไปมีสองรูปแบบคือ ออปชั่นแบบยุโรป (European Option) ซึ่งสามารถใช้สิทธิได้เฉพาะในวันหมดอายุ และออปชั่นแบบอเมริกัน (American Option) ซึ่งสามารถใช้สิทธิได้ตลอดอายุของสัญญา

1. 1. 1. กลไกการทำงานของออปชั่น

ลองพิจารณาตัวอย่างการซื้อ Call Option:

สมมติว่าคุณคาดการณ์ว่าราคาหุ้น XYZ จะเพิ่มขึ้นในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า คุณจึงตัดสินใจซื้อ Call Option ของหุ้น XYZ ที่ราคาใช้สิทธิ 50 บาท โดยจ่ายค่าพรีเมียม 2 บาทต่อหุ้น

• **สถานการณ์ที่ 1: ราคาหุ้น XYZ เพิ่มขึ้นเป็น 55 บาท เมื่อถึงวันหมดอายุ** คุณสามารถใช้สิทธิซื้อหุ้น XYZ ในราคา 50 บาท และขายในตลาดที่ราคา 55 บาท ทำให้ได้กำไร 5 บาทต่อหุ้น (ก่อนหักค่าพรีเมียม 2 บาท) กำไรสุทธิคือ 3 บาทต่อหุ้น
• **สถานการณ์ที่ 2: ราคาหุ้น XYZ ลดลงเป็น 45 บาท เมื่อถึงวันหมดอายุ** คุณจะไม่ใช้สิทธิซื้อหุ้น XYZ ในราคา 50 บาท เพราะราคาในตลาดต่ำกว่า คุณจะสูญเสียค่าพรีเมียม 2 บาทต่อหุ้น

ในทางกลับกัน หากคุณซื้อ Put Option และคาดการณ์ว่าราคาหุ้นจะลดลง คุณจะได้กำไรหากราคาหุ้นลดลงต่ำกว่าราคาใช้สิทธิ

1. 1. 1. ประเภทของออปชั่นเพิ่มเติม

นอกเหนือจาก Call และ Put Option แล้ว ยังมีออปชั่นประเภทอื่นๆ ที่น่าสนใจ:

• **Exotic Options:** ออปชั่นที่มีเงื่อนไขที่ซับซ้อนกว่าออปชั่นมาตรฐาน เช่น Barrier Option, Asian Option
• **Binary Options:** ไบนารี่ออปชั่น เป็นออปชั่นที่มีผลตอบแทนแบบสองทาง คือ ได้รับผลตอบแทนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า หรือไม่ได้รับผลตอบแทนเลย ขึ้นอยู่กับว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดหรือไม่
• **Index Options:** ออปชั่นที่อ้างอิงกับดัชนีหุ้น เช่น S&P 500, SET50

1. 1. 1. กลยุทธ์การเทรดออปชั่นเบื้องต้น

• **Covered Call:** กลยุทธ์ที่ใช้เมื่อคุณเป็นเจ้าของหุ้นอยู่แล้ว และต้องการสร้างรายได้เพิ่มเติมจากการขาย Call Option บนหุ้นที่คุณถือ
• **Protective Put:** กลยุทธ์ที่ใช้เมื่อคุณเป็นเจ้าของหุ้นอยู่แล้ว และต้องการป้องกันความเสี่ยงจากราคาหุ้นที่อาจลดลง โดยการซื้อ Put Option บนหุ้นที่คุณถือ
• **Straddle:** กลยุทธ์ที่ใช้เมื่อคุณคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะมีความผันผวนสูง แต่ไม่แน่ใจว่าจะขึ้นหรือลง โดยการซื้อทั้ง Call และ Put Option ที่ราคาใช้สิทธิและวันหมดอายุเดียวกัน
• **Strangle:** คล้ายกับ Straddle แต่ใช้ Call และ Put Option ที่มีราคาใช้สิทธิที่แตกต่างกัน เพื่อลดค่าพรีเมียมที่ต้องจ่าย

1. 1. 1. การวิเคราะห์เพื่อการเทรดออปชั่น

การเทรดออปชั่นอย่างมีประสิทธิภาพต้องอาศัยการวิเคราะห์ที่รอบด้าน:

• **การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis):** ศึกษาแนวโน้มราคา, รูปแบบกราฟ, และตัวชี้วัดทางเทคนิคต่างๆ เช่น Moving Average, MACD, RSI เพื่อคาดการณ์ทิศทางของราคา
• **การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis):** ศึกษาข้อมูลทางการเงินของบริษัท, สภาพเศรษฐกิจ, และปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง
• **การวิเคราะห์ความผันผวน (Volatility Analysis):** ประเมินระดับความผันผวนของราคา เพื่อกำหนดค่าพรีเมียมที่เหมาะสมของออปชั่น
• **การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis):** ตรวจสอบปริมาณการซื้อขายเพื่อยืนยันแนวโน้มและสัญญาณที่ได้จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค

1. 1. 1. การจัดการความเสี่ยงในการเทรดออปชั่น

การเทรดออปชั่นมีความเสี่ยงสูง ดังนั้นการจัดการความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญ:

• **กำหนดขนาด Position:** อย่าลงทุนในออปชั่นเกินกว่าที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้
• **ตั้ง Stop-Loss:** กำหนดระดับราคาที่คุณจะยอมรับการขาดทุน เพื่อจำกัดความเสียหาย
• **กระจายความเสี่ยง (Diversification):** ลงทุนในออปชั่นหลายประเภทและสินทรัพย์อ้างอิงที่แตกต่างกัน
• **ทำความเข้าใจ Risk-Reward Ratio:** ประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทนที่คาดหวังก่อนทำการซื้อขาย
• **ใช้กลยุทธ์การป้องกันความเสี่ยง (Hedging):** ใช้กลยุทธ์ต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา

1. 1. 1. แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมและการศึกษาต่อเนื่อง

• **เว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์:** ให้ข้อมูลเกี่ยวกับออปชั่นและการซื้อขาย
• **หนังสือและบทความเกี่ยวกับการเทรดออปชั่น:** มีหนังสือและบทความมากมายที่ให้ความรู้และแนวคิดในการเทรดออปชั่น
• **คอร์สเรียนออนไลน์:** มีคอร์สเรียนออนไลน์ที่สอนการเทรดออปชั่นสำหรับผู้เริ่มต้นและผู้ที่มีประสบการณ์
• **ชุมชนนักเทรด:** เข้าร่วมชุมชนนักเทรดเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์

1. 1. 1. ตารางเปรียบเทียบ Call Option และ Put Option

เปรียบเทียบ Call Option และ Put Option

! Call Option |! Put Option

ได้กำไร | ขาดทุน

ขาดทุน | ได้กำไร

ซื้อ | ขาย

คาดการณ์ราคาขึ้น | คาดการณ์ราคาลง

จ่าย | รับ

1. 1. 1. สรุป

การเทรดออปชั่นเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ซับซ้อน แต่ก็มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่สูง หากคุณมีความเข้าใจในหลักการทำงาน กลไกการตลาด และการจัดการความเสี่ยงอย่างถูกต้อง การเริ่มต้นด้วยการศึกษาและฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการเทรดออปชั่นได้ในที่สุด อย่าลืมศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การประเมินมูลค่าออปชั่น (Option Pricing) เช่น แบบจำลอง Black-Scholes และ กรีก (Greeks) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความเสี่ยงของออปชั่น

การบริหารจัดการเงินทุน (Money Management) เป็นอีกสิ่งสำคัญที่ควรเรียนรู้ควบคู่ไปกับการเทรดออปชั่น เพื่อให้คุณสามารถควบคุมความเสี่ยงและรักษาเงินทุนของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ภาษีออปชั่น (Option Taxation) ก็เป็นสิ่งจำเป็นเมื่อคุณเริ่มทำกำไรจากการเทรดออปชั่น

โปรดจำไว้ว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น